จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊ก "เชื่อดิ บังเอาอยู่" โพสต์ภาพพร้อมเล่าเรื่องราวผู้หญิงคนหนึ่งว่ากำลังจะโยนลูกตัวเองลงจากสะพานพุทธยอดฟ้า กรุงเทพฯ เนื่องจากเครียด อาศัยอยู่กัน 2 คนแม่ลูก มีปัญหาเรื่องเงินด้วย แต่มีคนผ่านมาเห็นและห้ามเอาไว้ได้ทัน เหตุเกิดเมื่อวันที่ 15 เม.ย. 63
วันที่ 16 เม.ย. 63 นายสุไลมาน เข็มทอง อายุ 35 ปี ผู้โพสต์ เล่าว่า ช่วงบ่ายวานนี้ ตนเองขับรถผ่านสะพานพุทธยอดฟ้า เห็นกลุ่มคน และตำรวจกำลังนั่งอยู่บนสะพาน ตนเห็นผู้หญิงนั่งร้องไห้ อุ้มลูกสาวที่ยังเล็กอยู่ใกล้ ๆ ตนเข้าไปสอบถามเจ้าหน้าที่ตำรวจ พบว่าผู้หญิงจะโยนลูกลงไปในแม่น้ำเจ้าพระยา และกระโดดตามไป แต่โชคดีที่มีคนแจ้งเจ้าหน้าที่เข้ามาช่วยก่อน ซึ่งตนได้ยินเช่นนั้นตนตกใจมาก
จากนั้น ตนจึงเข้าไปสอบถามหญิงสาว เจ้าตัวร้องไห้ฟูมฟาย ใครจะซื้อของให้ก็ปฏิเสธ ความรู้สึกตนที่เห็นใบหน้าผู้หญิงคนนี้ เหมือนคนสิ้นหวัง หมดสิ้นแล้วทุกอย่าง ต่อมาตนจึงตัดสินใจโพสต์เรื่องราวลงเฟซบุ๊กเผื่อว่าจะมีใครช่วยเหลือได้บ้าง
นายสุไลมาน กล่าวต่อว่า ตนรู้สึกหดหู่มาก เพราะจากที่ตนคุยกับผู้หญิงก็พบปัญหาหลายอย่าง ทั้งเรื่องครอบครัว เรื่องเงิน ซึ่งตนก็พยายามเข้าใจ เพราะตอนนี้หลายคนกำลังโดนปัญหาแบบนี้อยู่ แต่ตนอยากจะฝากถึงคนที่กำลังท้อแท้ อย่าอยู่คนเดียว สิ่งสำคัญควรจะไปหาญาติ ไปปรึกษาครอบครัวเพื่อหาทางออกปัญหา
ทีมข่าวเดินทางมาที่บ้านเช่าของหญิงรายดังกล่าว ย่านวังหลัง เขตบางกอกน้อย กรุงเทพฯ นางสาวเอ๋ (นางสมมติ) เปิดใจเล่าว่า ตนเองรู้สึกท้อแท้ และสิ้นหวัง เพราะตนไม่เหลืออะไรแล้ว รู้สึกเครียดกับหลายอย่างในชีวิต ทั้งเรื่องเลิกกับแฟน ไม่มีเงินซื้อนมให้ลูก ต้องขอเงินญาติคนอื่นอยู่ตลอด ซึ่งหลังจากเลิกกับแฟนมาพักหนึ่ง ตนต้องเลี้ยงลูกคนเดียว คิดว่าชีวิตนี้มันไม่เหลืออะไรแล้ว อีกทั้งยังตกงาน ค่าห้องก็ยังไม่ได้จ่ายมา 2 เดือน รวม 4,000 บาท
เมื่อวานนี้ ตนก็พาลูกสาววัย 3 ขวบ เดินจากบ้านไปบนสะพานพุทธยอดฟ้า ห่างกัน 6.6 กม. และอุ้มลูกวางบนขอบสะพาน ในใจตอนนั้นก็คิดแค่ว่าหากตายไปได้ก็คงจะดีขึ้น ตนสับสน และคิดว่าตนเป็นภาระของพ่อแม่ งานก็ไม่มีทำ ไม่รู้จะหาทางออกอย่างไร
แต่ตอนนี้ก็มีคนยื่นมือมาช่วยเหลือเยอะ ทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ปากคลองสาน ทั้งชาวบ้านที่ผ่านไปมา ก็มาให้กำลังใจ บางคนก็ซื้อนม ซื้อน้ำดื่มให้ "ตนคิดได้แล้วว่าความจริงแล้วชีวิตมันก็ไม่ได้ไร้ค่าเสมอไป อยากขอบคุณทุกคนที่มาช่วยเหลือ ทั้งสิ่งของ ทั้งเงิน ตนขอบคุณมาก ๆ สภาพจิตใจดีขึ้นมากแล้ว ตนจะไม่ทำแบบนี้อีก เพราะเห็นแล้วว่ายังมีหลายคนหวังดี"
นางแหวน ชายันติ อายุ 59 ปี แม่ของนางสาวเอ๋ เปิดเผยว่า วานนี้ช่วงสาย ตนไปรับของแจกจากชุมชน ลูกสาวตนได้มาหาตนและพาหลานสาวไป ช่วงค่ำตนได้ทราบข่าว เพราะมีตำรวจมาส่งลูกสาวที่บ้าน จึงรู้ว่าลูกสาวอุ้มลูกไปที่สะพานพระพุทธยอดฟ้าเพื่อจะฆ่าตัวตาย ตนตกใจและร้องไห้ทันที
ทั้งนี้ ลูกสาวตนเคยมีแฟนมา 4 คน มีลูกติดมา 4 คน เป็นชาย 3 คน คนโตอายุ 15 คน กลางอายุ 13 ปี และลูกชายคนเล็กอายุ 11 ปี เป็นผู้ป่วยออทิสติก และมีลูกสาว 1 คน วัย 3 ขวบ ปัจจุบันตนก็เลี้ยงลูกของลูกสาวทั้งหมด ยกเว้นคนกลางที่ไปอยู่ต่างจังหวัดกับพ่อ
โดยลูกสาวตกงานจากวิกฤตโควิด-19 และเพิ่งเลิกกับแฟนจึงเครียด สมัยก่อนครั้งที่ลูกชายคนเล็กเขายังเด็ก ลูกสาวตนก็เคยคิดจะทำแบบนี้ เคยอุ้มลูกชายไปยืนอยู่บนสะพานอรุณอมรินทร์ แต่โชคดีที่ครั้งนั้นตำรวจก็มาช่วยไว้ได้ทันเหมือนกัน หลังมาเกิดเรื่อง ตนเองก็เตือนลูกแล้วว่าอย่าทำแบบนี้อีก บางครั้งตนโมโหตนก็ประชดว่าหากจะทำ ก็ไปทำคนเดียว อย่าพาลูกไปแบบนี้ ตนพูดเพื่อเตือนสติ "อยากฝากบอกทุกคนที่กำลังท้อแท้ ให้มีสติให้มาก ๆ พยายามไหว้พระขอพร เผื่อจิตใจจะได้สงบลง"
Advertisement