เมื่อวันที่ 3 ส.ค.63 นายจีรพันธ์ เพชรขาว หรือหมอปลามือปราบสัมภเวสี เดินทางมาถึง โดยมีรถมาทั้งหมด 3 คัน รถตู้ 1 คัน รถกระบะขนของมาทำอาหาร และรถยนต์ 1 คัน เมื่อเดินทางมาถึง ลุงพลได้เดินทามาต้อนรับลุงพลที่รถ จากนั้นมีการกอดกันเพื่อแสดงความคิดถึง ความเป็นห่วง
คลิกอ่านข่าว "น้องชมพู่" ทั้งหมดที่นี่
จากนั้นหมอปลาได้นำพระแก้วมรกต 1 องค์ หน้าตัก 14 นิ้ว สูง 21 นิ้ว มอบให้ลุงพล ซึ่งหมอปลาระบุว่า เป็นพระประจำบ้านหมอปลาที่อยู่บนหิ้งพระ วันนี้ได้เชิญมามอบให้กับลุงพลด้วย
จากนั้นมีการคุยกันอยู่ครู่หนึ่ง หมอปลาได้หยิบมะพร้าว เจาะหลอดให้กับลุงพล และป้าแต๋นดื่ม ระบุว่าเป็นน้ำบริสุทธิ์ ให้ดื่มก่อนเป็นมงคล หลังจากนั้นลุงพลได้นำพระแก้วมรกตเข้าไปเก็บ ซึ่งวางไว้หลังตู้พระภายในบ้าน
จากนั้นเมื่อสื่อมวลชนมาถึง หมอปลาได้เริ่มจะเดินทางเข้าหมู่บ้านลุงพล ปรากฏว่านางนลิน หรือแม่ถอนมา ซึ่งเข้ามาสวัสดีหมอปลา จากนั้นหมอปลาได้เข้ากอดรัดคอ ซึ่งแม่ถอนพยายามอธิบายให้ฟังเจตนาที่ตนไปโวยวายในวันที่ประชุม ดูเหมือนว่าโกรธลุงพล ซึ่งแม่ถอนก็ได้อธิบายตามที่เคยให้สัมภาษณ์ไว้ หมอปลาจึงมอบยันต์ครุฑ และตะกรุดให้เป็นที่ระลึก
จากนั้นหมอปลาได้เดินมาพร้อมกับ พ.ต.ท.ณภัทร ไขศิลป ผู้ไกล่เกลี่ยของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งหมอปลาระบุว่า ตอนแรกตนบอกว่าจะเอาไม้กวาดมา 1 คันรถ ซึ่งจริงแล้วตนไม่ได้เอาไม้กวาดมา แต่ไม้กวาดตนก็คือคน ๆ นี้ ซึ่งจะเอามาเพื่อกวาดความยุติธรรม
พ.ต.ท.ณภัทร ระบุว่า มีสื่อช่องหนึ่ง ระบุมีคลิปว่าลุงพลอุ้มชมพู่ เป็นผู้ต้องสงสัย จะหนักกว่าผู้ต้องหา คือผู้ต้องหายังได้รับสิทธิ์ที่จะให้การหรือไม่ให้การก็ได้ แต่ผู้ต้องสงสัยจะไม่ให้การไม่ได้ ตนจึงจะแนะนำลุงพลในข้อกฎหมาย วิธีการของกฎหมาย
เมื่อหมอปลา เดินถึงบ้านลุงพล ก็มีคนจำนวนมากมารอรับ ซึ่งหมอปลามีการกระซิบกับทีมข่าวเป็นระยะ ๆ กับเรื่องราวที่เกิดขึ้น เมื่อลุงพลมารับหมอปลาที่หน้าบ้าน หมอปลาได้ระบุว่า ตนมาบ้านผิดหรือไม่ เพราะสภาพบ้านเปลี่ยนไปมาก ลุงพลก็บอกว่าตกใจ
