สองลุงป้าขี่จยย.เลี้ยวข้ามเลนกะทันหัน ถูกเก๋งทางตรงพุ่งชนเสียชีวิตทั้งคู่

23 มี.ค. 66

11:05 น.

แชร์

สองลุงป้าขี่จยย. ไปขายอาหารทะเลเลี้ยวรถเปลี่ยนเลนกะทันหัน เก๋งทางตรงเบรกไม่ทันพุ่งชนเข้ากลางลำ เสียชีวิตทั้งคู่หลังเกิดเหตุ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

จบด้วยดี! ผอ.รพ.เมาแล้วขับ ยินยอมจ่ายเยียวยา 2 คนเจ็บ 2.5-2.8 แสนบาท

ตามหาเจ้าของด่วน! เก๋งชนเสาไฟฟ้าจอดทิ้งกลางซอย

รมว.สาธารณสุขฮึ่ม! จ่อเชือด ผอ.โรงพยาบาลเมาชนคน เป็นคดีตัวอย่าง

วันที่ 23 มี.ค.66 เมื่อเวลา 07.30 น.ร.ต.อ.บุญมา ทาทอง ร้อยเวรสถานีตำรวจภูธรเมืองตราด ได้รับแจ้งเกิดเหตุรถยนต์ชนรถจักรยานยนต์มีผู้ได้รับบาดเจ็บอาการสาหัส 2 รายที่ถนนสุขุมวิทสาย3 ตราด-คลองใหญ่ หลักกิโลเมตรที่ 8-9 ต.ท่าพริก อ.เมือง จ.ตราด หลังรับแจ้งจึงประสานเจ้าหน้าที่กู้ภัยสมาคมสว่างบุญช่วยเหลือธรรมสถานตราดรุดไปตรวจสอบ

มาถึงที่เกิดเหตุพบผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 รายรายแรกเป็นชายทราบชื่อว่านายมานพ อายุ 62 ปี มีบาดแผลถลอกตามร่างกาย ขาขวาหัก ไม่มีชีพจร รายที่สองนางมาลืนี อายุ 50 ปี มีบาดแผลถลอกตามร่างกาย แขนซ้ายหัก ไม่มีชีพจร เจ้าหน้าที่กู้ภัยซีพีอาร์ช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บก่อนประสานรถฉุกเฉินมารับตัวส่งรักษาต่อที่โรงพยาบาลตราด ก่อนได้รับการยืนยันว่าเสียชีวิตในเวลาต่อมา

รถจักรยานยนต์ที่ผู้เสียชีวิตขี่มาพังเสียหายยับเยินชนอยู่กับรถยนต์เก๋งฮอนด้าซิตี้สีบรอน ชื่อผู้ขับว่านายธีรวุฒิ อายุ 31 ปี ตรวจสอบในที่เกิดเหตุพบอาหารทะเลสดประเภท ปู กุ้ง ปลา ตกกระจายเกลื่อนพื้น

สอบถามนายธีวุฒิคนขับรถเก๋งบอกว่า ตนขับรถมาจากบ้านกำลังจะไปทำงานที่ตัวเมืองตราด เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุตนขับอยู่เลนขวา รถจักรยานยนต์คู่กรณีที่ขับขี่อยู่เลนซ้ายเกิดเลี้ยวข้ามเลนกะทันหัน ทำให้ตนที่วิ่งมาทางตรงเบรกรถไม่ทันก่อนจะชนรถจักรยานยนต์เข้าอย่างจังจนเกิดเป็นอุบัติเหตุดังกล่าว

ด้านญาติของผู้เสียชีวิตเปิดเผยว่า นายมานพและนางมาลินี มีอาชีพขายอาหารทะเลสด โดยจะขี่รถขายตามหมู่บ้านใน ต.ท่าพริก ก่อนเกิดเหตุทั้งคู่กำลังขี่รถไปขายอาหารทะเลสดตามปกติ ก่อนจะประสบอุบัติเหตุจนเสียชีวิตดังกล่าว

ส่วนนายธนาธิป อายุ 27 ปี ชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์บอกว่า รถเก๋งขับมาทางตรงด้วยความเร็วก่อนที่รถจักรยานยนต์จะเปลี่ยนเลนกะทันหันทำให้รถเก๋งไม่ทันเบรกพุ่งชนเต็มแรง ก่อนที่ร่างจะกระแทกกับตัวรถและกระเด็นไปไกล เบื้องต้นร.ต.อ.บุญมา ทาทอง ร้อยเวรสถานีตำรวจภูธรเมืองตราดได้บันทึกภาพในที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน ก่อนจะดำเนินการตามกฎหมายต่อไป