เปิดใจแท็กซี่โดนจี้จนชนยับ เชื่อรอยสักขลังแทงไม่เข้า เพื่อนชายคลั่งแฉตกงานทำเพี้ยน (คลิป)
จากกรณีเมื่อวันที่ 7 ก.ย. 63 เวลา 21.00 น. พ.ต.ต.วศิน ธโนภาสรัตน์ สารวัตรสอบ สน.บางกอกน้อย รับแจ้งเหตุชายคลุ้มคลั่งใช้มีดจี้โชเฟอร์แท็กซี่ จนรถชนกันเกิดความชุลมุนวุ่นวายบริเวณหน้าปั๊มแก็ส ปากซอยจรัญสนิทวงศ์ 18 เขตบางกอกน้อย กรุงเทพฯ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ที่เกิดเหตุพบรถแท็กซี่โตโยต้า อัลติส สีชมพู ทะเบียน ทษ 5366 กรุงเทพฯ จอดอยู่สภาพด้านหน้าพังยับเยิน มีนายมนัสวิน เนตรทอง อายุ 33 ปี โชเฟอร์ยืนรอให้การด้วยอาการตื่นตระหนก
และพบผู้ก่อเหตุ นายคัยมก วัณณสุโภประสิทธิ์ อายุ 25 ปี สวมเสื้อเชิ้ต ท่อนล่างเปลือยเปล่า อยู่ในอาการคลั่ง แต่ไม่มีเรี่ยวแรง นอนจมกองเลือดอยู่บนพื้นถนน หลังจากใช้มีดมีดปลายแหลมยาวและเหล็กแทงแทงลำคอ และราวนมซ้ายตัวเองรวม 2 แผล
ล่าสุด วันที่ 8 ก.ย. 63 ที่ สน.บางกอกน้อย เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานตำรวจ (พฐ.) เดินทางเข้ามาตรวจสภาพความเสียหาย รถแท็กซี่สีชมพู แท็กซี่สีฟ้า เพื่อเก็บหลักฐานประกอบคดี และร่องรอยการชน
นายมนัสวิน เนตรทอง คนขับรถแท็กซี่ที่ถูกจี้แทง เดินทางเข้ามาให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน สน.บางกอกน้อย เพิ่มเติมประกอบสำนวนคดี พร้อมเปิดเผยเหตุการณ์ว่า เมื่อวานนี้ เวลาประมาณ 19.30 น. ขณะที่ตนกำลังขับรถแท็กซี่ผ่านถนนจรัญสนิทวงศ์ มุ่งหน้าท่าพระ กระทั่งถึงช่วงจุดกลับรถ ฝั่งตรงข้ามซอยจรัญสนิทวงศ์ 23 มีนายคัยมก สวมเสื้อเชิ้ต ท่อนล่างเปลือยเปล่า วิ่งข้ามฝั่งมาจากซอยจรัญสนิทวงศ์ 23 แล้วไล่เปิดประตูรถยนต์หลายคัน
กระทั่งมาเปิดประตูรถแท็กซี่ของตน ซึ่งตนกดล็อกประตูไม่ทัน ก่อนหนุ่มคลั่งรายนี้จะขึ้นมาบนรถแท็กซี่ พร้อมพกอาวุธมีดปลายแหลมและไขควง มีเลือดอาบตามตัวขึ้นมาบนรถ แล้วพูดกับตนว่า "ไป ไป ไป" คล้ายคนกำลังหนีตายมา แล้วบอกว่า "เอามา 400 บาท" แต่ตนไม่ได้ให้เงินไป เนื่องจากคนก่อเหตุมีอาการคลุ้มคลั่ง สติหลุด คล้ายคนติดยา
จากนั้น นายคัยมกมาเกาะที่ด้านหลังเบาะคนขับ แต่ไม่ได้ล็อกคอ ก่อนจะใช้อาวุธมีดปลายแหลมกระหน่ำแทงตนหลายจุด ทั้งบริเวณด้านหลังศีรษะจนถึงกลางหลัง เป็นรอยแดงหลายจุด ตนรู้สึกตกใจกลัวและทำอะไรไม่ถูก กังวลเรื่องความปลอดภัย จึงทำให้ขับรถไปพุ่งชนรถแท็กซี่สีฟ้า ก่อนแท็กซี่ฟ้าพุ่งไปชนรถกะป้อ จากนั้นตนหักรถแซงซ้ายขับต่อไป กระทั่งพุ่งชนรถบิ๊กไบก์อัดกับท้ายรถ Lexus สีดำที่อยู่ด้านหน้าอย่างจัง ทำให้รถที่ขับขี่บนท้องถนนได้รับความเสียหายและมีผู้บาดเจ็บ ตนอยู่ในอาการตกใจกลัวคนก่อเหตุ แต่อาศัยจังหวะช่วงรถนิ่ง วิ่งหนีตายออกมาจากรถแท็กซี่
