คดีพลิก! หนุ่มคอตกยกมือไหว้ขอโทษลวงโพรไฟล์หลอกสาวแต่ง ลั่นขอ 2 วันจ่ายหนี้ 5 หมื่น (คลิป)
จากกรณี "น.ส.ปวีณา คิดดี" อายุ 20 ปี ได้ออกมาเปิดใจว่าถูกหลอกจัดงานแต่ง โดย "นายเมธี" (สงวนนามสกุล) บอกจะมาสู่ขอด้วยสินสอดเงิดสดจำนวน 120,000 บาท ทองคำหนัก 1 บาท ซื้อเธอได้เตรียมจัดงานไว้ รวมค่าเสียหาย 60,000-70,000 บาท โดยหลังถูกฝ่ายชายเทงานแต่งไปเมื่อวันที่ 16 ม.ค. 66 เจ้าตัวได้เดินทางไปแจ้งความดำเนินคดีที่ สภ.โนนไทย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ต่อมา "นายเมธี" ได้ปฎิเสธว่าไม่เคยไปขอ "น.ส.ปวีณา" แต่งงาน และอ้างว่าสาเหตุที่ไปในงาน เพราะรู้จักกับคนชื่อ “ต๊ะ” ผ่านทางเฟซบุ๊ก โดยนายต๊ะวานให้ไปแต่งงานแทน เพราะนายต๊ะประสบอุบัติเหตุไม่สามารถไปร่วมงานแต่งได้ ตนจึงอาสาไปเข้าพิธีแต่งงาน แต่พอถึงเวลาไม่สามารถติดต่อทางนายต๊ะได้จึงไม่ไปงานแต่ง อีกทั้งตนก็มีครอบครัวอยู่แล้วจะไปหลอกแต่งงานอีกเพื่ออะไร
วันที่ 18 ม.ค. 66 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ได้เดินทางไปพูดคุยกับทาง "นายเมธี" อีกครั้ง โดยเจ้าตัวยอมรับว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนเองเป็นคนกระทำจริง ซึ่งเป็นการปลอมแปลงรูปชายคนหนึ่งที่รู้จักในเฟซบุ๊ก นำมาสร้างเฟซบุ๊กอวตารดังกล่าวใช้ชื่อนามสมมติว่า "ต๊ะ" ตามที่ปรากฏในข่าว โดยสร้างขึ้นประมาณช่วงปลายปีที่แล้ว
หลังจากนั้น ตนได้เล่นเฟซบุ๊กปลอมมาสักพักหนึ่ง ก่อนที่จะเจอเฟซบุ๊กผู้เสียหายช่วงประมาณ 5-6 ม.ค. ที่ผ่านมา และมีการแอดเฟซบุ๊กคุยกัน ประมาณวันที่ 7 ม.ค. หลังจากนั้นก็เริ่มมีการพูดคุยเชิงลักษณะจีบกัน ก่อนที่ทางทางฝ่ายหญิงได้พยายามชักชวนให้ไปมาหาสู่ที่บ้าน และเริ่มเป็นฝ่ายพูดถึงเรื่องการเเต่งงานก่อน ตนเองด้วยความที่ตอนนั้นยอมรับว่าไม่ได้ตั้งใจจะหลอก แต่ด้วยความที่หลงรักและตั้งใจจะไปแต่งงานจริง ทั้งนี้พอใกล้ถึงวันที่ตกลงว่าจะแต่งงาน ตนกลับติดต่อหญิงสาวไม่ได้เลยเกิดเรื่องขึ้น ประจวบกับตนรู้สึกกลัวว่าไปแล้วไม่ใช่คนในรูปแล้วอีกฝ่ายจะไม่พอใจเอาได้
