จากกรณีที่ตำรวจกองปราบปรามติดตามจับกุมนายธรรมพิชา รอดหนองเข็ง หรือ มายด์ อายุ 28 ปี ชาว อ.ชุมแพ จ.ขอนแก่น ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดขอนแก่น ข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย ซึ่งถูกจับกุมตัวได้ที่ห้องเช่าพื้นที่กรุงเทพฯ เมื่อช่วงเย็นวันที่ 10 มิ.ย.63 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบสวนเบื้องต้น น้องมายด์ ให้การปฏิเสธว่า ไม่ได้ฆ่า เจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปรามจึงได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองขอนแก่น ไปรับตัวมาสอบสวน และดำเนินการตามกฎหมายนั้น
ล่าสุดวันที่ 11 มิ.ย.63 พ.ต.ต.ณัฐดนัย สีแขไตร สว.กก.3. บก.ป. กล่าวว่า คดีดังกล่าวเรื่มจาก สภ.เมืองขอนแก่น รับแจ้งพบศพนายมานพ อายุ 27 ปี ถูกแทงด้วยมีดเสียชีวิตอยู่ภายในห้องเช่า นอนหงายลำตัวมีแผล 4 แผล จมูกพบฟองอากาศติดอยู่
ในเบื้องต้นตรวจสอบไม่พบร่องรอยการต่อสู้ แต่พบว่านายธรรมพิชา แฟนสาวประเภทสองที่อยู่กินด้วยกันมาเกือบ 7 ปี หายตัวไป ซึ่งในวันที่ 27 พ.ค.63 นายธรรมพิชา ได้หอบหิ้วถุงดำ 2 ถุงนำไปทิ้งขยะ ก่อนเช้าวันที่ 28 พ.ค.63 จะเดินทางไปที่ขนส่ง จ.ขอนแก่น ซึ่งห่างจากห้องพัก 15 กม.
วันที่ 28 พ.ค.63 เวลา 16.37 น. นายธรรมพิชา นั่งรถตู้ไปที่ จ.อุดรธานี เพื่อเปิดห้องพัก โดยใช้ชื่อเลขบัตรประชาชนปลอม จากนั้นวันที่ 29 พ.ค.63 ช่วงสาย ๆ นายธรรมพิชา เดินทางต่อไปที่ จ.พิษณุโลก ก่อนไปพบว่าวันที่ 30 พ.ค.63 เดินทางไปที่จ.เชียงใหม่
ในวันที่ 31 พ.ค.63 เข้ามากบดานที่กรุงเทพฯ และเช้าวันต่อมานายธรรมพิชา ได้เดินข้ามสะพานคลองแสนแสบ ก่อนจะไปพบที่ตลาดนัดขายเสื้อผ้า
ในวันที่ 4 มิ.ย.63 นายธรรมพิชา กล้องจับภาพนายธรรมพิชา เดินอยู่ที่ในสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน และวันที่ 10 มิ.ย.63 เจ้าหน้าที่กองปราบฯ เข้าคุมตัวนายธรรมพิชา ได้ในห้องพัก
นางอุบล รอดหนองเข็ง อายุ 59 ปี มารดาของน้องมายด์ ที่บ้านพักในพื้นที่ อ.ชุมแพ จ.ขอนแก่น กล่าวว่ารู้สึกดีใจที่ตำรวจสามารถติดตามจับกุมตัวลูกได้แล้ว ได้รู้ว่าลูกปลอดภัยก็ดีใจมาก เพราะที่ผ่านมากินไม่ได้นอนไม่หลับร้องไห้ทุกคืน
“แม่ไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น ระหว่างลูกตัวเองกับคนรัก เพราะที่ผ่านมาเห็นทั้งคู่รักกันมาก เมื่อเกิดเหตุขึ้น คู่รักของลูกอยู่ในสภาพมีบาดแผลถูกแทงตายในห้องเช่า ก็คิดไม่ออกว่าเป็นฝีมือลูกของตัวเองหรือไม่ ถ้าลูกทำก็ขอให้รับผิดชดใช้กรรมในสิ่งที่ตัวเองก่อขึ้น ไม่กี่ปีก็ได้ออกจากคุกมาอยู่กับพ่อแม่ที่บ้าน” นางอุบล กล่าว
