จากกรณีวันที่ 16 ม.ค. 66 เวลาประมาณ 07.45 น. ร.ต.อ.สุชาติ ประมูลจักโก รอง สว.สส.สภ.ปทุมรัตน์ จ.ร้อยเอ็ด ร้อยเวร ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า พบศพผู้เสียชีวิตอยู่กระท่อมกลางทุ่งนา ระหว่างทางบ้านหนองขามไปบ้านม่วง หมู่ที่ 7 ต.ดอกล้ำ อ.ปทุมรัตต์ จ.ร้อยเอ็ด
หลังรับแจ้งจึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุอยู่กระท่อมปลายนา พบศพผู้เสียชีวิตนอนจมกองเลือดอยู่บริเวณพื้นดินใกล้กับกระท่อมสภาพศพนอนหงายศีรษะชนกับหมอน ทราบชื่อผู้เสียชีวิตคือ นายทองใบ พรมศิลา อายุ 72 ปี เป็นคนในพื้นที่ ม.7 บ.ม่วง ต.ดอกล้ำ อ.ปทุมรัตน์ จ.ร้อยเอ็ด สภาพศพพบร่องรอยการถูกทำร้ายด้วยของแข็ง บริเวณศรีษะด้านซ้ายและฟันหัก ใบหน้ามีร่อยช้ำ คาดว่าน่าจะเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 24 ชั่วโมง โดยหลังจากเกตุเหตุชาวบ้านได้ช่วยกันนำเครื่องสูบน้ำ สูบน้ำออกจากสระน้ำใกล้กับจุดเกิดเหตุเพื่อหาหลักฐาน ซึ่งคาดว่าคนร้ายอาจจะโยนอาวุธที่ใช้ในการก่อเหตุทิ้งลงไปในสระน้ำ แต่ไม่พบอาวุธที่ใช้ในการก่อเหตุแต่อย่างใด
ล่าสุดวันที่ 24 ม.ค. 66 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ติดตามความคืบหน้าในพื้นที่ สภ.ปทุมรัตต์ จ.ร้อยเอ็ด เนื่องจากมีรายงานจากทางตำรวจว่า ได้ตัวคนก่อเหตุที่ฆ่า นายทองใบ แล้วก็คือ นายวิสัน วรวิเศษ อายุ 42 ปี โดยเบื้องต้นจากการตรวจสอบ นายวิสัน มีที่นาของทางครอบครัวติดกันกับที่นาของนายทองใบ และบ้านของนายวิสันอยู่ห่างจากเถียงนาของนายทองใบ ประมาณ 150 เมตร ซึ่งตัวนายวิสันมีอาชีพเลี้ยงวัวช่วยพ่อกับแม่ และมีอาการทางสมองตั้งแต่อายุ 4 ขวบ เนื่องจากตอนเป็นเด็กเคยถูกเพื่อนรุ่นพี่เอาลูกเปตองทุ่มใส่หัวได้รับบาดเจ็บ จึงมีอาการซึม ๆ เชื่องช้าและเป็นคนหูแว่วมาตั้งแต่ตอนนั้น
ซึ่งจากการสอบสวนของตำรวจ นายวิสัน สารภาพกับ พ.ต.ท.ฐิติกร มัชมณฑล สว.กก.สืบสวน 2 บก.สส.ภ. 4 ว่า วันเกิดเหตุไปเลี้ยงวัวใกล้กับเถียงนาของนายทองใบ กระทั่งอยู่ ๆ ก็ได้ยินเสียงแว่วเข้ามาในหูเป็นเสียงนายทองใบด่าแม่เสียหายหลายคำ จึงเกิดอาการบันดาลโทสะเดินไปหยิบจอบที่พ่อนำไปขุดดินใกล้กับจุดเกิดเหตุ แล้วก็แบกจอบกลับไปหานายทองใบ ที่กำลังนอนหลับอยู่บนเปล โดยเมื่อไปถึงได้เอาสันจอบด้านหลังฟาดที่หัวของนายทองใบ 3 ครั้ง จนกระทั่งนายทองใบ ตกลงจากเปล แล้วก็เดินแบกจอบกลับไปวางที่บ้าน โดยไม่ได้ล้างคราบเลือดที่ติดอยู่ออกจากจอบ
