ความคืบหน้าคดีฆาตกรรมหนุ่มใหญ่ปล่อยเงินกู้ ฉายา “แตงไทย ท่าวุ้ง” หรือ นายสุวิทย์ เกิดแก้ว อายุ 44 ปี หลังถูกคนร้ายยิงและเผารถเผาคนทิ้งข้างถนนเพื่ออำพรางคดี เหตุเกิดบนถนนเลี่ยงเมืองลพบุรีทางหลวงหมายเลข 366 ต.กกโก อ.เมืองลพบุรี จ.ลพบุรี
ความคืบหน้าวันที่ 18 ม.ค. 66 เบื้องต้นพบว่าผู้เสียชีวิตและกลุ่มผู้ต้องหาเป็นกลุ่มเดียวกัน และเกี่ยวพันกับยาเสพติด โดยจากการเช็คประวัติพบว่า มีประวัติเกี่ยวข้องกับยาเสพติดโชกโชน และจำหน่ายยาบ้าและยาไอซ์ ซึ่งตัวของผู้เสียชีวิตเองเพิ่งออกจากคุกมาเมื่อปี 2562 ก่อนออกมาแล้วเข้าสู่วงการยาเสพติดอีกครั้ง ส่วนกลุ่มผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย เป็นเครือข่ายยาเสพติดท่าวุ้ง พบว่ามีคดีติดตัว 6-7 ครั้ง
- นายคัมภีร์ ลาเหลา หรือ เหลา อายุ 26 ปี เคยถูกจับในคดีครอบครองยาเสพติดเพื่อจำหน่าย ปี 2556
- นายนิคม บุญหนัก หรือ ต้น อายุ 35 ปี เคยถูกจับในคดีมีไว้ในครอบครอง ซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท 1 ปี 2555 ตัวการในข้อหามีไว้ในครอบครอง ซึ่งยาเสพติดประเภท 1 และมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต ปี 2565
- นายนุพล ศรีมูล หรือ อาร์ม มือยิง อายุ 32 ปี เคยถูกจับในคดีฆ่าผู้อื่น ปี 2551 ครอบครองยาเสพติดเพื่อจำหน่าย ปี 2553 เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 ปี 2556 ทำอาวุธปืนหรือเครื่องกระสุนปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต ปี 2557 พกอาวุธปืนไปในเมืองหรือที่ทางสาธารณะ และตัวการในข้อหามีไว้ในครอบครอง ซึ่งยาเสพติดประเภท 1 ปี 2557
เบื้องต้นผู้ต้องหาถูกแจ้ง 4 ข้อหา ได้แก่ ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน, ซ่อนเร้นหรือทำลายศพ, มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต, พกพาอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต และวางเพลิงเผาทำลายทรัพย์
พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาคภาค 1 (ผบช.ภ.1.) ลงพื้นที่ที่ติดตามความคืบหน้าคดี เปิดเผยว่า ขณะนี้กำลังเร่งรัดติดตามการจับกุมจากการสอบสวนมั่นใจจะติดตามมาดำเนินคดีได้ คดีนี้เป็นคดีอุกฉกรรจ์ จะเร่งล่า 3 คนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้ ซึ่งออกหมายจับไปเเจ้งข้อกล่าวหา 4 ข้อหา ได้เเก่ ร่วมกันฆ่าผู้อื่น, ร่วมเซ่นเร้นเผาทำลายศพ, ร่วมกันอำพรางทำลายทรัพย์, พกพาอาวุธปืนไม่ได้รับอนุญาต สำหรับสาเหตุการก่อเหตุเป็นความขัดเเย้งส่วนตัว มั่นใจว่าคดีนี้จับกุมได้เเน่นอน เป็นเรื่องอุกฉกรรจ์มีโทษถึงประหารชีวิต ตำรวจไม่ปล่อยลอยนวลเเน่นอน หากคิดต่อสู้จะดำเนินการขั้นเด็ดขาด
พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ระบุว่า ขบวนการนี้เป็นแก๊งค้ายาแก๊งใหญ่ของท่าวุ้ง ก่อนเกิดเหตุผู้ตายเพิ่งไปทำงานที่ในพื้นที่ ต.สระบุรี และในรถคาดว่ามีทั้งยาบ้า ยาไอซ์ และเงิดสดจำนวนมากหลักล้านบาทติดมาในรถด้วย และทั้งหมดรู้จักกัน น่าจะพูดคุยและเกิดความขัดแย้งจึงได้ฆ่า และเผาเพื่อจะอำพรางคดี
ทีมข่าวเดินทางไปยังบ้านตามภูมิลำเนาของ นายนุพล หรือ อาร์ม ซึ่งพบว่าพื้นที่ถูกรื้อไปแล้วทั้งชุมชน เยื้องจากกรมศิลาปากร พูดคุยกับ นายยอด (นามสมติ) ชาวบ้านในชุมชน ระบุว่า นายอาร์มได้ออกจากพื้นที่ไปนานแล้ว แต่ยังได้แวะเวียนกลับมา เจอกันครั้งล่าสุด เมื่อ 3 เดือนที่ผ่านมา
นายอาร์มเป็นคนพื้นเพที่นี่ตั้งแต่เกิด โดยเป็นคนขี้โวยวาย จนทราบว่าพัวพันกับยาเสพติดทั้งครอบครัว จนเข้าออกคุกเป็นว่าเล่น และเพิ่งออกจากคุกมาไม่นานมานี้ ล่าสุด แม่นายอาร์ม ก็ถูกจำคุกคดียาเสพติดเป็นเวลา 4 ปี 6 เดือนในคดีค้ายาเสพติด ส่วนตัวไม่ได้แปลกใจกับสิ่งที่นายอาร์มก่อเหตุอีก เพราะนายอาร์มมักเป็นคนที่ทำตัวเหนือกฎหมายมามานานแล้ว
ทีมข่าวเดินทางไปยังวัดปากคลอง ต.บางคู้ อ.ท่าวุ้ง ที่ตั้งบำเพ็ญกุศลศพของผู้เสียชีวิตบรรยากาศ อยู่ระหว่างเตรียมงานสวดพระอภิธรรมคืนนี้โดยมีญาติของผู้เสียชีวิตมาเตรียมงาน
นายวีระ เกิดแก้ว อายุ 73 ปี พ่อผู้เสียชีวิต ระบุว่า ตนเองช้ำใจมาก รวมถึงแม่ของผู้ตายบางครั้งก็นอนร้องไห้ ตนเองไม่อยากให้ผู้ต้องหาได้รับการประกันตัว เป็นไปได้อยากให้ประหารชีวิตไปเลยทั้ง 3 คน เพราะฆ่าลูกชายตนเองแบบโหดเหี้ยม ส่วนตัวไม่ค่อยทราบเรื่องของลูกชาย เพราะตนเองไปทำงานต่างจังหวัด 5-6 เดือนจะกลับมาบ้าน แต่พอทราบว่ากลุ่มที่ก่อเหตุก็เป็นเพื่อน ๆ ของลูกชายด้วยซ้ำยังทำกันได้ถึงขนาดนี้ ที่ผ่านมาลูกชายไม่เคยมีปัญหากับใครรุนแรงขนาดนี้ ตอนนี้เป็นห่วงก็แต่หลานที่ต้องขาดพ่อ และขอให้ลูกชายไปสู่สุคติ
Advertisement