จากกรณีกลุ่มคนร้ายไม่ทราบจำนวน ใช้อาวุธปืนหลายขนาดยิง และเผาศพ นายสุรเชษฐ์ ล้วนเกียรติขจร หรือ โกเชษฐ์ อายุ 69 ปี ผู้จัดการสวนของบริษัทฯ นายอนันต์ โตชนก หรือ โกเปี๊ยก อายุ 50 ปี ช่างทั่วไปของบริษัทฯ และนายวีระยุทธ ตั้นหนูลา อายุ 41 ปี คนงานสวนทุเรียนของบริษัทในพื้นที่ ต.ทรายขาว อ.คลองท่อม ด้วยยางล้อรถยนต์ เพื่ออำพรางคดี
ขณะเดียวกันพบศพเพิ่มอีก 1 ศพ ถูกเผาและฝังดินอยู่ในพื้นที่ใกล้กัน คาดตายมาแล้วไม่ต่ำกว่า 2 สัปดาห์ รวมทั้งหมด 4 ศพ ในพื้นที่สวนปาล์มน้ำมันพื้นที่ หมู่1 ต.กะลาเส อ.สิเกา จ.ตรัง เหตุเกิด ช่วงเวลา 01.00 น. วันที่ 11 พ.ค. ที่ผ่านมา ตามที่มีการนำเสนอข่าวไปก่อนหน้านี้
ต่อมาวันที่ 12 พ.ค. 68 น.ส.จุฑามาศ จันทร์จะรุง อายุ 39 ปี หลานสะใภ้ โกเปี๊ยก ผู้เสียชีวิต เล่าว่า โกเปี๊ยกเป็นเพียงช่างของบริษัทเจ้าของสวนทั้งหมดที่โกเชษฐ์ดูแลอยู่ เพียงแต่จะมีบางครั้งที่เจ้าของ หรือแม้แต่โกเชษฐ์จะไหว้วานให้โกเปี๊ยกไปช่วยดูแล
ซึ่งเมื่อวันที่ 9 พ.ค. 68 ยอมรับว่าครอบครัวทราบก่อนว่าโกเปี๊ยกจะมาดูสวนทุเรียนให้นายที่ทรายขาว จ.กระบี่ ส่วนสวนปาล์มที่เกิดเหตุเป็นที่ทราบดีอยู่แล้วว่านายก็มีสวนที่ต.กาลาเสด้วย
โดยไทม์ไลน์ก่อนพบโกเปี๊ยกเป็นศพนั้น โกเปี๊ยกออกจากบ้าน ที่อ.ลานสกาช่วง 07.00 น. ไปเอาเครื่องตัดหญ้าที่บริษัทใน อ.ทุ่งสง ก่อนออกมาพร้อมลูก 2 คน จากนั้นถึงสวนทุเรียนที่ทรายขาว จ.กระบี่ ช่วง 09.00 น.ซึ่งก่อนประสบเหตุ ลูกน้องได้บอกว่า โกเชษฐ์โทรหาโกเปี๊ยก ช่วง 16.00 น. แต่ผ่านไปรวมชั่วโมง หรือ 17.00 น. โกเปี๊ยกไม่ไปรับลูกน้อง 2 คน ที่สวนทุเรียน ขณะที่พี่สาวโกเปี๊ยกมีธุระกับโกพอดี ได้โทรหาโกตอน 19.00 น. แต่โกเปี๊ยกปิดเครื่อง ซึ่งไม่แปลกใจ คิดว่าขับรถกลับบ้าน
แต่จนเวลา 20.30 น. โกเปี๊ยกไม่ถึงสักที คิดว่าแอบพาลูกน้องเที่ยวหรือไม่ ขณะที่ ญาติๆ ก็เริ่มแปลกใจ จนช่วงเลยถึง 21.00 น. ก็ยังไม่ถึงบ้าน ด้านภรรยาก็เริ่มตั้งข้อสงสัยว่าประสบอุบัติเหตุหรือไม่ จึงโพสต์เฟซบุ๊กตามหา
จากนั้น เช็กรพ. เช็กสถานีตำรวจ จนตี 1 กว่า สายสุดท้ายคือโทรมาที่ สภ.สิเกา ถึงรู้มีเหตุเผาที่สวนปาล์มกัน ยอมรับครอบครัวก็ตกใจมากๆ ที่เกิดเหตุการณ์แบบนี้
ตนยืนยันได้ว่า โกเปี๊ยกไม่น่าจะเกี่ยวกับชนวนฆ่าในครั้งนี้ แต่เมื่อมาด้วยกัน อาจจะตกกระไดพลอยโจนไปด้วย เพราะโกเปี๊ยก เป็นคนนิ่งเงียบ ไม่ศัตรู
พร้อมย้ำว่างาน หลักๆ ของโกเปี๊ยก ไม่ใช่งานสวน แต่ถ้าได้รับการไหว้วาน ก็จะมาช่วยประสานงานกัน ถึงค่อนข้างมั่นใจว่าเหตุการณ์ในครั้งนี้สาเหตุไม่ได้มาจากโกเปี๊ยก
สำหรับครอบครัวตอนนี้ได้แต่รอคอยอยากจะรับร่างโกเปี๊ยกกลับบ้าน โกเปี๊ยกเป็นลูกสุดท้องด้วย ส่วนเรื่องทางคดีก็ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของตำรวจ ขณะที่สภาพจิตใจครอบครัวแย่มาก
ด้านนาย เกียรติศักดิ์ พริกประสงค์ อายุ 29 ปี ลูกน้องโกเปี๊ยก เล่าว่า หลังออกไปทำงานท้ายสวนทุเรียนกับโกเปี๊ยก ช่วงเวลา 16.00 น. ตนกับลูกน้องอีกคนนั่งพักผ่อนกันอยู่ มีเสียงโทรศัพท์ของโกเชษฐ์เป็นคนโทรศัพท์มาชวนโกเปี๊ยกออกไปสวนที่ จ.ตรัง โดยบอกแค่ว่าไปสวนปาล์ทที่กาลาเสกัน แต่ตนเองไม่ทราบในรายละเอียด เพราะได้ยินไม่ชัดว่าชวนไปทำอะไร ก่อนออกไปกัน 3 คน
ส่วนสาเหตุที่โกเปี๊ยกไม่พาตนเองไปด้วย เพราะให้รับผิดชอบงานที่สวนทุเรียนต่อจนจบ แต่พอถึง 17.00 น. โดยปกติโกเปี๊ยกต้องกลับมารับตนกับลูกน้องอีกคน แต่กลับไม่มาสักที จึงรู้สึกแปลกแปลกใจว่าจะเกิดเหตุร้ายเกิดขึ้นหรือไม่
สำหรับเรื่องสวนปาล์ม และสวนทุเรียน ตนเองยืนยันว่าตนเองไม่ค่อยทราบเกี่ยวกับผลผลิตในสวน ปกติจะทำงานอยู่ที่บริษัทรถจักรยานยนต์ นานครั้งที่จะมาช่วยงานในสวนบ้าง ดังนั้นกรณีที่ปาล์มในสวนปาล์มหายไปตนเองไม่ทราบเรื่องเลย
ยืนยันได้แค่ว่าโกเปี๊ยกไม่มีศัตรูที่ไหน เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นใจหายมากๆ วินาทีนั้นได้แต่รอให้นายหัวกลับมา แต่นายหัวก็ไม่กลับมา
Advertisement