จากกรณีมีผู้เสียหายร้องขอความช่วยเหลือเพจสายไหมต้องรอดว่ามีที่เด็กหญิงวัย 13 ปีไปเที่ยวงานวัดกลับถูกเจ้าอาวาสวัดดังในอำเภอศรีราชาจังหวัดชลบุรี ล่อลวงไปซื้อบริการในราคา 1,500 บาท รวมถึงบังคับให้ร่วมหลับนอนกับเด็กสาววัย 18 ปี อีก 1 คนในลักษณะสวิงกิ้ง โดยข่มขู่หากไม่ยอมจะไม่ให้เข้ามาทำบุญในวัดอีกตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ทีมข่าวจึงได้เข้าไปสอบถามพระลูกวัดรายหนึ่ง ให้ข้อมูลว่า พระครูดังกล่าว ย้ายเข้ามาจำวัดอยู่ที่นี้ได้ประมาณ 3 ปีแล้ว ตัวเองก็เห็นว่าเวลาพระครูท่านนี้ไปไหนมาไหนจะมีลูกศิษย์ผู้ชายเดินตามตลอด ไม่ให้ใครเข้าใกล้ โดยเฉพาะผู้หญิง จะไม่สามารถเข้าใกล้พระครูได้เลย เนื่องจากเคยเกิดกรณีที่พระครูเคยถูกกล่าวหาในเรื่องลักษณะเดียวกันนี้มาแล้ว จึงทำให้พระครูรูปดังกล่าวค่อนข้างระมัดระวังตัว
ส่วนเท่าที่ตนเองจำวัดอยู่ที่นี่ ตนก็ไม่เคยเห็นพฤติกรรมของพระครูตามที่ผู้เสียหายกล่าวหาแต่อย่างใด เพราะส่วนใหญ่แล้ว พระครูจะอยู่ที่วัดและนานๆครั้งถึงจะออกไปกิจนิมนต์ที่อื่น และทุกครั้งที่ออกไปก็จะมีเด็กวัดตามติดตัวตลอด
ส่วนเวลาที่พระครูอยู่ในกุฏิ ยอมรับว่าก็ลูกศิษย์ผู้ชายนอนเฝ้าอยู่ในกุฏิด้วย ก็เนื่องจากพระครูป่วยหลายโรคจึงต้องมีคนดูแลใกล้ชิด
พระลูกวัด ยืนยันว่า ไม่เคยมีผู้หญิงเข้ามาหาพระครูที่วัดในช่วงยามวิกาลแน่นอน เพราะที่วัดแห่งนี้ค่อนข้างเงียบเวลาใครเข้า-ออกก็จะรู้หมด จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะมีผู้หญิงเข้ามาขายบริการให้กับพระครู
ส่วนคนที่ที่ไปแจ้งความและร้องเรียนกับเพจสายไหมต้องรอด กล่าวหาพระครูตนเองก็รู้จัก ชื่อ“ต้นกล้า” เคยเป็นอดีตลูกศิษย์ของพระครู ปัจจุบันเจ้าตัวไม่ได้อยู่ที่วัดแล้ว เนื่องจากมีพฤติกรรมชอบลักเล็กขโมยน้อย
นอกจากนี้พระลูกวัด ยังบอกอีกว่า ปกติเวลาที่ นายต้นกล้า อดีตลูกศิษย์คนนี้ เข้ามาที่วัด เพื่อมาช่วยงานวัด ตนก็จะเห็นว่ามีแฟนของเขามาด้วยทุกครั้ง แต่ก็อยู่ได้ไม่นานก็ออกไป และผู้หญิงคนดังกล่าวก็ไม่เคยได้ใกล้ชิดกับพระครูแต่อย่างใด
ทั้งนี้ตนยืนยัน 100% ว่า พระครูรูปดังกล่าวไม่ได้มีพฤติกรรมตามที่ผู้เสียหายกล่าวหาแน่นอน โดยตนเองสันนิษฐานว่า นายต้นกล้า คงจะโกรธแค้นที่ถูกไล่ออกจากวัด จึงหาเรื่องใส่ร้าย
จากนั้นทีมข่าวจึงได้สอบถามพระลูกวัดท่านนี้ หากมีการพิสูจน์ว่าพระรูปดังกล่าวเป็นจริงตามที่ถูกกล่าวหาจะรู้สึกอย่างไร โดยพระลูกวัดท่านนี้ ได้บอกกับทีมข่าวว่า ตนก็ทำใจได้ พร้อมกับบอกว่า “กรรมใครกรรมมัน”
Advertisement