โดยหมอปลา ระบุว่า ได้พาทีมงานนำกล้องวงจรปิดมาติดให้ด้วย ซึ่งลุงพลระบุว่าเป็นห่วงเรื่องเสาไฟฟ้า เพราะบ้านไม่มีไฟฟ้ามาถึงหน้าบ้าน ทำให้ไม่มีหม้อมิเตอร์เป็นของตัวเอง โดยหมอปลาได้เดินสำรวจรอบบ้าน และยืนยันว่าเพื่อความปลอดภัยของบ้านลุงพล ซึ่งก็ยืนยันเรื่องไม่เปิดรับบริจาค ไม่ได้นำน้องชมพู่มาหากิน
จังหวะนี้หมอปลาเรียก ป๊อปปี้ ทีมงานที่มากับหมอปลาเพื่อติดตั้งกล้องวงจรปิด ซึ่งป๊อปปี้ ระบุว่า เตรียมกล้องมา 4 ตัว เน้นรอบบ้าน เพื่อให้กล้องรับกัน โดยมีการชี้ว่าจะติดด้านละ 1 ตัว จากนั้นลุงพลได้พาหมอปลาไปดูห้องน้ำ ซึ่งระบุว่าบ้านเปลี่ยนแปลงไปเยอะ เพราะครั้งก่อนเป็นเหมือนห้องเก็บของเก่า ส่วนห้องน้ำยังไม่เปลี่ยนแปลง ซึ่งหมอปลาก็ได้เดินเข้าไปห้องน้ำ ๆ ระบุว่ามันหลบไม่ได้ คนจะสงสัยอะไร ซึ่งม่านด้านหน้าก็มีรูอยู่ ห้องน้ำไม่สามารถซ้อน หรือทำอะไรได้
หมอปลา ระบุว่า วันนี้จะมาทำอาหารให้ลุงพลกิน รวมทั้งชาวบ้านที่มาให้กำลังใจด้วย ระบุว่าวันนี้จะมาทำกล้วยบวชชี 2 สูตร ใส่ถั่วเขียว หมายถึงชีวิตที่งอกงาม กับไม่ใส่ถั่วเขียว ซึ่งหมายถึงชีวิตจะได้กล้วย ๆ รวมทั้งมีผัดสะตอ ซึ่งหมอปลาถามลุงพลว่า รู้จักสะตอไหม หมาปลาไม่ตอบ ไม่มีนัย
ส่วนวันที่ 4 ก.ค.63 จะทำขนมจีนน้ำยา และแกงเขียวหวาน โดยจะมีคนส่งขนมจีนมาจาก จ.ลพบุรี ซึ่งตอนแรกจะมีคนส่งน้ำยามาให้ ซึ่งตนบอกไม่ต้องส่ง เพระามีแต่เส้น ไม่มีน้ำยา ตนต้องเอาน้ำยามาเอง
หลังจากหมอปลาสำรวจบ้านเสร็จ ได้พาลุงพล และป้าแต๋น เดินต่อไปยังลานมันสำปะหลังที่อยู่ติดกัน โดยหมอปลาระบุว่า บรรยากาศวันนี้เปลี่ยนไปจากครั้งก่อนที่ตนเดินทางมาเป็นอย่างมาก ต่างกันแบบคนละขั้ว ตนไม่ห่วงอะไรลุงพล หลายคนบอกกลัวว่าลุงพลจะลืมตัว ซึ่งตนคิดว่าลักษณะคนแบบนี้ลืมตาไม่ลืมตัวอยู่แล้ว อีกอย่างตอนนี้ลุงพลเจอกับหมอปลาครั้งแรก ลุงพลก็เหมือนคนตาลอย ๆ ไม่เหมือนกับวันนี้ ลุงพลน้ำตาคลอต่อหน้าหมอปลา ระบุว่า ตนไม่มีทางลืมตัว และช่วงแรกตนไปเดินห้างฯ แล้วมีความรู้สึก คือ สายตาของคนที่มองมาหาตน ทำให้ตนทนไม่ไหว