ทั้งนี้ยืนยันว่า ตามกระเเสข่าวที่ระบุว่าตนกับทางฝ่ายหญิงคุยกันมาเดือนกว่าไม่จริง แต่ตนกับอีกฝ่ายคุยกันแค่ 10 วัน และทางฝ่ายหญิงเองก็เป็นคนพูดชักชวนเรื่องแต่งงานก่อน โดยเขาเตรียมจัดเเจงเองทุกอย่าง ตนไม่ทราบด้วยช้ำว่าเขาเอารถไปขายหรือไปจัดการเรื่องอุปกรณ์เครื่องใช้ ตนแค่สอบถามเรื่องสินสอดว่าเท่าไหร่ เขาก็บอกว่า 120,000 บาท ตนก็ตั้งใจจะเอาผู้ใหญ่ไปคุยจริง ๆ แต่อย่างที่บอกมาเกิดเรื่องเสียก่อน ส่วนเรื่องที่ทางฝ่ายหญิงบอกว่าตนเองอ้างเป็นลูกครูในพื้นที่โนนไทยนั้น ประเด็นนี้ตนเองอยากจะชี้เเจงว่าไม่ได้เป็นไปแบบนั้นตนไม่ได้อ้าง แต่ทางฝ่ายหญิงเป็นคนพูดชี้นำว่าตนใช่ลูกของคุณครูในพื้นที่หรือไม่ ซึ่งตนเองก็ตามน้ำไปเลยบอกว่าใช่ ทำให้ทางด้านฝ่ายหญิงเข้าใจผิด
อย่างไรก็ตามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ส่วนตัวยอมรับว่าตนผิดจริง ซึ่งก็ได้มีการขอโทษและรู้สึกสำนึกผิดกับทางฝ่ายหญิงไปแล้วเมื่อวาน พร้อมทั้งมีการทำสัญญาตกลงต่อหน้าเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อชดใช้ค่าเสียหายโดยตกลงไว้กันที่จำนวนเงิน 50,000 บาท พร้อมขอเวลาอีกประมาณหนึ่งสัปดาห์ ซึ่งตรงกับวันที่ 20 ม.ค. นี้ ตนเองจะนำเงินจำนวนดังกล่าวไปชดใช้ค่าเสียหายแลกกับการไม่ดำเนินคดี ซึ่งทางฝ่ายหญิงเองก็พร้อมยินยอมและเคลียร์กันได้
ส่วนที่ผ่ายหญิงบอกว่าตนเคยก่อเหตุลักษณะแบบนี้มาหลายครั้งแล้ว ตนขอยืนยันว่าครั้งนี้เป็นครั้งแรก อยากให้เรื่องนี้จบลงด้วยดีเพราะตอนนี้ตนก็รู้สึกอายมาก นายเมธี กล่าว
ด้าน "น.ส.ปวีณา คิดดี" อายุ 20 ปี กล่าวว่า สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น ตนได้รู้จักกับชายคนรักผ่านทางเฟซบุ๊ก ซึ่งหลังจากรู้จักกันได้สักพักก็ตกลงคบหาดูใจกันได้ประมาณ 1 เดือน และต่อมาชายคนนี้อ้างว่าเป็นลูกชายของครูคนหนึ่งสอนอยู่โรงเรียนในพื้นที่ ก่อนจะมีการพูดถึงเรื่องของงานเเต่ง โดยที่ฝ่ายชายเองบอกว่าจะให้แม่ไปสู่ขอตามประเพณี ทางครอบครัวของตนจะเรียกสินสอดจำนวนเท่าไร หลังจากนำเรื่องไปปรึกษาครอบครัวแล้วอนุญาตให้แต่งงานได้ ตนก็มาบอกฝ่ายชายไปว่าครอบครัวเธอไม่เรียกค่าสินสอดอะไรเลย แล้วแต่ทางฝ่ายชายจะเมตตา พอตนบอกแบบนี้ ฝ่ายชายตอบกลับว่า ถ้าอย่างนั้นให้ค่าสินสอดเป็นเงินจำนวน 120,000 บาท พร้อมด้วยทองคำหนัก 1 บาท
โดยตกลงฤกษ์หมั้นหมายในวันที่ 10 ม.ค. 66 และจัดพิธีแต่งงานในวันที่ 16 ม.ค. 66 แต่พอถึงวันที่ 10 ม.ค. 66 วันหมั้น ปรากฏว่าชายคนนี้ไม่ได้เดินทางมา โผล่อีกทีวันที่ 11 ม.ค. 66 โดยไม่มีพ่อ แม่ หรือญาติมาด้วยแม้แต่คนเดียว ตนจึงถามว่าพ่อแม่ไม่มาด้วยเหรอ ชายคนดังกล่าวอ้างว่าพ่อแม่ติดธุระ จะมาร่วมงานทีเดียวในวันจัดพิธีแต่งงาน พอได้ยินคำนี้ทางครอบครัวเธอจึงไม่ติดใจอะไร
