จากกรณีเหตุการณ์ที่ทางญาติของ "นายเด่น" หรือ นายวรภบ สุขโต อายุ 41 ปี ชาว จ.ขอนแก่น ร้องเรียนขอความเป็นธรรมให้กับน้องชาย ซึ่งถูกทำร้ายร่างกายในบ่อนไก่ของครูท่านหนึ่ง และคู่กรณีที่รุมทำร้ายร่างกายเป็นข้าราชการตำรวจของ สภ.บ้านไผ่ และ สภ.โนนศิลา โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นในช่วงบ่ายของวันที่ 15 ม.ค. 66 ที่ผ่านมา
จากรายละเอียดที่ทางผู้ร้องเรียนได้ระบุ พบว่าในฝั่งคู่กรณีนั้นจะเป็นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจในส่วนของ สภ.บ้านไผ่ และ สภ.โนนศิลา โดยทางผู้เสียหายจำหน้าได้บางคน
แต่ที่จำได้คือ "ด.ต.เม่า" ตำรวจชุดสืบสวน สภ.บ้านไผ่ 1 ราย ขณะที่ทางตำรวจคู่กรณี ร.ต.ต.ศิริชัย ที่โดน นายวรภบ ตีหัวก่อน ได้มีการเข้าเเจ้งความอยู่ในพื้นที่ สภ.โนนศิลา ซึ่งจากข้อมูลสืบทราบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจของ สภ.บ้านไผ่
ล่าสุดวันที่ 23 ม.ค. 66 ทางทีมข่าวได้ย้อนกลับไปยัง สภ.บ้านไผ่ อีกครั้ง เพื่อตามหาทางด้าน ด.ต.เม่า และ เจ้าหน้าที่ตำรวจที่โดนทำร้ายร่างกายและเข้าไปแจ้งความก่อนหน้านี้ โดยเบื้องต้นปรากฎว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจคู่กรณีที่โดนทำร้ายได้เดินทางมาให้ปากคำกับทางเข้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โนนศิลา ตั้งแต่เช้า ต่อมาทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการเชิญตัว "นางศุภิสรา บาริศรี" อายุ 53 ปี พี่สาวของ "นายเด่น" ผู้บาดเจ็บ ได้เดินทางมาให้ข้อมูลเพิ่มเติมกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ขณะที่ความคืบหน้าทางคดีนั้นเบื้องต้นทาง พ.ต.อ.สมมาตย์ มั่งไธสง ผู้กำกับ สภ.โนนศิลา ให้ข้อมูลว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงบ่ายของวันที่ 15 ม.ค. 66 ในช่วงเย็นของวันเดียวกันทางด้าน "ร.ต.ต.ศิริชัย" หนึ่งในเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ้านไผ่ ก็เข้าแจ้งความกับตำรวจร้อยเวร สภ.โนนศิลา ว่าขณะนั่งดูการซ้อมไก่ชนในจุดที่เกิดถูก "นายวรภบ" ใช้ขวดเบียร์ตีที่ศีรษะ และศีรษะแตก ได้รับบาดเจ็บเย็บ 17 เข็ม ซึ่งก็เป็นการลงบันทึกประจำวันเพื่อดำเนินคดีเกี่ยวกับการทำร้ายร่างกายไว้
ต่อมาในวันที่ 16 ม.ค. 66 ทางภรรยาของ "นายเด่น" คนเจ็บก็เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน ให้ทำการสอบสวนสืบสวนจับกุม ตำรวจ สภ.บ้านไผ่ และคนที่รุมทำร้ายสามีกลับ โดยหนึ่งในนั้นคือ ด.ต.เม้า ที่จำชื่อได้ เพราะสามีบาดเจ็บสาหัส ต้องพักรักษาตัวใน โรงพยาบาลขอนแก่น
