สาวผวากินหมูกระทะถูกเจ้าของแอบถ่ายคาห้องน้ำ แม่ยายโร่ป้องเขยหยอกเล่นนึกว่าเมีย (คลิป)
จากกรณีเพจ “ทนายษิทรา เบี้ยบังเกิด” ลงเรื่องราวระบุว่า "สาวร้องไปกินหมูกระทะร้านดังแม่กลอง ถูกลูกเขยเจ้าของร้านแอบถ่ายขณะเข้าทำธุระในห้องน้ำ เจ้าของร้านพยายามเจรจาไม่ให้น้องเอาเรื่อง บอกว่าเสียเวลา และสงสารลูกเขย"
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ล่าสุดวันที่ 5 ม.ค. 66 ทีมข่าวได้พูดคุยกับ ทนายษิทรา เบี้ยบังเกิด ทนายความ เปิดเผยว่า ตนเองได้รับแจ้งจากผู้เสียหายว่าเมื่อวันที่ 29 ธ.ค. 65 ผู้เสียหายได้เดินทางไปทานหมูกะทะที่ร้านแห่งหนึ่งย่านแม่กลอง จ.สุมทรสงคราม ผู้เสียหายเป็นผู้หญิงเข้าไปใช้บริการห้องน้ำของร้าน ระว่างนั้นพบว่ามีลูกเขยของเจ้าของร้านเดินตามไปเข้าห้องข้าง ๆ เป็นลักษณะห้องน้ำที่สามารถเข้าได้ทั้งผู้ชายและผู้หญิง โดยระหว่างที่ผู้เสียหายเข้าไปใช้ห้องน้ำถูกลูกเขยของเจ้าของร้านแอบถ่าย โดยเหตุการณ์ครั้งนี้ตนมองว่าเป็นเหตุการณ์ที่ควรที่จะมีการเตือนภัย เพราะถือว่าเป็นภัยที่เกิดขึ้นในร้านที่คนเป็นเจ้าของร้านก่อเหตุเอง
หลังเกิดเหตุผู้เสียหายได้ไปแจ้งความเอาไว้แล้วที่ สภ.เมืองสมุทรสงคราม โดยมีการเอาผิดในข้อหาอนาจาร ซึ่งจากการกระทำดังกล่าวตนเองถือว่ามีความผิดเข้าข่ายในเรื่องของการถ่ายภาพอนาจารเพราะมีดีฎีกาเคยระบุเอาไว้ เป็นลักษณะของการใช้กำลังประทุษร้าย โดยมีความผิดในมาตรา 278 มีโทษจำคุก 10 ปีหรือปรับไม่เกิน 200,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ และที่สำคัญหากตัวของคนก่อเหตุได้นำคลิปไปเผยแพร่หรือส่งต่อก็จะมีความผิดพระราชบัญญัติคอมพิวเตอร์ต่ออีก ทนายษิทรา กล่าว
ทนายษิทรา กล่าวต่อว่า หลังจากนี้เมื่อรับเรื่องจากผู้เสียหายแล้ว ตนเองเตรียมที่จะเดินทางไปที่โรงพักต้นเรื่อง เพื่อติดตามความคืบหน้าในการดำเนินคดีและเอาผิดลูกเขยเจ้าของร้านหมูกระทะ
