จากกรณีเมื่อช่วงค่ำของวันที่ 12 ม.ค. 66 เกิดอุบัติเหตุกับสองสามี-ภรรยา บ้านหนองยาวต.เขาใหญ่ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี สามีถอยรถยนต์โตโยต้าสปอร์ตไรเดอร์ 4 ประตู สีบรอนซ์เทา ทะเบียน กข4385 เพชรบุรี ออกจากบ้านพัก โดยมีภรรยานั่งข้างคนขับออกมาด้วคาดว่าคันเร่งค้าง ทำให้รถถอยหลังพุ่งลงสระน้ำการเกษตร ที่อยู่ตรงข้ามบ้าน และจมลงก้นสระที่มีความลึกประมาณ 10 เมตร
โดยภรรยาดิ้นออกมาจากตัวรถได้ แต่สามีซึ่งเป็นคนขับติดอยู่ในรถ จึงได้แจ้งขอกำลังกู้ภัยมูลนิธิสว่างสรรเพ็ชญธรรมสถาน จุดชะอำระดมกำลังช่วยกันค้นหา และพบว่านายโม อัง อายุ 49 ปี เสียชีวิตนอกรถ
วันที่ 13 ม.ค. 66 ทีมข่าวอมรินทร์ทีวีลงพื้นที่ไปยังจุดเกิดเหตุ บริเวณบ่อน้ำสาธารณะประจำหมู่บ้านหนองยาว ต.เขาใหญ่ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี เป็นลักษณะบอกกว้างบนพื้นที่ประมาณ 1 ไร่ บ่อน้ำลึกประมาณ 18 เมตร แต่ระดับน้ำลึกประมาณ 12 เมตร ซึ่งพบว่าบริเวณขอบบ่อน้ำ มีรอยหญ้าที่รถของผู้เสียชีวิตเหยียบถอยตกลงไปในบ่อน้ำ ขณะที่บ้านของผู้เสียชีวิตอยู่ตรงข้ามบ่อน้ำ มีถนนของหมู่บ้านกั้นกว้างประมาณ 4 เมตร
นางสาวนรนัท กองทิ้ว อายุ 43 ปี ภรรยาผู้เสียชีวิต เล่าให้ทีมข่าวฟังว่า นายโม สามีของตน เป็นคนดี ขยันทำงาน และรักครอบครัวอย่างมาก ส่วนตัวอยู่กินฉันสามีภรรยามานานกว่า 17 ปี มีลูกด้วยกัน 3 คน ลูกชายคนโตอายุ 13 ปี ลูกชายคนกลาง อายุ 7 ปี และลูกสาวคนเล็กอายุ 3 ปี ซึ่งที่ผ่านมาได้โม ไม่เคยออกนอกลู่นอกทาง เป็นหัวหน้าครอบครัวที่ดีมาโดยตลอด จนคิดว่าหลังตรุษจีนปีนี้จะมีการไปจดทะเบียนสมรสเพื่อให้ได้สัญชาติ เนื่องจากสามีต้องต่อวีซ่าอยู่ประเทศไทยค่อนข้างลำบาก เนื่องจากต้องทำงานทุกวันและต้องเสียเงินในการดำเนินเรื่อง
ส่วนสาเหตุที่สามีพยายามอยากสอนให้สอนขับรถยนต์เป็น เพราะตนต้องขับรถมอเตอร์ไซค์ไปขายก๋วยเตี๋ยวนอกพื้นที่ทุกวัน และในหลายครั้งต้องซื้อของ และวัตถุดิบหลายอย่างไปขาย สามีเลยเป็นห่วงความปลอดภัย ซึ่งก่อนหน้านี้พยายามฝึกหัดเข้าเกียร์แบบไม่สตาร์ทเครื่อง และยังไม่ได้เริ่มขับออกถนน
วันเกิดเหตุ จู่ ๆ นายโม สามี ก็ชวนออกไปขับรถเล่น บอกว่าจะขับรถให้ดู โดยนายโม สามี เป็นคนขับรถ ส่วนตนนั่งข้างคนขับ ซึ่งตอนนั้นกำลังจะถอยรถยนต์ออกจากที่จอดรถ จู่ๆ เหมือนคันเร่งค้าง เข้าเกียถอยหลังรถพุ่งถอยตกบ่อน้ำตรงข้ามบ้าน ซึ่งตอนนั้นน้ำไหลเข้ามาในรถค่อนข้างรวดเร็ว โดยนายโม สามีของตนพยายามไปที่บริเวณท้ายรถเพื่อเปิดประตูท้าย แต่เหมือนว่าเปิดไม่ได้ จากนั้นพักตนเองไปทางด้านหน้ารถ ซึ่งตนพยายามใช้เท้าถีบที่บริเวณกระจกข้างคนขับ จนกระจกแตก และรีบว่ายน้ำหมุนออกมาขึ้นเหนือน้ำ พอโพล่พ้นน้ำ ก็เห็นว่ามีชาวบ้านยืนอยู่บริเวณริมสระ แต่ไม่เห็นสามีว่ายน้ำตามออกมา
พอตนขึ้นบนบก ก็ยังไม่เห็นสามีว่ายน้ำขึ้นมา ตอนนั้นจึงคาดการณ์ว่านายโม สามีของตนต้องติดอยู่ในรถยนต์แน่นอน และคงเสียชีวิตแล้วเนื่องจากหายเงียบไปนาน จนกระทั่งเจ้าหน้าที่กู้ภัยมาเก็บกู้ซากรถขึ้นจากน้ำ แต่ก็ไม่พบสามีอยู่ในรถ จึงต้องใช้นักประดาน้ำในการดำน้ำที่มีความลึกมากกว่า 12 เมตร ซึ่งตอนแรกหาไม่เจอ แต่ชาวบ้านแนะนำให้จึดธูปบอกศาลตายาย ที่อยู่บริเวณใกล้บ่อน้ำ จากนั้นผ่านไปประมาณ 10 นาทีเจ้าหน้าที่กู้ภัยก็เจอร่างของสามี ซึ่งส่วนตัวคาดว่าน่าจะว่ายน้ำหลุดออกมาจากรถแล้ว แต่น่าจะขาดอากาศหายใจก่อน เลยไม่สามารถว่ายน้ำขึ้นมาได้
ส่วนตัวสภาพจิตใจตอนนี้ก็ยังคงขวัญกระเจิง และรู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตอนนั้นก็ประเมินสถานการณ์แล้วว่าตนเองก็น่าจะไปรอด แต่ความคิดตอนนั้นนึกเพียงแต่หน้าของลูกทั้ง 3 คน ถ้าตนและสามีตายพร้อมกันแล้วใครจะดูแลลูก ตอนนั้นตนคิดแค่ว่าต้องรอดกลับไปให้ได้ เลยไม่ได้ท่านคิดว่าสามีว่ายน้ำตามออกมาหรือไม่ ส่วนตัวไม่ได้ติดใจในเรื่องใด มองว่าเป็นอุบัติเหตุที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น และบ่อน้ำบ่อดังกล่าวก็ไม่เคยมีใครตกลงไป ตนเป็นคันแรกที่ตกลงไป
Advertisement