"นางศุภิสรา บาริศรี" พี่สาวของผู้ที่บาดเจ็บ เผยว่า ในส่วนของคนบาดเจ็บ "นายเด่น" มีศักดิ์เป็นน้องชายของตน โดยปกติเขาเองจะทำงานรับเหมาก่อสร้างในพื้นที่ ว่าง ๆ จากงานก็ชอบเลี้ยงไก่ช และชอบไปตีไก่ตามสนามต่าง ๆ กระทั้งก่อนเกิดเหตุทางด้านน้องชายของตนได้เดินทางไปยังดูไก่ชนที่สนามไก่ชนของครูแมน ช่วงบ่ายของวันที่ 15 ม.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งก็เป็นไปตามปกติของเขา
ช่วงเย็นทางด้านนายเด่นได้โทรมาหาทาภรรยาว่า ให้นำเงินจำนวน 2,000 บาท ไปให้ที่สนามไก่ชนเพราะเงินไม่พอ ทางภรรยาเลยให้ลูกสาวนำเงินเอาไปให้ ระหว่างเดินทางไปก็ปรากฎว่ามีทางพลเมืองดีในพื้นที่ได้โทรมาแจ้งว่าให้ไปรับนายเด่นที่สนามไก่ชนไปส่งโรงพยาบาลเพราะโดนทำร้าย ทางภรรยาของนายเด่นเลยเดินทางตามไปกับทางลูกสาวที่สนามไก่ดังกล่าว แต่ปรากฎว่าไม่พบตัวนายเด่น จึงออกตามหาจนพบร่างนอนอยู่ที่กระท่อมนาห่างจากสนามไก่ไปเล็กน้อย ในสภาพหน้าตาบวมปูด ร่างกายมีรอยเขียวช้ำไปทั่ว มีรอยปูดบวม จึงเรียกเจ้าหน้าที่กู้ชีพโรงพยาบาลโนนศิลามารับตัว แต่อาการหนักมากเพราะมีเลือดออกในช่องท้อง จึงถูกส่งตัวไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลขอนแก่น
ทั้งนี้เรื่องราวที่เกิดขึ้น ในวันที่เกิดเหตุตนได้รับแจ้งจากทางภรรยาของน้องชายว่า หลังเกิดเรื่องได้มีการสอบถามคนในพื้นที่หรือคนที่อยู่ในเหตุการณ์ ทำให้ทราบว่าคู่กรณีที่ทำร้ายร่างกายนายเด่นคือเจ้าหน้าที่ตำรวจของ สภ.บ้านไผ่ โดยเหตุการณ์มาจากที่ทางนายเด่นไปเล่นการพนันที่สนามไก่ดังกล่าว โดยเล่นกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจฝั่งที่เป็นคู่กรณี มีการต่อรองราคากันแต่เล่นไปเล่นมาทาง นายเด่นแพ้ ต้องจ่ายเงินให้ฝ่ายตำรวจ แต่เงินไม่พอจึงจะขี่รถกลับออกมาเอาเงินที่บ้านแต่ถูกตำรวจล็อกคอไว้และต่อว่า นายเด่น ด้วยความโมโหจึงคว้าขวดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ตีที่ศีรษะของตำรวจรายหนึ่ง
จากนั้นก็ถูกกลุ่มตำรวจนอกเครื่องแบบกว่า 10 คน ที่มากับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจที่โดนตีหัวเข้ารุมทำร้าย กระทั่งพลเมืองดีเข้ามาร้องขอชีวิตของนายเด่น และขอร้องให้หยุดทำร้ายร่างกาย เพราะเชื่อว่านายเด่นตายแล้ว จากนั้นกลุ่มตำรวจก็แยกย้ายกันออกจากสนามไก่ ก่อนที่พลเมืองดีได้พานายเด่นไปแอบที่กระท่อมข้างที่เกิดเหตุและได้โทรหาทางภรรยาให้มารับนำส่งโรงพยาบาล
