ลูกร้องสื่อคลินิกย่านประชาอุทิศ ปฏิเสธรักษา ทำพ่อป่วยทรุดดับหน้าคลินิก
ลูกร้องสื่อคลินิกย่านประชาอุทิศ ปฏิเสธการรักษา ทำพ่อป่วยเสียชีวิตหน้าคลินิก ติดใจคำพูด "เดี๋ยวมาตายในร้าน" พร้อมถามหาจรรยาบรรณ ร้องแพทยสภาตรวจสอบ
วันที่ 18 มิ.ย. 68 ร.ต.ท.วีระเดช กาศสนุก รอง สว.สอบสวน สน.ราษฎร์บูรณะ ได้รับแจ้ง มีผู้เสียชีวิตบริเวณหน้าคลินิกเวชกรรม ภายในซอยประชาอุทิศ 33 จึงรีบรุดจัดกำลังพร้อมประสานแพทย์นิติเวชโรงพยาบาลศิริราช และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู เร่งรัดตรวจสอบที่เกิดเหตุทันที
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมอาสาสมัครมาถึงที่เกิดเหตุ พบเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นบริเวณ หน้าคลินิกเวชกรรมแห่งหนึ่ง ถนนประชาอุทิศ แขวงบางมด เขตทุ่งครุ กรุงเทพมหานคร ลักษณะเป็นอาคารพาณิชย์สูง 4 ชั้น ด้านหน้าทางเข้าพบร่างผู้เสียชีวิต เป็นชาย 1ราย ทราบชื่อต่อมาชื่อ นาย สมชาย (สงวนนามสกุล) อายุ 60 ปี อยู่ในสภาพนอนหงายหน้าอยู่กับพื้น ลักษณะการแต่งกายสวมใส่เสื้อยืดคอกลมแขนสั้นสีสม กางเกงยีนส์ขายาว ไม่สวมรองเท้า ถัดมาพบรถจักรยานยนต์จอดนิ่งสนิทอยู่
จากการตรวจสอบแล้วพบว่า รถจักรยานยนต์คันดังกล่าวเป็นของลูกชายผู้เสียชีวิตขับขี่พาผู้เสียชีวิตซ้อนท้ายมา
นายอนุวัฒน์ (สงวนนามสกุล) อายุ 24 ปี เป็นลูกชายผู้ตาย กล่าวว่า เหตุการณ์ทั้งหมด เริ่มจากพ่อของตนแน่นหน้าอก รู้สึกไม่ไหวแล้ว ตนเลยพาพ่อขี่รถจักรยานยนต์มาคลินิกที่ใกล้ที่สุด ก็คือที่นี่ พอมาถึงตนก็พาพ่อเข้าไปด้านใน สักพักนึงพ่อมีอาการเหมือนจะหนักขึ้น เหมือนเขาจะอ้วก แล้วเขาก็ออกมาตามตนที่รออยู่ด้านนอก เพื่อให้เข้าไปดูพ่อด้านใน แล้วเขาก็ให้เอาพ่อออกมาด้านนอก เพราะกลัวว่าพ่อของตนจะไปตายอยู่ภายในร้านของเขา แล้วสุดท้ายพ่อของตนก็มาเสียชีวิตอยู่ด้านนอก
ตอนที่ตนกับพ่อมาถึง ก็เห็นว่ามีคนอยู่ด้านในร้านคนเดียว แล้วก็น่าจะมีแม่บ้านอีกคนหนึ่ง ตนคิดว่าคนนี้ต้องเป็นหมอแน่ๆ เมื่อเจอกันแล้วเขาบอกว่าให้พาไปโรงพยาบาลเลย เดี๋ยวมาตายในร้าน ตนก็เลยติดใจคำว่า "เดี๋ยวมาตายในร้าน" แล้วเขาก็ฉีดยาให้พ่อของตน 1 เข็ม เป็นยาแก้อาเจียน ไม่อย่างนั้นพ่อของตนคงไม่มานอนอยู่อย่างนี้
