รอง ผอ.พศ. ไม่เชื่อ จนท.พศ. มีเอี่ยวตัวกลางเจรจาจบเรื่อง พระ-สีกากอล์ฟ
รอง ผอ.พศ. ไม่เชื่อ จนท.พศ. มีเอี่ยวตัวกลางเจรจาจบเรื่อง พระ-สีกากอล์ฟ เบื้องต้นยังไม่มีรายงาน เผยมีข้อสั่งการทำฐานข้อมูลกลางไวยาวัจกรทั่วประเทศ
(17 ก.ค. 2568) นายบุญเชิด กิตติธรางกูร รองผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เปิดเผยถึงหน้าที่ของไวยาวัจกรวัด ซึ่งปรากฎในกฎของมหาเถรสมาคมฉบับที่ 18 มีหน้าที่หลักๆ คือ ทำหน้าที่ตามที่เจ้าอาวาสมอบหมาย และทำเป็นหนังสือ เช่น ให้ทำเรื่องการเงิน ทางเจ้าอาวาสก็ต้องมอบหมายให้เป็นเรื่องเป็นราว แต่หากจะทำธุรกรรมใดๆ แทนเจ้าอาวาส โดยที่เจ้าอาวาสไม่ได้มอบหมายก็ทำไม่ได้ ซึ่งตามปกติแล้ววัดสามารถแต่งตั้งไวยาวัจกรวัดหลายคนได้ แต่เจ้าอาวาสต้องมีการมอบหมายตำแหน่งหน้าที่เป็นลายลักษณ์ให้ชัดเจน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เมื่อถามว่ามีรายงานว่า มีเจ้าหน้าที่สำนักพุทธ เป็นไวยาวัจกร และรู้เรื่องความสัมพันธ์ระหว่างพระกับสีกา แต่ได้ละเลยหน้าที่ กลับไปเป็นตัวกลางไกล่เกลี่ยในการเจรจาให้จบความสัมพันธ์แทนนั้น นายบุญเชิด ระบุว่า ในตามกฎไม่มีข้อห้ามที่เจ้าหน้าที่สำนักพุทธไปเป็นไวยาวัจกรวัด ส่วนประเด็นที่บอกว่าเจ้าหน้าที่สำนักพุทธ รู้เรื่องพระเสพเมถุน และเรื่องเงินของสีกากอล์ฟ แต่ละเลยไม่ทำหน้าที่รายการงานพระชั้นผู้ใหญ่ เบื้องต้น ตนยังไม่ได้รับการรายงาน แต่ส่วนตัวเชื่อมั่นในเจ้าหน้าที่สำนักพุทธ เพราะถ้ามีหลักฐานชัดเจนว่าพระสงฆ์รูปนั้น มีความผิดจริง ถึงขั้นอาบัติปาราชิก เจ้าหน้าที่สำนักพุทธที่รู้เห็นช่วยกันปกปิด ก็ถือว่าไม่ใช่เรื่องดี แต่หากพระที่ถูกกล่าวหายืนยันว่าไม่มีความผิด และเจ้าหน้าที่แสวงหาหลักฐานสู้ในส่วนนั้นตนเห็นด้วย
เมื่อถามถึงประเด็นที่ นายสุชาติ ตันเจริญ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ ให้รวบรวมรายชื่อไวยาวัจกรพร้อมประวัติของแต่ละวัด ให้รายงานตรงต่อสำนักพุทธฯ แต่สำนักพุทธไม่มีข้อมูล นายบุญเชิด ระบุว่า เนื่องจากว่าในกฎของมหาเถรสมาคมฉบับที่ 18 ว่าด้วย การแต่งตั้งถอดถอนไวยาวัจกรทุกวัด มีแนวทางระบุไว้ว่าต้องมีไวยาวัจกร แต่ไม่มีบทลงโทษ ซึ่งเมื่อวานนี้ได้มีการประชุมรับนโยบายจากรัฐมนตรี และข้อสั่งการนโยบายผู้อำนวยการใหญ่ จึงมีการข้อสั่งการไปยังสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดให้รวบรวมข้อมูลไวยาวัจกรทุกวัดเพื่อมาทำเป็น Data Base เพื่อที่จะรู้ว่าวันนี้มีไวยวัจกรชื่ออะไร มีจำนวนเท่าใด ซึ่งความจริงข้อมูลเดิมมีอยู่แล้ว แต่ต้องมาทำให้เป็นฐานข้อมูลให้เรื่องเป็นราว เพื่อป้องกันคนที่เข้ามาเป็นไวยาวัจกร และมาแสวงหาผลประโยชน์จากวัด ซึ่งถือเป็นเรื่องดีที่จะมีการเก็บข้อมูลเป็นฐานข้อมูลกลาง
เมื่อถามว่า กรณีของไวยาวัจกรจะต้องมีการรายงานบัญชีทรัพย์สินด้วยหรือไม่ นายบุญเชิด ระบุว่า ในกฎ 18 ยังไม่ได้มีการระบุไว้ มีเพียงระบุหน้าที่ว่าไวยาวัจกรมาทำหน้าที่ช่วยเจ้าอาวาสในการทำงานในด้านธุรกรรมและการเงิน หรือตามที่เจ้าอาวาสมอบหมาย ทีนี้มีคนหลายคนมองว่า น่าจะเพิ่มข้อกำหนดมากกว่าหรือไม่ นอกเหนือจากกฎ 18 ซึ่งเรื่องนี้เราก็รับฟังความเห็นจากทุกด้าน เพื่อที่จะให้วัดแต่ละวัดสะดวกและคล่องตัวในการทำงาน
Advertisement