ทั้งนี้ทางภรรยาของนายเด่นได้เล่าให้ทางตนเองฟังอีกว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเกิดต่อหน้าเจ้าของสนามไก่และชาวบ้านจำนวนมาก แต่หลังเกิดเหตุสอบถามรายละเอียดกับเจ้าของสนามไก่ หรือ ครูแมน กลับปฏิเสธว่าไม่เห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เห็นเพียงตอนที่นายเด่นใช้ขวดตีหัวตำรวจ แต่ไม่เห็นตอนที่ตำรวจรุมกระทืบ ส่วนชาวบ้านรายอื่น ๆ ก็ปฏิเสธไม่รู้ ไม่เห็น อาจเพราะไม่อยากยุ่งหรือเพราะเกรงกลัวตำรวจ
ขณะที่หลังเกิดเรื่องทางนายเด่นเองต้องพักรักษาตัวในโรงพยาบาลกว่า 4 วัน ก่อนแพทย์ก็ให้ออกจากโรงพยาบาลมากินยาที่บ้าน ในขณะที่กลับมากินยาที่บ้าน ปรากฎว่าวันที่ 21 มกราคมที่ผ่านมา อาการก็กำเริบ แน่นหน้าอก หายใจไม่ออก ทางครอบครัวจึงนำตัวส่งโรงพยาบาลโนนศิลา แพทย์ตรวจพบว่าอาการหนักเลือดออกในช่องท้องและมีอาการติดเชื้อในช่องท้อง จึงส่งต่อไปที่โรงพยาบาลขอนแก่นอีกครั้ง กระทั้งตอนนี้อาการก็ยังน่าเป็นห่วงและน่ากังวล ประจวบกับทางกฎหมายเองตอนนี้ครอบครัวหวาดกลัว เพราะคู่กรณีเป็นตำรวจกลัวไม่ได้รับความเป็นธรรม หนำช้ำเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกลับไม่มีพยานให้แม้แต่คนเดียว เพราะกลัวการเข้าให้ปากคำและกลัวว่าจะโดนทางเจ้าหน้าที่ตำรวจดพเนินคดี
ทั้งนี้ตนได้มีโอกาสพูดคุยกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งทาง รอง ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น ได้เดินทางมาสอบสวนและพร้อมให้ความเป็นธรรมและความมั่นใจกับทางครอบครัวระดับหนึ่ง ตอนนี้ตนเองก็อุ่นใจระดับหนึ่ง แต่ก็อยากให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องทางคดีได้ออกมาแสดงความรับผิดชอบ ถามไถ่หรือสอบถามบ้างยังดี ตนยืนยันพร้อมจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด ขณะที่ทีมข่าวสอบถามว่าแล้วเรื่องสนามไก่ดังกล่าวทางเจ้าหน้าที่ระบุว่าไม่ใช่บ่อน ในส่วนนี้ทางตนยืนยันว่ามันคือบ่อนและมีการเปิดเล่นการพนันเป็นประจำ
ต่อมาทางทีมข่าวพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ และกรมปศุสัตว์ในจังหวัด ได้ลงพื้นที่ไปยังบ้านของ "ครูแมน" หรือ " นายแมน สิงห์สา" เจ้าของพื้นที่ในจุดเกิดเหตุและเป็นคนที่มีการระบุว่าเป็นเจ้าของสนามไก่ ซึ่งบรรยากาศจุดเกิดเหตุพบว่าจะอยู่ในไร่มันสำปะหลังห่างจากบ้านคน มีสังเวียนไก่ชนเป็นวงกลมขนาดใหญ่ ข้าง ๆ จะเป็นเหมือนอัศจรรย์นั่งชมประมาณ 3 ชั้น โดยรอบสังเวียน
ขณะที่ไปถึง ทางเจ้าที่กรมปศุสัตว์จังหวัดขอนแก่น ได้ให้เอกสารรายละเอียดเกี่ยวกับหนังสือแบบคำขอรับการตรวจประเมินหลักเกณฑ์การจัดระบบป้องกันโรคในสนามชนไก่ หรือ สนามซ้อมชนไก่ ลงวันที่ 21 ตุลาคม 2565 โดยเอกสารรายดังกล่าวทางเจ้าหน้าที่ได้ให้รายละเอียดเบื้องต้นว่า ทางนายแมนได้มีการยื่นเรื่องขอจัดตั้งสนามซ้อมชนไก่ไปตั้งแต่เมื่อช่วงประมาณปลายปีที่แล้ว ซึ่งตอนนี้อยู่ในขั้นตอนดำเนินการตรวจสอบว่าสนามซ้อมชนไก่ดังกล่าวได้มาตรฐานตามที่มีการกำหนดไว้หรือไม่