สิ่งที่ตนติดใจก็คือคำว่า "เดี๋ยวมาตายในร้านเขา" แต่ถ้าเกิดอย่างน้อยเขาพยายามที่จะช่วยพ่อของตน แล้วพ่อของตนตายอยู่ในนั้น ตนจะไม่ติดใจเลยนะ แต่เขาบอกว่า "เดี๋ยวมาตายในร้านเขา ให้ไปตายด้านนอก" ตรงนี้แหละที่ตนติดใจเป็นหลัก
แล้วพอพ่อของตนออกมาจากร้านเขาแล้ว และมาทรุดลงตรงนี้ เขาก็ไม่ออกมาดูเลย ตนต้องขอความช่วยเหลือเอง จนตนต้องกดดันให้เขาโทรศัพท์แจ้งหน่วยแพทย์ฉุกเฉิน เพราะตอนนั้นตนไม่มีโทรศัพท์เรื่องนี้ตนคิดว่ามันเป็นเรื่องของจรรยาบรรณแพทย์ แล้วตนก็ติดใจในคำพูดของเขาตรงที่ว่า "เดี๋ยวมาตายในร้าน" แต่ถ้าอย่างน้อยเขาช่วยจริงๆ จนสุดความสามารถของเขาแล้ว และพ่อของตนต้องมาตายในร้านเขา ตนยังรู้สึกโอเค เพราะแบบว่าเขาก็ยังช่วยแบบสุดๆ แล้ว แต่นี้เขาแบบว่าเลือกที่จะปัดทิ้งไปเลย ตนก็เลยรู้สึกว่ามันไม่โอเค
พ่อของตนป่วยเป็นโรคหัวใจอยู่แล้ว ตอนที่มามีอาการแน่นหน้าอกหายใจไม่ออก แล้วก็มีอาการทรุดลงเรื่อยๆ ตนกับพ่อมาจากประชาอุทิศ 26 คลินิกตรงนี้ใกล้บ้านของตนมากที่สุดแล้ว ตนพาพ่อขี่มอเตอร์ไซค์มา ตอนที่พ่อของตนซ้อนมาเขาก็ต้องเกาะตนไว้ตลอด เขาเหมือนจะวูบ และอ้วกตลอดทาง เพราะเขาหายใจไม่ออก เขาไม่ไหวแล้ว ตนก็ต้องหาคลินิกที่ใกล้ที่สุดก็คือที่นี่
ตอนแรกมาถึงเขาก็เหมือนกับจะช่วย แต่สุดท้ายก็เหมือนอย่างที่ตนเล่าให้ฟัง พอตนได้ยินคำว่าให้ออกไปรักษาข้างนอก เดี๋ยวมาตายในร้านเขา ตนก็รู้สึกว่ามันตันมากเลยนะ มันหลายอย่างเลย ตนก็ต้องขอความช่วยเหลือนู่นนี่นั่น แต่สุดท้ายก็ไม่ทันแล้ว
ส่วนสถานที่เกิดเหตุดังกล่าวเป็นลักษณะอาคารพาณิชย์สูง 4 ชั้น คลินิกดังกล่าวเช่าเฉพาะด้านล่างของอาคาร ส่วนด้านบนอีกสามชั้นเจ้าของอาคารแบ่งเป็นห้องให้เช่า โดยมีทางเข้าออกเพียงทางเดียวเท่านั้น ก็คือผู้เช่าห้องข้างบนต้องเดินเข้าไปด้านในคลินิกดังกล่าว เพื่อที่จะขึ้นไปบนห้องพักของตนเองเท่านั้น ทางเข้าออกทางอื่นไม่มี
ซึ่งทางญาติอยากจะให้ทางแพทยสภาลงมาตรวจสอบคลินิกดังกล่าวว่าเปิดคลินิกแบบนี้มันถูกต้องตามหลักของแพทยสภาหรือไม่ ตนมองแล้วว่ามันไม่ถูกสุขลักษณะและตามหลักอนามัย
อย่างไรก็ตามแพทย์นิติเวช และเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยนำร่างผู้เสียชีวิตส่งไปตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้งที่นิติเวชโรงพยาบาลศิริราช และจะให้ญาตินำเอกสารไปรับร่างผู้เสียชีวิตนำไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป
Advertisement
