จากกรณีนาย ชัยเมศร์ สิทธิสนิทพงศ์ หรือชื่อเดิมนาย เต็มพงษ์ ฤทธิ์เดชหรือ สจ.โต้ง อายุ 49 ปี อดีต ส.อบจ.คนดัง และโปรโมเตอร์มวยผู้กว้างขวาง รวมถึงเป็นคนสนิทของนาย สุนทร วิลาวัลย์ หรือ โกทร นายกอบจ.ปราจีนบุรี และอดีต รมช.สาธารณสุข ถูกยิงเสียชีวิตในบ้านพักของนาย สุนทร ช่วงค่ำวันที่ 11 ธ.ค. ที่ผ่านมา จนต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการยื่นศาลฝากขัง โกทร พร้อมลูกน้องรวม 7 คน
ต่อมาวันที่ 14 ธ.ค. 67 ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าตรวจค้นบ้านพักคนสนิทของโกทร 4 หลัง ซึ่ง 1 ในนั้นเป็นบ้านของ กำนันพรเทพ ไกรสิงห์ กำนันตำบลโพธิ์งาม สามารถตรวจยึดอายุปืนได้ ก่อนส่มอบให้พิสูจน์หลักฐานนำไปตรวจสอบ เพื่อเปรียบเทียบกับปลอกกระสุนในวันเกิดเหตุว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกันหรือไม่
ล่าสุดทีมข่าว “อมรินทร์ทีวี” ได้เดินทางไปที่บ้านกำนันพรเทพ หลังทราบว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ประจันตคาม ได้ขอค้นบ้านเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ซึ่งกำนันพรเทพไม่ได้อยู่บ้าน แต่ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ว่า เป็นเรื่องจริง ตนเองก็ยินยอมให้มีการเข้าตรวจค้นตามหน้าที่ ซึ่งตำรวจก็มีการขอนำอาวุธปืนไปตรวจสอบ 3 กระบอก แบ่งเป็นอาวุธปืนลูกสอง 5 นัด ลูกซอง 8 นัด และปืนพก 9มม. ซึ่งมีใบอนุญาต และมีทะเบียนถูกต้องตามกฏหมาย
โดยตำรวจก็มีการแสดงเจตจำนงสาเหตุของการตรวจค้นว่า เป็นในเรื่องของการปราบปรามผู้มีอิทธิพล รวมถึงมีเหตุการณ์สำคัญใน จ.ปราจีนบุรี คือกรณี สจ.โต้งถูกยิงในบ้านของโกทร และยืนยันได้ว่าไม่เคยให้ใครยืมอาวุธปืน และการที่ตำรวจพยายามจะกวาดล้างผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ ตนเองก็ไม่มีความกังวลใจอะไร เพราะไม่ใช่คนมีอิทธิพลอะไร ชาวบ้านก็รู้ดีกันหมด
ส่วนตนเองมีความสัมพันธ์กับโกทรนั้น โกทรสนิทสนมกับพ่อตนเอง สมัยยังเล่นการเมือง ส่วนใหญ่ก็จะเป็นที่ปรึกษา ตนเองก็ไม่กล้าเข้าไปขอความช่วยเหลือมากเท่าไหร่ แต่โกทรรักพ่อตนเองมาก หลังจากพ่อเสียชีวิต โกทรก็เลยรักและเอนดูตนเองด้วย จึงทำให้ตนเองมีความสนิทสนมกับโกทรพอสมควร
ส่วนวันนี้ตนเองมีกำหนดการพาผู้ช่วยและผู้ใหญ่บ้านไปศึกษาดูงานที่ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี มีการจองรถบัส 2 คัน และจองที่อยู่ล่วงหน้ามาก่อนหน้านี้แล้ว ไม่ใช่เป็นการหลบหนีไปไหน หากตำรวจจะมีการเชิญตัวไปสอบปากคำตนเองก็ยินดีมากๆ
ส่วนความสัมพันธ์ระหว่างตนเองกับ สจ.โต้ง เพราะเป็นพรรคพวกเดียวกัน ก่อนหน้านี้ สจ.โต้ง ก็มีการเข้ามาปรึกษาในเรื่องของการจะลงสมัครนายก อบจ.ปราจีนบุรี ว่าจะนำ สจ.จอย ลงสมัคร ซึ่งวันศุกร์ที่ผ่านมาตนเองก็ได้มีโอกาสสอบถามไปยัง โกทร แล้ว ได้คำตอบชัดเจนว่าโกทรจะไม่ลงสมัครแข่งในรอบนี้ ตนเองก็ได้มีการแจ้งให้ทราบว่า สจ.โต้ง จะเข้ามาปรึกษาตนเอง ทางด้านของโกทรก็บอกว่า “ไม่เป็นไร ให้ช่วย สจ.โต้งไป มันมาขอกูแล้ว ก็ยกให้มันไป ซึ่งก็ต้องช่วยสนับสนุนกัน เพราะเป็นพวกเดียวกัน”
ส่วนตัวไม่ทราบว่าจะเกิดความขัดแย้งนี้ ในมุมมองของตนเองทั้งสองคน เขารักกันอยู่ เพียงแต่หลังจากไม่กี่วันที่ผ่านมา มันเกิดเหตุการณ์ที่ทำให้ทั้งสองคนเกิดความคาใจกัน ไม่ยอมเปิดใจคุยกัน ต่างฝ่ายต่างฟังข้อมูลจากลูกน้อง ตนเองก็รู้สึกเสียดายเหมือนกันจะเป็นการที่เกิดขึ้น ถ้าหันหน้าพูดคุยกันตั้งแต่วันเสาร์ที่ผ่านมา เหตุการณ์นี้คงไม่เกิดขึ้น ส่วนกรณีที่ รองอุ๊ เป็นคนกลางเข้าไปพูดคุย ก็น่าจะเป็นเพราะว่าทั้งสองฝ่ายมีเรื่องที่คาใจกัน ตนเองก็ไม่ทราบว่าจะมีการนัดไปเจรจาพูดคุยกันในวันเกิดเหตุ มาทราบอีกครั้งในช่วงเวลาประมาณ 21.30 น. ของวันเกิดเหตุ
Advertisement