"นายแมน สิงห์สา" เจ้าของสนามซ้อมชนไก่ เผยว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นวันนั้นยอมรับตนเองเห็นแค่ช่วงจังหวะที่ทางนายเด่นได้มีการใช้ขวดแก้วทำร้ายร่างกายทางเจ้าหน้าที่ตำรวจรายหนึ่ง ก่อนที่ตนเองจะเดินเข้ามาและมีการประสานทางกูชีพให้มารับตัวทางเจ้าหน้าที่ตำรวจที่โดนทำร้าย
หลังจากนั้นก็ปรากฎว่า ตนเองได้เห็นทางนายเด่นลักษณะคล้ายสลบอยู่คาอัศจรรย์ข้างสังเวียน โดยที่ไม่ทราบว่าเค้าเองโดนรุมทำร้ายหรือใครเป็นคนทำร้าย แต่มาเห็นช่วงที่เขาเองสลบอยู่แล้ว เพราะช่วงหลังยอมรับว่าชุลมุนตนเองไปโฟกัสอยู่ที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจที่โดนตี เลยไม่เห็นเหตุการณ์ในช่วงที่มีการระบุภายหลังว่าทางเพื่อน ๆ ของตำรวจรายดังกล่าวรุมทำร้ายนายเด่น
ทั้งนี้ยอมรับว่า วันนั้นทางนายเด่นและเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มาสนามไก่ของตน เป็นการมาเทียบไก่ ตามที่ตนเองได้มีการบอกกล่าวเพียงแค่คนรู้จักประมาณ 10 กว่าคน โดยที่ทางนายเด่นเพิ่งจะมาเป็นครั้งที่ 3 หรือ 4 ประมาณนี้ โดยที่เขาเองเข้ามาในลักษณะมึนเมาในช่วงวันที่เกิดเหตุ
ยืนยันชัดเจน ว่าสนามซ้อมชนไก่ของตนไม่ใช่บ่อนการพนันชนไก่แน่นอน วันที่เกิดเหตุเป็นเพียงการเทียบไก่และไม่มีการเดิมพันหรือวางพนัน ตลอดจนที่ผ่านมาสนามซ้อมชนไก่ของตนก็ไม่เคยมีการลักลอบเล่นการพนันแต่อย่างใด อย่างที่บอกการเรียกคนมาคัดไก่หรือซ้อมไก่นั้นจะเป็นคนที่รู้จักเท่านั้น ส่วนเรื่องของการเล่นพนันต้องไปสอบถามทางผู้เสียหายว่าเขาเองเสียการพนันให้ใคร
อย่างไรก็ตามภายหลังที่มีการสัมภาษณ์แล้วเสร็จ ปรากฎว่าทางทีมข่าวได้เดินสำรวจบริเวณโดยรอบ กลับพบเศษกระดาษขนาดประมาณเท่า 1 ส่วน 4 ของสมุดปกติ โดยในใบนั้นมีการเขียน จำนวนตัวเลข ชื่อ และคำย่อ ซึ่งกระดาษที่พบมีการเขียนชื่อลักษณะชื่อคล้ายกับทางดาบตำรวจในพื้นที่ สภ.บ้านไผ่ ที่มีการกล่าวอ้างจากผู้ร้องเรียน
ด้าน "พ.ต.อ.คะเชนทร์ ยืนยง " รอง ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น ได้ให้สัมภาษณ์ภายหลังที่ได้มีโอกาสพูดคุยกับทั้ง 2 ฝ่าย ยืนยันว่า พร้อมให้ความเป็นธรรมกับทั้ง 2 ฝ่าย โดยเรื่องที่เกิดขึ้นนั้นเป็นการทำร้ายร่างกาย ซึ่งต่างฝ่ายต่างได้มีการเข้าแจ้งความ และดำเนินคดีกัน ซึ่งตอนนี้เรื่องดังกล่าวก็ต้องรอสอบสวนจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างละเอียดอีกครั้ง