นางอุบลกล่าว กล่าวอีกว่า ถ้าลูกสาวมาถึง สภ.เมืองขอนแก่น ก็จะเข้าไปหา อยากพูดคุยถึงเรื่องที่คู่รักถูกฆ่าตาย ถ้าลูกทำก็ให้รับสารภาพ เพื่อจะได้รับโทษที่ก่อขึ้น ตนไม่ทราบว่าต้องใช้เงินจำนวนมากน้อยเท่าใด และไม่รู้ว่าจะหาเงินหรือหลักทรัพย์ที่ไหนมาประกันตัวลูก โดยส่วนตัวก็ไม่เชื่อว่าลูกจะกล้าลงมือฆ่าแฟนตัวเอง เพราะทั้งคู่รักกันมาก
น.ส.ณัฐริกา อำท้าว หรือ น้ำผึ้ง อายุ 20 ปี น้องสาวผู้เสียชีวิต พร้อมคุณแม่ เล่าให้ฟังว่า ตนเพิ่งทราบข่าวว่านายธรรมพิชา ถูกตำรวจจับกุมได้เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ถึงแม้ผู้ต้องหาจะยังให้การปฎิเสธว่าไม่ได้เป็นคนลงมือทำ แต่ตนเชื่อว่าพยานหลักฐานที่ตำรวจมีจะสามารถเอาผิดได้ จึงอยากให้รับสารภาพว่าสาเหตุที่ทำลงไปนั้นมาจากอะไร และอยากให้ทางตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมายให้ถึงที่สุด เชื่อว่าพี่ชายไม่อยากให้จองเวรจองกรรมต่อกัน เพื่อดวงวิญญาณจะได้ไปสู่สุคติ
น.ส.น้ำผึ้ง ยังกล่าวอีกว่า พี่ชายถือเป็นเสาหลักที่ทำงานหาเงินดูแลพ่อแม่ รวมถึงส่งตัวเองเรียนในระดับชั้น ปวส. โดยก่อนหน้านี้พี่ชายตั้งใจที่จะนำเงินมาให้พ่อกับแม่ได้ปรับปรุงซ่อมแซมบ้านที่เก่าทรุดโทรมให้กลายเป็นบ้านหลังใหม่ และจะสร้างห้องนอนใหม่ให้ตนด้วย แต่ไม่ทันได้ซ่อมแซมบ้านแล้วเสร็จ ความฝันทุกคนก็มาพังลง เพราะฝีมือของแฟนพี่ชาย
ต่อมาพ.ต.อ.ปรีชา เก่งสาริกิจ ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้หลังถูกจับกุมผู้ต้องหายังให้การปฏิเสธ แต่ภายหลังจากที่พนักงานสอบสวนได้ทำการสอบปากคำเพิ่มเติม ซึ่งท้ายที่สุดผู้ต้องหาก็ยอมรับสารภาพว่า เป็นผู้ลงมือฆ่าผู้ตายจริง เนื่องจากโกรธที่ผู้ตายคบหาหญิงอื่น และมีการโทรศัพท์พูดคุยกับแฟนใหม่ต่อหน้าบ่อยครั้ง ที่ผ่านมาก็มีปัญหาทะเลาะกันเป็นประจำจนถึงขั้นขอเลิกลากันหลายครั้ง จึงเป็นสาเหตุลงมือก่อเหตุ แต่ก็ไม่คิดว่าจะถึงขั้นทำให้เสียชีวิต ซึ่งหลังก่อเหตุผู้ต้องหาก็บอกว่ารู้สึกเสียใจ และร้องไห้ตลอดเวลา เพราะยังรักผู้ตายอยู่ ส่วนที่ต้องหลบหนีไป ก็เพราะทำอะไรไม่ถูก
โดยหลังจากนี้พนักงานสอบสวนจะทำการสอบปากคำผู้ต้องหาอย่างละเอียด ก่อนจะนำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่เกิดเหตุในวันที่ 12 มิ.ย.63 ส่วนเวลาจะแจ้งให้สื่อมวลชนทราบอีกครั้ง
Advertisement