ซึ่งจากการสอบปากคำ ทางตำรวจก็ถามว่าเอาจอบไปไว้ที่ไหน แต่นายวิสันก็เงียบ แล้วจู่ ๆ ก็ลุกขึ้นจากเก้าอี้ เดินนำหน้าตำรวจพาไปจุดที่วางจอบเอาไว้ จากนั้นเมื่อนายวิสัน สารภาพกับตำรวจและได้ของกลางแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงพาตัวนายวิสัน เดินทางไปจำลองเหตุการณ์ให้ดูว่าตีนายทองใบอย่างไรในวันเกิดเหตุ ซึ่งนายวิสันให้การกับตำรวจในระหว่างจำลองเหตุการณ์ว่าได้ตีนายทองใบก่อนหนึ่งครั้ง จากนั้นพอนายทองใบตกลงมาจากเปลและแน่นิ่งไปจึงตีซ้ำอีก 2 ครั้ง ทางตำรวจจึงถามต่อว่า ตอนตี ออกแรงตี น้ำหนักขนาดไหน ตีให้ดูหน่อย ซึ่งนายวิสัน ก็ตีให้ตำรวจดู แล้วก็บอกอีกว่า หลังฆ่าตาทองใบไม่ได้ล้างมือและล้างเท้า ตอนตีเลือดของตาทองใบไม่ได้กระเด็นมาติดตามร่างกาย
โดยวันนี้ก่อนที่ตำรวจจะนำตัวนายวิสัน ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพในที่เกิดเหตุ ทีมข่าวสอบถามนายวิสัน ที่ยังมีอาการซึม ๆ ถามอะไรก็ยังไม่ตอบ ทีมข่าวถามว่า วันเกิดเหตุนายทองใบด่าแม่ตามคำกล่าวอ้างจริงหรือไม่ โดยนายวิสัน พยักหน้าและบอกว่าด่าจริงนายทองใบด่าว่าด้วยคำหยาบ ส่วนจอบที่นำไปก่อเหตุผมไปเอามาเองที่บ้าน จำไม่ได้แล้วว่าตีไปกี่ครั้ง แล้วก็เดินเข้าไปในห้องสืบสวน
จากนั้นในเวลา 16.30 น. ทางตำรวจได้คุมตัวนายวิสัน ออกจากห้องสืบ เดินไปขึ้นรถ และพาออกไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพในที่เกิดเหตุ ซึ่งทันทีที่ตำรวจนำตัวนายวิสัน ไปถึง นายวิสัน ก็ไม่ได้มีสีหน้ากังวลอะไร เดินไปกับตำรวจนิ่ง ๆ
ซึ่งในการทำแผนประกอบคำรับสารภาพ มีทาง พ.ต.อ.พัฒนศักดิ์ ยี่สารพัฒน์ ผกก.สืบสวน 2 บก.สส.ภ. 4 เป็นคนนำ นายวิสัน ไปชี้จุดเกิดเหตุด้วยตัวเอง โดยบรรยากาศในการทำแผนเป็นไปด้วยความตึงเครียด เนื่องจากมีทางญาติ ๆ ของผู้ตายและชาวบ้านกว่า 100 คนเดินเข้ามามุงดูการทำแผน
จากนั้นทางตำรวจ ก็พาเดินเข้าไปยังจุดเกิดเหตุ ซึ่งนายวิสันก็ชี้ว่าตอนมาก่อเหตุนายทองใบ นอนหลับอยู่บนเปลหันหัวเข้าในเถียงนา กระทั่งเดินมาถึงตัวก็ตีที่หัวของตาทองใบ 3 ครั้ง หลังจากตีเสร็จก็เดินเอาจอบไปเก็บที่เถียงนา
จากนั้นเมื่อชี้จุดเสร็จ ทีมข่าวก็พยายามถามกับนายวิสัน แต่นายวิสันก็ไม่ยอมตอบ กระทั่งมีชาวบ้านพยายามตะโกนถามว่า ไอ้สันทำไมถึงต้องฆ่าตาทองใบ จนทางตำรวจต้องรีบนำตัวนายวิสันไปขึ้นรถ เนื่องจากทางญาติผู่ตายและชาวบ้านก็เริ่มไม่พอใจ เพราะนายวิสันเอาแต่เงียบ ทางน้องสาวนายทองใบก็เดินร้องไห้ไม่หยุด