ว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นฝั่งใดผิดหรือถูก และเรื่องราวที่เกิดขึ้นนั้นข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร พร้อมสอบสวนอย่างเป็นธรรม แม้ว่าฝั่งผู้ร้องเรียนจะกังวลว่าด้วยกรณีดังกล่าวที่เกิดขึ้นคู่กรณีเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ จะไม่ได้หด้รับความเป็นธรรม ขอย้ำอีกครั้งว่าทุกอย่างเป็นไปตรมกระบวนการ ใครผิดใครถูกก็ต้องว่ากันไปตามพยานหลักฐาน
ทั้งนี้ในข้อกังวลที่ทางผู้ร้องเรียนอ้างว่าไม่มีพยานในพื้นที่ ไม่มีคนที่เห็นเหตุการณ์ออกมาพูดเพราะกลัว ในส่วนนี้อยากให้เชื่อว่าต้องมีวิธีที่ชุดสืบสวนสามารถหาข้อมูลได้ เทียบเคสบางเคสที่ไม่มีกล้องวงจรปิดหรือมีพยานในที่เกิดเหตุ แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมสืบสวนสอบสวนหาข้อเท็จจริงได้ เช่นเดียวกับเคสนี้ ทางตำรวจเองอาจจะมีพยานหลักฐานลับ ๆ ในทางการสืบสวนแล้วก็ได้ไม่ต้องกังวล
เมื่อถามว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ในฐานะเจ้าหน้าที่ตำรวจหรือเจ้าหน้าที่พนักงานมีการถูกร้องเรียนว่าทำร้ายประชาชน ตลอดจนลักษณะการเข้าไปในที่เกิดเหตุที่เป็นลักษณะมีการเล่นพนัน ทำไมถึงไม่มีการเข้าจับกุมหรือดำเนินการตามกฎหมายกลับปล่อยปะละเลย ทาง "พ.ต.อ.คะเชนทร์" ระบุว่า เคสนี้ต้องตรวจสอบก่อนว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร ใครผิดใครถูก หากตรวจสอบแล้วทางเข้าหน้าที่ตำรวจผิดจริง ก็ต้องมีการดำเนินการในมุมของวินัยเจ้าหน้าที่และพนักงานตามขั้นตอนต่อไป ซึ่งต้องรอในการสอบสวนขั้นแรกก่อน เพื่อความเป็นธรรม
ส่วนกรณีที่มีการระบุว่า เป็นเจ้าหน้าที่พนักงานแต่กลับไปเล่นการพนัน ในส่วนนี้เบื้องต้นเท่าที่ทราบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทราบว่าเป็นช่วงวันอาทิตย์ ซึ่งเป็นวันหยุดของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ไม่ได้อยู่ในช่วงเวลาราชการตามคำให้การ แต่ในส่วนนี้ทางเจ้าหน้าที่สอบสวนก็ต้องไปดูว่ามีนายตำรวจคนไหนที่อยู่ในเหตุการณ์และมีรายชื่อว่าปฎิบัติหน้าที่ราชการในวันนั้นหรือไม่ ซึ่งหากตรวจสอบแล้วถ้าไม่ใช่เป็นเวลางานของเขาก็เท่ากับเขาเองอาจจะเข้าไปในมุมฐานะประชาชนคนปกติ หากเป็นการกระทำโดยส่วนตัวก็ต้องรับผิดชอบในบริบทกฎหมายและโทษเหมือนคนทั่วไปกระทำผิด แต่หากอยู่ในมุมของข้าราชการหรือเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้วกระทำผิด ก็ค้องว่ากันไปตามกฎหมาย และบทลงโทษในฐานะเจ้าหน้าที่พนักงาน ส่วนเรื่องบ่อนในส่วนนี้ก็ต้องตรวจสอบอีกครั้งว่าใช่บ่อนหรือสนามเทียบไก่
Advertisement