หมอปลา ระบุว่า กล้ายืนยันลุงพลคือคนดี ถึงแม้มีบางสื่อคิดกับลุงพลไม่ดี ลุงพลก็ยังให้สัมภาษณ์อยู่เสมอ แค่เรื่องที่ลุงพลขึ้นเขาแล้วบอกว่าลุงพลเผลอพูดเกี่ยวกับการแลกของ ว่ามันหนักกว่าแบกชมพู่ ตนจึงรู้สึกรับไม่ได้ โดยบรรยากาศของวันนี้ คนมาให้กำลังใจค่อนข้างมาก รวมถึงลุงโทนี่ คนหน้าหมี ยูทูบเบอร์ชื่อดัง
หลังจากนั้นหมอปลาได้เริ่มทำเมนู 3 เมนู คือ กล้วยบวชชี ความหมาย กินแบ้วชีวิตจะได้กล้วย ๆ ผัดสตอหมู 3 ชั้น หมอปลาว่าไม่มีนัย ให้ถามคนใต้ ส่วนหมู 3 ชั้น หั่นชิ้นใหญ่เพราะลุงพลจะได้ยิ่งใหญ่ เนื่องจากจมมานาน ผัดพริกแกงหน่อไม้ดอง หมายถึง พริกแกงต้องโขก สับ ใครใส่ร้าย คิดไม่ดี ก็ให้ตำในครกให้แหลก ซึ่งกระบวนการปรุงอาหารทำทุกขั้นตอน โดยมีคนมาร่วมแรงร่วมใจกันหลายร้อยชีวิต
มีช่วงหนึ่ง แม่ ๆ ที่มาช่วยแกะมะพร้าว ได้ร้องตะโกน ลุงพลสู้ ๆ อมรินทร์สู้ ๆ รวมถึงมีการขอบคุณอมรินทร์ทีวีอีกด้วย
หมอปลามีการพูดช่วงทำกล้วยบวชชี ซึ่งระบุว่า เหตุผลที่ต้องใช้กล้วยห่าม ๆ เพราะห่ามเหมือนตนกับลุงพล เพราะมันไม่สุก ห่ามไม่ใช่ไม่ดี ตนจึงใช้กล้วยห่ามเป็นตัวแทนลุงพล ตนไม่ห้ามใครจะกิน คนห่าม ๆ คือคนปากกับใจตรงกัน แล้วพูดจาเสียงดัง คนอาจจะไม่ชอบ
หลังจากทำเสร็จผัดสะตอเสร็จ หมอปลาได้ตักให้ทีมข่าวและชาวบ้านชิมเพื่อดูรสชาติ รวมทั้งกล้วยบวชชีเสร็จ หมอปลาได้ตักป้อนให้ทีมข่าวก่อน ก่อนจะนำไปป้อนให้กับลุงพลเพื่อยืนยันว่าไม่ได้มีการทำของใส่
หลังจากแจกอาหารเสร็จ ลุงพลมีอาการเหนื่อยมาก มานอนพักอยู่ในกองเฟอร์นิเจอร์ โดยมีอาการเพลียจนหมอปลาต้องมาปลุกให้ไปไหว้ผู้เฒ่าผู้แก่ของหมู่บ้าน โดยจะนำกล้วยบวชชีไปมอบให้
ลุงพลและหมอปลาเดินเท้าไปยังบ้าน นางอุ่น อวนวัง ซึ่งเข้าไปทักทายและพูดคุยด้วยถึงเจตนาของหมอปลาที่มีการแนะนำให้บุงพลปักธูปกลับหัวว่าไม่ได้มีเจตนาที่ไม่ดี หรือลบหลู่ อยากให้ยายอุ่นสบายใจ และป้อนกล้วยบวชชี จากนั้นมีการกราบยายอุ่นก่อนกลับ
Advertisement