ทั้งนี้ รถแท็กซี่สีชมพูคันดังกล่าวเป็นรถเช่าซื้อ ตนขับมาเพียง 20 วันเท่านั้น ยังไม่ต่อใบเคลมประกันอุบัติเหตุ กระทั่งมาเกิดเหตุถูกจี้และพุ่งชนรถจำนวนหลายคัน ตนต้องจ่ายเงินค่าซ่อมเองทั้งหมด ประเมินค่าซ่อมคาดว่าหลายหมื่นบาท
หลังเกิดเหตุ เชื่อว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของแหวน "เบี้ยแก้" ที่คุณตามอยให้ตอนเด็ก และเพราะว่ารอยสักต่าง ๆ ตามร่างกาย ทั้งเจ้าแม่กวนอิม, เก้ายอด, ห้าแถว และภาพรอยสักฤๅษีสักโดยพระรูปหนึ่งที่วัดปากน้ำภาษีเจริญ ทำให้ตนแคล้วคลาดปลอดภัย และที่สำคัญเนื่องจากเพราะตนระลึกถึงคุณตา คนที่ดูแลตนมาตั้งแต่เด็กจึงปลอดภัย แทงไม่เข้าและไม่บาดเจ็บ
ตอนนี้ยอมรับว่าค่อยข้างเครียด เรื่องรถแท็กซี่ที่เสียหาย เนื่องจากต้องหาเงินมาซ่อมแท็กซี่ และหาเงินผ่อนชำระเดือนละ 16,500 บาท เมื่อไม่มีแท็กซี่ขับ ทำให้รายได้ลดน้อยลง ต้องไปหยิบยืมเงินคนอื่นใช้ประทังชีวิต ประกอบกับมีภาระเลี้ยงดูลูกชายวัย 5 ขวบและ 9 ขวบอีกด้วย
นายโน้ต (นามสมมติ) เพื่อนสนิทผู้ต้องหา เปิดเผยว่า ตนเคยทำงานกับนายคัยมกที่บริษัทขนส่งเอกชน กระทั่งผู้ต้องหาลาออกเมื่อ 2 เดือนที่แล้ว เนื่องจากไม่พอใจในค่าตอบแทนที่ลดลงตามสภาพเศรษฐกิจ แล้วว่างงานเป็นเวลานาน ที่ผ่านมาขณะทำงานนายคัยมกมีอารมณ์ร้อนโมโหง่าย หงุดหงิด หัวร้อนขณะทำงาน แต่ไม่เคยคลุ้มคลั่ง คาดว่าเมื่อตกงานเกิดภาวะความเครียด งานไม่มี เงินไม่มา จึงไปเสพยาแก้เครียดกระทั่งสติหลุด ตนเชื่อว่าสภาวะป่วยทางจิตที่เกิดจากความเครียด
ทั้งนี้ วันก่อนเกิดเหตุ ผู้ต้องหาโทรศัพท์หาตนแต่พูดจาไม่รู้เรื่อง บอกว่า "อยากรวยไหม ถ้าอยากรวยให้เข้ามาหา แล้วไปโพสต์เฟซบุ๊ก 999 เพื่อความรวย" ตนเชื่อว่าเพื่อนเริ่มเพี้ยนและสติหลุดแล้ว ทราบต่อมาว่าไปสวดมนต์และนั่งคุยกับสุนัขที่หน้าหอพัก นอกจากนี้ ผู้ต้องหา เคยมีภรรยาและลูกชาย 1 คน แต่ปัจจุบันแยกทางกันแล้วจึงพักอยู่คนเดียว ไม่เคยมีปัญหากับใครและไม่เคยเล่นของ หรือสวดไหว้คาถาอะไรจนกระทั่งของเข้าตัว
ความคืบหน้าคดี พนักงานสอบสวนอายัดตัวผู้ต้องหาไว้ ซึ่งกำลังรักษาตัวอยู่ รพ.ศิริราช หากอาการดีแล้วจะนำตัวส่งตรวจด้านสุขภาพจิตต่อไป ทั้งนี้ แจ้งข้อหาคดีอาญาที่ 404 ปี ข้อหา ทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่กาย พกพาอาวุธมีดติดตัวไปในเมือง ก่อนดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป
Advertisement