น.ส.เตย (นามสมมติ) อายุ 26 ปี ผู้เสียหาย เปิดเผยว่า เหตุการเกิดขึ้นช่วงเวลาประมาณ 21.30 น. ของคืนวันที่ 29 ธ.ค. 65 ช่วงเวลาดังกล่าวตนเองไปใช้บริการที่ร้านหมูกระทะแห่งหนึ่งย่านบายพาสแม่กอง จ.สมุทรสงคราม โดยร้านดังกล่าวนั้นเป็นลักษณะ 2 ชั้น ซึ่งส่วนที่ตนเองนั่งกินหมูกระทะอยู่กับแฟนหนุ่มและรุ่นน้องอีก 2 คน อยู่บริเวณชั้น 2 แต่ห้องน้ำอยู่ชั้นล่าง จังหวะที่ตนเองกำลังจะเดินลงไปเพื่อที่จะเข้าห้องน้ำ ตนเองได้ยินเสียงเจ้าของร้านซึ่งเป็นผู้หญิงถามว่า ”จะไปเข้าห้องน้ำใช่ไหมหนู” ตนเองจึงตอบกลับไปว่า “ค่ะ” เจ้าของร้านก็เลยมีการชี้พิกัดที่ตั้งของห้องน้ำเอาไว้ให้
เมื่อตนเองเดินก่อนจะถึงห้องน้ำ สังเกตุเห็นผู้ชายคนหนึ่งเดินเข้าไปภายในห้องน้ำ ซึ่งตอนนั้นยังไม่รู้ว่าเป็นพนักงานหรือเป็นใคร จนกระทั่งตนเองเดินไปถึงห้องน้ำดังกล่าว พบว่ามี 2 ห้อง ห้องแรกมีลักษณะปิดล็อก จึงคาดการณ์ว่าผู้ชายที่ตนเองเห็นเดินเข้าไปก่อนเข้าไปที่ห้องน้ำดังกล่าว เมื่อเดินไปถึงห้องน้ำจึงมีพนักงานชายอีกคนบอกว่า ”ห้องข้างในว่างครับ” ตนเองจึงเดินเข้าไปใช้บริการที่ห้องด้านในสุด แต่ด้วยความระมัดระวังจึงได้เข้าไปภายในห้องน้ำและใส่กลอนประตูยืนรอฟังอยู่สักพักใหญ่ เพื่อที่จะฟังเสียงห้องข้าง ๆ ว่ามีการกดชักโครกหรือปลดกลอนประตูเพื่อออกจากห้องน้ำหรือยัง แต่จังหวัดที่ตนเองเงยหน้าขึ้นมองด้านบนเพดาน ปรากฏว่าเห็นมือผู้ชายยื่นมือถือ ตนเองจำมือถือและลักษณะเคสมือถือได้ จึงได้รีบเปิดประตูออกมายืนรออยู่หน้าห้องน้ำต้องสงสัยที่คาดว่าเป็นห้องที่มีคนแอบถ่าย พร้อมกับมีการเรียกให้แฟนหนุ่มมายืนรออยู่หน้าห้องน้ำ แต่ก็ยืนรออยู่พักใหญ่มือแอบถ่ายก็ยังไม่ยอมออกมา จนเจ้าของร้านเดินมาตามว่า ”เกิดอะไรขึ้นหนู” ตนเองจึงบอกไปว่าถูกแอบถ่าย เจ้าของร้านจึงเรียกออกมาคุยกัน แต่ระหว่างที่ตนเองคุยกับเจ้าของร้านตัวของผู้ชายที่เป็นคนแอบถ่ายอยู่ในห้องน้ำก็ยังปิดล็อกไม่ยอมออกมา
หลังจากที่ตนเองมานั่งพูดคุยกับเจ้าของร้าน ซึ่งเจ้าของร้านก็ไม่ทราบว่ารู้เรื่องราวด้วยหรือไม่อย่างไร โดยเจ้าของร้านบอกว่า ”หนูจะเรียกค่าเสียหายเท่าไหร่ หนูจะให้รับผิดชอบอย่างไร ไม่อยากให้เรื่องนี้ถึงโรงพัก เพราะกลัวว่าจะเป็นเรื่องใหญ่ อะไรที่ยอมกันได้หรือช่วยกันได้ก็จะช่วย” จากนั้นตนเองจึงตัดสินใจเดินทางต่อไปที่โรงพักเมืองสมุทรสงคราม