จากกรณี มีกลุ่มผู้เสียหายเข้าร้องเรียนไปยังเพจ "เฮียเปี๊ยกช่วยด้วย" ให้ช่วยติดตามคดีให้ หลังเมื่อคืนก่อนวันขึ้นปีใหม่ วันที่ 31 ธ.ค. 65 ที่ผ่านมา กลุ่มของผู้เสียหายถูกกลุ่มวัยรุ่นในหมู่บ้านนับ 20 ราย บุกมาทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บรวมทั้งหมด 4 ราย ประกอบด้วย
1.นายสุทัด สาทปัญญา อายุ 30 ปี ถูกรถมอเตอร์ไซค์พุ่งชน ถูกรุมกระทืบ ไม้ตีหัวแตก 1 แผล
2.นายวีรศักดิ์ ช่างทาพิน อายุ 35 ปี ถูกไม้ตี ถูกกระทืบได้รับบาดเจ็บบริเวณหัว 3 แผล
3.นายวันดี สาทปัญญา อาจุ 65 ปี พ่อของนายสุทัด ถูกวัยฟาดหัวอาการสาหัส เลือดคั่งในสมอง
4.นายพิชิต สาลีกุล อายุ 59 ปี ผู้ใหญ่บ้าน บ้านโนนสวรรค์ ม.7 ต.หนองไผ่ ถูตีหัวไหล่
ซึ่งหลังเกิดเหตุ กลุ่มผู้เสียหายได้เดินทางเข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.หนองหาน จ.อุดรธานี แต่เวลาล่วงเลยไปกว่า 5 วันแล้ว คดียังไม่มีความคืบหน้า ตำรวจยังไม่สามารถจับตัวกลุ่มวัยรุ่นที่ก่อเหตุมาดำเนินคดีได้สักคนเดียว จึงเรียกร้องไปยังเฮียเปี๊ยกให้ช่วยเหลือ
ล่าสุดวันที่ 5 ม.ค. 66 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี พร้อม นายภานุมาศ จิตรวศินกุล เจ้าของเพจ "เฮียเปี๊ยกช่วยด้วย" ลงพื้นที่ติดตามเรื่องที่เกิดเหตุ พูดคุยกับนายสุทัด สาทปัญญา อายุ 30 ปี ชาวบ้านที่ถูกกลุ่มวัยรุ่นทำร้ายเป็นคนแรก เล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่า ก่อนเกิดเหตุ คืนวันที่ 31 ธ.ค. ตนเองนั่งกินเหล้าสังสรรค์กับเพื่อน และครอบครัวรวม 4 คน ภายในบ้าน
ระหว่างนั้นได้มีกลุ่มวัยรุ่น ขี่รถมอเตอร์ไซค์ 2 คัน มากันประมาณ 3-4 คน ขี่รถผ่านหน้าบ้านพร้อมกับเบิ้ลรถเสียงดัง 3-4 รอบ ยังไม่พอกลุ่มวัยรุ่นได้นำทางมะพร้าว และลังกระดาษผูกติดท้ายรถมอเตอร์ไซค์ ขี่ลากไปตามพื้นถนนจนเกิดเสียงดังรบกวนชาวบ้าน ทำให้ตนเองที่นั่งอยู่ในบ้านเกิดความรำคาญ และเดินออกจากบ้านหวังจะไปเตือนกลุ่มวัยรุ่นให้หยุด บอกกับกลุ่มวัยรุ่นว่า "ขี่รถดี ๆ ไม่ได้รึยังไง จะทำให้มันรำคาญทำไม" ต่อมากลุ่มวัยรุ่นด่าตนเองกลับว่า "แล้วมึงมีปัญหาอะไร ก็กูคนบ้านนี้อะ"