จนใกล้ถึงวันจัดพิธีแต่งงาน ตนได้นำรถจักรยานยนต์ 1 คัน ไปขายได้เงินมาจำนวนหนึ่ง นำมารวมกับเงินเก็บที่มี นำไปซื้อข้าวของต่าง ๆ เตรียมไว้ใช้ในงาน ทั้งเช่าเต็นท์ ซื้อเครื่องดื่ม ซื้อของชำร่วย และจองอาหารโต๊ะจีน อีก 30 โต๊ะ รวมเป็นเงินจำนวนกว่า 70,000 บาท กระทั่งวันที่ 15 ม.ค. 66 ก่อนถึงวันงาน 1 วัน มีผู้หวังดีได้ติดต่อมาหาเธอแล้วบอกว่า ว่าที่เจ้าบ่าวคนนี้ไม่ใช่คนดีอะไร เคยหลอกลวงหญิงสาวหลายคนให้รักแล้วจัดพิธีแต่งงานด้วยเพื่อหวังเงินทอง หลังจากทราบเรื่องนี้เธอพยามติดต่อว่าที่เจ้าบ่าว เพื่อสอบถามว่าเป็นจริงหรือไม่ แต่สุดท้ายไม่สามารถติดต่อได้ ตนเลยตัดสินใจแจ้งความ และทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้เรียกตัวบุคคลที่คาดว่าเป็นคนปลอมแปลงเฟซบุ๊กมาให้ปากคำ
สุดท้ายเมื่อวานตนได้เจอกับทาง "นายเมธี" อีกครั้ง ซึ่งตอนแรกเขาอ้างว่าไม่เกี่ยวข้อง เป็นคนที่โดนหลอกให้มาแต่งงานแทนเหมือนกัน แต่พอทางเข้าเจ้าที่จำรวจคุยไปคุยมาเขาเองยอมรับสารภาพว่าเป็นคนก่อเหตุจริง และแต่ชายในเฟซบุ๊กนั้นไม่ได้เกี่ยวข้องอะไร เพราะทาง "นายเมธี" เป็นคนนำเอารูปของชายคนดังกล่าวมาปลอมแปลงเฟซบุ๊กใหม่ เพื่อตั้งใจจะมาหลอกตน โดยเขายังอ้างว่าจริง ๆ เขาไม่ได้ตั้งใจจะหลอกแต่อยากแต่งงานจริง ในส่วนนี้ตนไม่เชื่อและได้พูดคุยกับเขาว่าทำไมถึงมาก่อเหตุเเบบนี้ เขาเองก็ไม่ได้อธิบายอะไร บอกแค่ขอโทษ พร้อมบอกจะชดใช้ค่าเสียหายให้ เป็นเงินจำนวน 5 หมื่นบาท จากยอด 7 หมื่นบาทที่ตนได้เตรียมงานเอาไว้ โดยจำนวนเงินดังกล่าวนั้นเป็นการนำไปจ่ายในส่วนที่มีการมีดจำเรื่องของสถานที่ อุปกรณ์ เต้น การ์ด ค่าเช่าชุด ค่าโต๊ะจีน และค่าอื่น ๆ ส่วนที่เหลือตนเองก็ถือว่าทำบุญและปล่อยไป
ที่ตนหลงเชื่อเพราะว่า ฝ่ายชายเองเหมือนใช่คารมและทักษะในการพูดเล้าโลมให้ตนเชื่อ ตนเองเลยหลงเชื่อเเละคิดว่าเขาคือตัวจริง ซึ่งเรื่องนี้ก็เป็นอีกหนึ่งบทเรียนที่สอนให้ตนรู้จักระวังมากขึ้น และอยากเตือนสังคมให้รู้จักระมัดระวัง เพราะกลลวงสมัยนี้มาหลากหลายรูปแบบ สุดท้ายตอนนี้ตนเองก็จะให้เวลา นายเมธี ประมาณ 1 สัปดาห์ตามที่ได้ตกลงกันไว้ว่า จะหาเงินจำนวน 5 หมื่นมาให้ หากเขาเองไม่ทำตามสัญญาหรือผิดนัดก็จะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ไม่ยอมอีกต่อไป แต่หากอีกฝ่ายยอมชดใช้ก็จะจบเรื่องให้
Advertisement