เพื่อไปแจ้งความเอาผิดในข้อหาถูกแอบถ่ายและข้อหาอนาจาร จนกระทั่งตนเองอยากรู้ว่าผู้ชายคนดังกล่าวนั้นเป็นใคร เกี่ยวข้องอะไรกับร้านหมูกระทะ เป็นพนักงานหรือเป็นใครกันแน่ จึงได้มีการเปิดเฟซบุ๊กของร้านและไปดูความเกี่ยวข้อง จนรู้ว่าผู้ชายคนดังกล่าวที่ตนเองเห็นเดินเข้าไปภายในห้องน้ำ และยื่นโทรศัพท์มือถือออกมาแอบถ่ายเป็นลูกเขยของเจ้าของร้าน ซึ่งมีทั้งภรรยาและลูกอยู่แล้ว ประกอบกับในโปรไฟล์ของผู้ชายคนดังกล่าว ใช้เคสโทรศัพท์มือถือลายเดียวกันกับที่ตนเองเห็นใช้แอบถ่าย จึงทำให้ยืนยันได้ชัดเจนว่าคนที่ก่อเหตุนั้นคือลูกเขยของเจ้าของร้าน
โดยส่วนตัวออกมาร้องให้ทนายตั้มช่วยเหลือ พร้อมทั้งยอมเปิดเผยเรื่องราวผ่านสื่อ เป็นเพราะว่าต้องการอยากให้เป็นอุทาหรณ์เนื่องจากเหตุการณ์เกิดขึ้นในร้านหมูกระทะ และคนก่อเหตุไม่ใช่คนนอกแต่กลับกลายเป็นคนในหรือเจ้าของก่อเหตุเอง จึงค่อนข้างกังวลใจว่าจะมีผู้ตกเป็นผู้เสียหายอีกหลายคน จึงต้องการที่จะมีการเอาผิดตามกฏหมาย ไม่ยอมรับการเจรจาและต้องการเตือนภัยสังคม
ด้าน น.ส.ภู (นามสมมติ) อายุ 40 ปี เจ้าของร้านหมูกระทะ ในฐานะแม่ยายของคนก่อเหตุ ชี้แจงว่า ในวันเกิดเหตุนั้นตนเองเห็นว่าตัวของลูกเขยเข้าไปใช้ห้องน้ำอยู่ห้องฝั่งขวา จากนั้นเห็นว่าลูกค้าคือ น.ส.เตย ผู้เสียหาย เดินลงมาจากด้านบนของร้าน กำลังจะไปเข้าห้องน้ำ ซึ่งเป็นอีกห้องที่ว่างอยู่คือฝั่งซ้าย แต่ตอนนั้นก็ไม่ได้เอะใจอะไรเพราะเข้าใจว่าเป็นห้องน้ำที่ไม่ได้มีการแบ่งแยกห้องหญิงห้องผู้ชายใช้ร่วมกัน และที่สำคัญเจ้าของร้านรวมถึงตนเองก็ใช้ห้องน้ำด้วย
จากนั้นไม่นานตนเองเห็นว่าผู้เสียหายรีบวิ่งออกมาจากห้องน้ำ และยืนอยู่หน้าห้องน้ำด้วยอาการตื่นตกใจ จึงได้เข้าไปถามว่าเกิดอะไรขึ้น ซึ่งตัวของ น.ส.เตย ลูกค้า บอกกับตนเองว่าถูกแอบถ่าย ตอนนั้นก็พยามถามว่าเกิดอะไรขึ้นและใครอยู่ในห้องดังกล่าว จนรู้ว่าเป็นลูกเขย ตนเองก็เลยสอบถามที่มาที่ไป โดยลูกเขยอ้างกับตนเองว่า “คิดว่าเป็นแฟนสาวเข้าห้องน้ำที่ติดกับ จึงถ่ายเพื่อที่จะเอาไปแกล้ง แต่หลังจากที่ยื่นมือถือเข้าไปแล้วเห็นว่าผู้หญิงในห้องน้ำไม่ใช่แฟนตัวเองได้รีบเอามือถือกลับมา และไม่ได้มีการถ่ายคลิปหรือถ่ายภาพอะไรเก็บไว้” ตนเองก็ได้ขอดูมือถือของลูกเขยแล้ว
