จากกรณี อดีตพระธรรมวชิรานุวัตร หรือ ทิดแย้ม อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง จ.นครปฐม และอดีตเจ้าคณะภาค 14 ถูกจับดำเนินคดีกระทำการทุจริตยักยอกเงินจากบัญชีธนาคารของวัด โอนเข้าบัญชีธนาคารส่วนตัว เพื่อนำไปเล่นพนันบาคาร่าออนไลน์ กว่า 847 ล้านบาท พร้อมด้วย น.ส.อรัญญาวรรณ วังทะพันธ์ โบรกเกอร์เว็บพนัน และนาย เอกพจน์ ภูฆัง หรือ อดีตพระมหาเอกพจน์ ภูฆัง ซึ่งเป็นอดีตพระคนสนิทอดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง
ขณะเดียวกันมีข้อมูลจากแหล่งข่าวที่เปิดเผยว่าช่วงก่อนที่ “ทิดแย้ม” จะเป็นเจ้าคณะภาค 14 ได้มีการส่งเงินให้กับผู้มีอำนาจถึง 15 ล้าน ในการแต่งตั้งเจ้าคณะภาค 14
จากนั้นเมื่อ “ทิดแย้ม” ได้เป็นเจ้าคณะภาค 14 จึงต้องมีการเอาทุนคืน และก่อนที่จะมีการเปิดโปงเรื่องราวของทิดแย้ม พบว่าทิดแย้ม ได้มีการไปตระเวนขอเงินตามวัดต่างๆ ภายใต้การปกครองของ “ทิดแย้ม” เพราะกังวลว่าจะถูกสีกาแฉเรื่องราวทั้งหมด จึงพยายามหาเงินเพื่อไปปิดปาก แต่สุดท้ายไม่ทันเรื่องถึงมือตำรวจ
โดยวิธีการเรียกรับเงินของ ทิดแย้ม แหล่งข่าวอ้างว่าไปตะเวนตามวัดต่างๆในจังหวัดนครปฐม เบื้องต้นตรวจสอบพบว่ามีทั้งหมด 4 วัด
วัดแรก ให้ทิดแย้มยืม เงิน 2 ล้านบาท และให้ยืมเงินหลักแสนอีกหลายครั้ง โดยเป็นการยื่นข้อเสนอในการวิ่งเต้นให้เป็นเจ้าคณะตำบล โดยที่วัดจะมีพิธีกรรม ปิดทองฝั่งลูกนิมิต หรือพิธีเจิมมือ
ส่วนวัดที่ 2 เจ้าอาวาสวัดนี้ จะส่งเงินให้กับทิดแย้มเช่นกัน เพื่อวิ่งซื้อขายตำแหน่งเจ้าคณะตำบล โดยแห่งนี้มีรายได้จากการ เจิมหน้า ลงนะหน้าทองและตู้หยอดทำบุญ
ส่วนวัดที่ 3 มีรายได้เรื่องสร้างวัตถุมงคลเหรียญพระราหู ที่ทิดแย้ม ให้เซียนพระ สร้างขึ้นแล้วปล่อยเช่า ส่วนรายได้จะแบ่งกันคนละครึ่ง
และวัดที่ 4 จะเป็นเรื่องการ สร้างวัตถุมงคล หากมีการจัดจำหน่ายรายได้แบ่งให้กับทิดแย้มด้วยเช่นกัน โดยวัดทั้งหมดอยู่ในพื้นที่จังหวัดนครปฐม
Advertisement