จนกระทั่งพอตำรวจนำตัวนายวิสัน ไปถึงรถ จู่ ๆ ก็มีชาวบ้านวิ่งปรี่เข้าไปหาตัว นายวิสัน แต่นักข่าวกับตำรวจเข้าไปห้ามได้ทัน ซึ่งในขณะนั้น น.ส.กุลธิดา เข็มมา อายุ 25 ปี ที่เป็นหลานของนายทองใบก็เกิดการไม่พอใจ และอยากจะถามกับนายวิสันว่า ฆ่านายทองใบทำไม ได้ยินมาว่านายวิสันจะฆ่าล้างโคตรตนขอความเป็นธรรมให้ครอบครัวด้วย หากนายวิสันถูกไปตัวออกมาก็กลัวว่าคนทางบ้านและชาวบ้านจะไม่ปลอดภัย
ทีมข่าวได้เดินทางไปที่บ้านของ นายวิสัน ได้เจอกับ นายประเทือง วรวิเศษ อายุ 63 ปี พ่อของผู้ก่อเหตุ บอกกับทีมข่าวว่า วันเกิดเหตุ น่าจะเป็นช่วงกลางวันไม่มีทางเป็นเวลากลางคืนได้ เนื่องจากความที่ลูกชายสมองไม่ค่อยดี เวลานอนตนเองจะเอากระติกน้ำไปวางไว้หน้าห้องลูกชาย หากลูกชายเปิดประตูออกจากห้องตนเองต้องได้ยิน
ซึ่งวันเกิดเหตุ ตนเองยืนยันว่าไม่เห็นลูกชายเดินเข้าไปในเถียงนาของตาทองใบ เนื่องจากหลังจากผูกวัวเสร็จลูกชายอยู่ที่เถียงนาน้อยเฝ้าวัวอยู่คนเดียว ส่วนตนเองกับภรรยาไปวัด พอกลับมาบ้านก็เห็นลูกชายนอนอยู่ที่บ้าน ซึ่งตอนนั้นยืนยันว่า ลูกชายไม่ได้มีพิรุธอะไร พอตกเย็นก็เดินไปไล่วัวเข้าบ้าน ลูกชายก็ไม่ได้พูดอะไรให้ฟัง จึงไม่รู้จริง ๆ ว่าเขาไปฆ่าตาทองใบตอนไหน
ยืนยันก่อนหน้านี้ ลูกชายรวมถึงตัวเองไม่เคยมีปัญหากับตาทองใบ ยอมรับว่าอยู่ใกล้กันจริงแต่ต่างคนต่างอยู่ และที่ผ่านมาก็ไม่เคยได้ยินเสียงตาทองใบด่าแม่ลูกชาย ซึ่งลูกชายเคยไปทำงานรับจ้างนอกพื้นที่กับตาทองใบ ไม่รู้ว่าระหว่างไปทำงานเคยมีปัญหาด่ากันหรือไม่
ที่ผ่านมายอมรับว่าลูกชาย สมองไม่ค่อยดีตั้งแต่ถูกเพื่อนรุ่นพี่โยนลูกเปตองถูกหัว ยืนยันลูกชายไม่เคยพูดถึงตาทองใบ แต่มีเพ้อพูดขึ้นมาบางเวลาก่อนเกิดเหตุว่ามีคนจะมาฆ่าเท่านั้น เคยเตือนลูกชายแล้วว่าจะพูดอะไรให้คิดดี ๆ แต่ลูกชายก็ยืนยันว่าจะมีคนมาฆ่าจริง ๆ จึงสันนิษฐานว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นลูกชายระแวงจะถูกฆ่าจึงตัดสินใจไปฆ่าตาทองใบในวันเกิดเหตุ
อย่างไรก็ตาม ในฐานะคนเป็นพ่อก็ขอโทษครอบครัวของตาทองใบแทนลูกชายด้วย เสียใจที่ไม่เคยพาลูกชายไปรักษา จนมาเกิดเหตุแบบนี้ขึ้น เรื่องคดีปล่อยให้เป็นไปตามกฎหมายทำผิดก็ไปชดใช้กรรมในคุก
ด้าน นายพุฒทา น้องเขยของ นายทองใบ ที่ตกเป็นผู้ต้องสงสัย เปิดใจว่า ส่วนตัวไม่ได้กังวลอะไรตั้งแต่เกิดเหตุ วันนี้ดีใจที่ตำรวจจับคนร้ายได้ ยืนยันที่ผ่านมาตนเองไม่เคยคุยกับนายวิสันแม้แต่คำเดียว
แต่วันที่เจอศพยืนยันว่าตนเห็นนายวิสันนั่งอยู่ที่คอกหมูของตาทองใบ แต่ไม่ได้เอะใจอะไร คิดว่านายวิสันไปช่วยตามหาตาทองใบ หลังเกิดเหตุไม่เคยกับไปนอนที่เถียงนาเพราะกลัว เนื่องจากตำรวจยังจับคนร้ายไม่ได้และหลังจากนี้ก็คงไม่ไปนอนตามลำพังอีกแล้ว
Advertisement