ยืนยันว่าลูกเขยไม่ได้มีการถ่ายคลิปหรือถ่ายภาพอะไรไว้ จึงพยายามเข้าไปพูดคุยกับลูกค้าและเข้าไปขอโทษ โดยมีการขอโทษทีหน้าห้องน้ำ 1 ครั้ง และขึ้นไปขอโทษที่บนร้านอีก 1 ครั้ง แต่ก็เข้าใจว่าลูกค้าค่อนข้างอยู่ในอาการตกใจและไม่ยอมความ ตนเองก็ทำอะไรไม่ได้ก็ให้ว่าไปตามกระบวนการของกฎหมายเพราะเหตุการณ์เกิดขึ้นแล้ว ที่สำคัญตนเองก็ได้เดินทางไปให้ปากคำกับตำรวจแล้วเหมือนกันว่าเจตนาที่แท้จริงคือแบบไหน แต่ทั้งนี้ก็เข้าใจว่าเป็นเรื่องของการกระทำอนาจารโดยการแอบถ่ายหรือทำให้ผู้อื่นตกใจ ก็ต้องว่าไปตามกระบวนการว่าตำรวจจะแจ้งข้อกล่าวหาอะไร ส่วนตัวก็จะให้ลูกเขยรับตามสิ่งที่ก่อเอาไว้และยอมรับว่าตอนนี้ลูกเขยรวมถึงลูกสาวที่รับรู้เรื่องก็จิตใจย่ำแย่เหมือนกัน แต่ก็ต้องยอมรับและรับผลกรรม
สำหรับสิ่งที่เกิดขึ้นภายในร้าน ยืนยันว่าเป็นพฤติกรรมที่ครอบครัวมักจะชอบถ่ายรูปเล่นกันและหยอกล้อเล่นกันเป็นเรื่องธรรมดา เช่นเดียวกับเหตุการณ์ในวันเกิดเหตุ ก็เชื่อว่าลูกเขยคิดว่าคนในห้องน้ำเป็นลูกสาวจึงเอามือถือไปถ่ายเล่น แต่เมื่อผู้หญิงในห้องน้ำไม่ใช่แฟนสาวก็รีบดึงมือถือกลับมาและพยามขอโทษ แต่ก็ทำให้คนอื่นตื่นตกใจไปแล้ว และตลอดที่ผ่านมาลูกสาวของตนเองก็มักจะถูกถ่ายรูปแกล้งเป็นประจำ เช่น แอบถ่ายตอนเข้าห้องน้ำแล้วเอามาหยอกล้อเล่นกัน หรือแอบถ่ายในขณะที่เล่นอยู่ในร้าน และเอามาแซวกันเล่น สำหรับคนในครอบครัวของตนเองมองว่าเป็นเรื่องปกติ แต่เมื่อมันเกิดขึ้นกับคนนอกก็ถือว่าเป็นเรื่องที่เกินเหตุ และหลังจากเกิดเหตุนั้นก็ได้มีการแก้ไขปรับปรุง โดยการนำฟิวเจอร์บอร์ดไปปิดเอาไว้ชั่วคราว ระหว่างที่ติดต่อช่างมาต่อเติมเพื่อที่จะปิดทับไม่ให้เกิดเหตุซ้ำรอยอีก
อย่างไรก็ตาม ในฐานะเจ้าของร้านและในฐานะแม่ยายของคนก่อเหตุ ก็อยากจะฝากขอโทษไปยังผู้เสียหาย แต่ก็ไม่จำเป็นต้องยอมความ ซึ่งถ้าหากมีการแจ้งความไปแล้วก็ต้องว่าไปตามกระบวนการของกฎหมาย แต่ตนเองก็อยากจะขอโทษเพราะเข้าใจถึงความรู้สึก และเข้าใจถึงเรื่องที่เกิดขึ้น เนื่องจากเป็นผู้หญิงด้วยกัน
Advertisement
