จากกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมนายนันทพงศ์ พฤษภานิช อายุ 24 ปี ในพื้นที่ อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช หลังจากสืบทราบว่าเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายกัญชา ที่ส่งขายแบบออนไลน์ ผ่านเพจเฟซบุ๊ก “รอยยิ้มสีเขียว” โดยพบว่านายนันทพงศ์ ปลูกกัญชาสายพันธ์ต่างประเทศไว้เป็นจำนวนมาก
โดยมีโรงเรือนระบบการให้น้ำการควบคุมแสงและอุณหภูมิไว้อย่างสมบูรณ์แบบ และมีราคาจำหน่ายแตกต่างตามสายพันธ์ที่ลูกค้านิยม โดยเฉพาะสายพันกอริลล่ากาวส์ ราคาสูงสุดกิโลกรัมละ 3,000 บาท
เจ้าหน้าที่จับกุมตรวจยึดพบกัญชาที่ปลูกไว้พร้อมเก็บจำหน่าย จำนวน 41 ต้น กัญชาแห้ง 1.5 กก. มันกัญชาจำนวน 0.5 ลิตร น้ำมันกัญชาชนิดบรรจุแคปซูล เมล็ดกัญชา อาวุธปืนลูกซองยาวพร้อมกระสุนปืน สติกเกอร์ยี่ห้อ “TMGreenSmile” กล่องบรรจุกัญชาส่งขายผ่านบริษัทขนส่งจำนวนมาก และบัญชีลูกค้าที่สั่งซื้อผ่านเพจ รวมทั้งหลักฐานการโอนเงิน
นายนันทพงศ์ ยอมรับว่า ผลิตกัญชาสายพันธ์ต่างประเทศ ส่งขายจนมีชื่อเสียง กัญชาสายพันธ์ไทยจะบริการให้ลูกค้ามาซื้อที่บ้าน อย่างไรก็ตามขณะที่เจ้าหน้าที่จับกุมมีการโอนเงินเข้าบัญชีของนายนันทพงศ์ ที่ใช้ชื่อผู้อื่นรวม 16,000 บาท
วันที่ 18 มิ.ย. 63 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ลงพื้นที่บ้านหลังเกิดเหตุ พบเป็นบ้านปูนเปลือย 2 ชั้น ด้านบนใช้ผ้าทำเป็นม่านปิดหน้าต่างเอาไว้ โดยบ้านปิดล็อก ไม่มีคนอยู่
นายแบงค์ (นามสมมติ) เพื่อนผู้ต้องหา กล่าวว่า นายนันทพงศ์เพิ่งเริ่มปลูกกัญชาได้เพียง 1 เดือนเท่านั้น โดยปลูกเพื่อสกัดทำเป็นน้ำมัน และแจกจ่ายให้กับผู้ป่วยมะเร็งฟรี ไม่ได้ปลูกขายตามที่มีข่าวออกมา
โดยนายนันทพงศ์ทำเพราะใจรัก เริ่มศึกษาจากอาจารย์ที่นับถือเนื่องจากมียายที่ป่วย จนสามารถสกัดเป็นน้ำมันได้ ซึ่งที่ผ่านมานายนันทพงศ์ได้ประกาศลงเฟซบุ๊กว่าจะแจกน้ำมันกัญชาให้กับผู้ป่วยที่มีใบรับรองแพทย์ จนเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาจับกุม ที่ผ่านมาก็มีชาวบ้านในพื้นที่รับน้ำมันกัญชาไปรักษาตัวจนหายไปหลายรายแล้ว ซึ่งก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี แต่เพื่อนตนไม่ได้ขออนุญาตปลูกกัญชาอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ทำให้เจ้าหน้าที่อาจจะไม่เข้าใจ
ด้านนางมะลิ (นามสมมติ) แม่ผู้ต้องหา กล่าวว่า ตนไม่เคยทราบเรื่องที่ลูกชายปลูกกัญชา เพราะปกติตนจะออกมาทำงานช่วงกลางวัน กลางคืนก็นอนชั้นล่าง ไม่เคยเข้าไปยุ่งวุ่นวายที่บริเวณชั้น 2 ซึ่งเป็นพื้นที่ของลูกชาย
เบื้องต้น ลูกชายยอมรับว่าปลูกกัญชาจริง และบอกไม่ให้ตนเครียดเรื่องคดี เพราะเจ้าตัวกล้าทำกล้ารับ รวมถึงยังไม่ได้ร้องขอให้ประกันตัว ทั้งนี้ ลูกชายเคยติดคุกในคดียาเสพติดมาแล้วประมาณ 3 ปี เพิ่งออกมาได้ 1 ปี ก็ถูกจับกุมเรื่องกัญชา ซึ่งก่อนหน้านี้ตนเคยเตือนแล้วไม่ให้กลับไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด แต่ลูกไม่เชื่อฟัง
ขณะที่ชาวบ้านในพื้นที่ส่วนใหญ่ระบุว่า ไม่รู้เรื่องที่ผู้ต้องหาปลูกกัญชา รวมถึงเรื่องที่แจกน้ำมันกัญชา ล่าสุด พ.ต.อ.อนันต์ หริกจันทร์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรท่าศาลา ระบุว่า เบื้องต้นแจ้งข้อหาผลิตและมีไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายยาเสพติดประเภท 5 (กัญชา)
Advertisement