เมื่อวันที่ 2 ก.ย.63 เวลา 08.00 น. ทีมข่าวอมรินทร์ทีวี รายงานว่า ชาวบ้านกกกอกได้ไปทำบุญที่วัดกกกอกในงาน "ห่อข้าวสาก" เป็นประเพณีการทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้ญาติที่ล่วงลับไปแล้ว ซึ่งจะจัดตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 10 โดยชาวบ้านได้มีการนำของทำบุญใส่ถุงมาวางรวมกันภายในศาลา และเขียนชื่อญาติผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว เช่นเดียวกับงานห่อข้าวประดับดินที่ผ่านมา
คลิกอ่านข่าว "น้องชมพู่" ทั้งหมดที่นี่
โดยวันนี้ครอบครัวที่มาร่วมงานได้แก่ ยายสมควร, น้าแต, น้าเสริม, นายอนามัย พ่อของน้องชมพู่ นางสาวิตรี แม่ของน้องชมพู่ ได้มาทำบุญร่วมกัน ส่วนตาชาญไม่ได้มาร่วมงาน เช่นเดียวกับลุงพลและป้าแต๋นไม่ได้มาร่วมงาน ซึ่งวันนี้ได้มีการถวายเพลพระ และกรวดน้ำให้กับผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว
ภายหลังจากเสร็จพิธี พ่อแม่ของน้องชมพู่ ได้นำอาหารไปตั้งถวายที่หน้าสถูปเก็บกระดูกของน้องชมพู่ โดยมีปูนึ่ง ไข่พะโล้ เพราะน้องชมพู่ชอบกินไข่ขาว อีกทั้งน้ำดื่ม นมเปรี้ยว สาหร่าย ขนมสอดไส้ซึ่งเป็นขนมที่น้องชอบ โดยได้จุดธูป 1 ดอก เพื่อถวายของให้น้องชมพู่
โดยขณะที่ไหว้ถวาย แม่ของน้องชมพู่ก็พูดกับน้องชมพู่ว่า ให้ไปหาหลักฐานมาช่วยตำรวจ จะได้จับคนร้ายไว ๆ สงสารตำรวจที่ต้องทำงานหนัก ตอนนี้มีพยานแต่หลักฐานนั้นต้องไปหามาเยอะ ๆ
แม่ของน้องชมพู่ กล่าวต่อว่า เมื่อนำนมเปรี้ยวและสาหร่ายมาให้ลูก ก็ทำให้คิดถึงตอนที่ลูกสาวยังมีชีวิต เมื่อได้รับของก็มักจะร้องว่า "โอ้โห" และทำตาโตแบบดีใจสุด ๆ แม้ว่าจะชอบกินขนมแค่ไหน ก็มักจะแบ่งให้น้องอชิที่เป็นเพื่อนสนิทเสมอ อย่างไรก็ตาม วันนี้ตอนที่ทำบุญ ก็ได้อธิษฐานถึงน้องชมพู่ให้มารับเอาส่วนบุญกุศลที่ตนและนายอนามัย อุทิศให้
กรณีแม่ของน้องชมพู่ พูดกับสถูปน้องชมพู่ว่า "ตอนนี้มีพยานแต่หลักฐานนั้นต้องไปหามาเยอะ ๆ" ซึ่งเหมือนพูดมีนัยอะไรบางอย่างหรือไม่
ทีมข่าวจึงเดินทางไปพูดคุยกับนายวัชรินทร์ กงแก่ท้าว หรือ พ่อแบม ชาวบ้านกกกอก ที่เคยให้ข้อมูลว่า พบเจอกับลุงพลอยู่ที่สวนยางเวลา 9 โมงกว่าในวันเกิดเหตุ เปิดเผยว่า ตนยังยืนยันคำเดิมว่าในวันเกิดเหตุที่เจอลุงพลนั้น ตนได้เจอในเวลา 9 โมงกว่าจริง ๆ ซึ่งตนก็ได้ให้ข้อมูลแบบเดิมกับตำรวจไปหลายครั้ง โดยที่ไม่ได้เปลี่ยนแปลงข้อมูล
นายวัชรินทร์ กล่าวต่อว่า แต่ถ้าหากวันหนึ่งตนถูกนำตัวไปเป็นพยานนั้น ตนก็ยังคิดอยู่ว่าจะกล้าไปเป็นพยานหรือไม่ เพราะกลัวเรื่องผลกระทบที่ตามมา จึงยังไม่ตัดสินในเรื่องการเป็นพยาน อย่างไรก็ตาม ตนมั่นใจว่าไม่ได้จำเหตุการณ์คาดเคลื่อน แต่ตนก็จำเวลาแบบนี้มาตลอด
ทีมข่าวสอบถาม นายไชย์พล วิภา และนางสมพร หลาบโพธิ์ ลุงป้าน้องชมพู่ เปิดเผยว่า พยานที่แม่น้องชมพู่พูดถึง ตนไม่ทราบว่าเป็นใคร แต่หากให้นึกถึงพ่อแบม ตนก็ไม่ได้มีความกังวลอะไร เพราะครั้งแรกที่มีข่าวเกี่ยวกับการเจอตน มันเป็นเวลาที่ตนอยู่กับแม่น้องชมพู่และป้าแต๋นที่สวนยางพารา
ส่วนป้าแต๋น ก็ไม่ได้มีความกังวลอะไร เพราะตนเจอเรื่องร้าย ๆ มามากแล้ว จึงมั่นใจในตัวลุงกับป้าเอง เพราะหากมีพยานอะไร สุดท้ายตนเตรียมใจ ตนสู้ตลอด ดังนั้นพยานไม่ต้องกังวลอะไร
กรณีผู้ใช้เฟซบุ๊ก "นรินทร์ หลาบโพธิ์" น้าของน้องชมพู่ โพสต์ข้อความลงใน "กลุ่มคนรักแม่น้องชมพู่" โดยข้อความระบุว่า "บางอย่างต้องใช้เวลา เราเองก็ได้แต่รอ"
ทีมข่าวอมรินทร์ทีวี เดินทางไปสอบถามเรื่องดังกล่าวจาก นายนรินทร์ หลาบโพธิ์ น้าของน้องชมพู่ ให้ข้อมูลว่า ก่อนหน้านี้ตนไม่เคยเข้าร่วมกลุ่มเฟซบุ๊กที่สนับสนุนแม่ของน้องชมพู่เลย แต่กลุ่มดังกล่าวตนเพิ่งเข้าไปได้ไม่นาน ตอนแรกก็อยากจะอยู่เฉย ๆ แค่ดูความเคลื่อนไหว ไม่อยากแสดงตัว แต่เห็นมีคนให้กำลังใจแม่น้องชมพู่ ตนจึงโพสต์ข้อความลงไปเพียงเพราะอยากให้กำลังใจคนที่ติดตามว่า เราเองก็ต่างต้องรอความกระจ่างในคดี ซึ่งตนก็ไม่ได้คิดว่าจะมีคนให้ความสนใจขนาดนี้
อย่างไรก็ตาม การที่ตนโพสต์ลงไปนั้น ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับความคืบหน้าทางคดีแต่อย่างใด และเชื่อว่าถ้ามีความคืบหน้าเมื่อไรเราก็คงจะได้รู้พร้อมกัน เพราะตำรวจก็ยังคงทำงานทุกวัน
Advertisement