ทันทีที่พูดจบ รถมอเตอร์ไซค์ของวัยรุ่นอีกคนขี่เข้ามาพุ่งชนตนเองจนล้ม ก่อนที่จะถูกกลุ่มวัยรุ่นรุมกระทืบ และใช้ไม้ฟาดหัวจนแตก และรีบขี่รถหลบหนีไป ซึ่งต่อมาตนเองได้ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล และมาทราบภายหลังว่า หลังตนเองถูกส่งโรงพยาบาลผ่านไป 30 นาทีต่อมา กลุ่มวัยรุ่นกลุ่มเดิมได้กลับไปเรียกพวกอีกกว่า 20 คน ยกพวกมาจะรุมกระทืบตนเองซ้ำ นั่งรถกระบะ 4 ประตูสีดำ ขนพวกมาเต็มคันรถ
ขณะนั้นนายวันดี พ่อของตนเอง และนายวีรศักดิ์ ลูกพี่ลูกน้องของตนเอง ได้แจ้งนายพิชิต ผู้ใหญ่บ้านให้มาช่วยตรวจสอบเหตุ แต่ระหว่างที่ตรวจสอบเหตุ กลุ่มวัยรุ่นยกพวกมารุมทำร้ายนายวันดี และนายวีรศักดิ์ซ้ำจนได้รับบาดเจ็บซ้ำอีก ยังไม่พอนายพิชิต ซึ่งเป็นผู้ใหญ่บ้าน ขณะนั้นก็แต่งชุดผู้ใหญ่บ้านใส่หมวกเต็มยศเข้าไปห้าม ก็ยังถูกวัยรุ่นใช้ไม้หน้าสามฟาดทำร้าย และถีบติดต้นไม้ไปด้วย
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนเองไม่คิดเลยว่ากลุ่มวัยรุ่นทั้งหมดจะทำถึงขนาดนี้ ตนเองแค่พูดเตือนเฉย ๆ พร้อมยืนยันที่ผ่านมาตนเองก็ไม่เคยไปมีเรื่องหรือมีศัตรู ซึ่งล่าสุดขณะนี้นายวันดี พ่อของตนเองที่ถูกกลุ่มวัยรุ่นทำร้าย ตอนนี้อาการสาหัสมาก เลือดั่ลั่งในสมอง ต้องผ่าตัด อาการยังแย่ หลังเกิดเหตุมีชาวบ้านถ่ายคลิปกองเลือดจำนวนมากที่กลุ่มวัยรุ่นบุกมาทำร้ายตนเองและคนในบ้านไว้ และส่งให้ตำรวจดู แต่คดีกลับเงียบ ตนเองจึงขอความยุติธรรม และวิงวอนให้ตำรวจช่วยเร่งติดตามกลุ่มวัยรุ่นที่ก่อเหตุมาดำเนินคดีให้ได้ทั้งหมดด้วย
นายพิชิต สาลีกุล อายุ 59 ปี ผู้ใหญ่บ้านบ้านโนนสวรรค์ ม.7 ที่ได้เข้ามาตรวจสอบเหตุ และถูกวัยรุ่นรุมทำร้ายด้วย บอกว่า ทันทีที่กลุ่มวัยรุ่นลงมาจากรถกระบะ ได้ตะโกนถามว่า "ใครมันทำน้องกู" พร้อมกับบอกว่า "พวกมึงรู้ไหม กูเป็นลูกใคร มึงรู้ไหมที่นี่ใครใหญ่" ก่อนจะเข้ามารุมทำร้ายตนเอง นายวีรศักดิ์ และนายวันดี ซึ่งยืนอยู่ด้วยกันจนน่วม
ขนาดตนเองขณะนั้นแต่งชุดผู้ใหญ่บ้าน เป็นฝ่ายปกครอง ยังถูกวัยรุ่นใช้ไม้หน้าสามตีเข้าหัวไหล่ และถีบกระเด็นติดต้นไม้ โดยหลังเกิดเหตุ ตนเองได้พาลูกบ้านไปแจ้งความ แต่ผ่านไปกว่า 5 วันแล้ว ตำรวจกลับนิ่งเฉย คดีไม่คืบหน้า ซึ่งตนเองเชื่อว่าหากปล่อยไว้ คนในหมู่บ้านคงเกิดอันตรายแน่ ส่วนกลุ่มวัยรุ่นที่ก่อเหตุ ทราบว่าเป็นกลุ่มวัยรุ่นทั้งในและนอกหมู่บ้าน ซึ่งได้รวมตัวกินเหล้าสังสรรค์กันในช่วงก่อนวันขึ้นปีใหม่ ซึ่งบางคนยังเป็นเยาวชนด้วยซ้ำ
ทีมข่าวได้เดินทางไปที่ท้องนาใกล้จุดเกิดเหตุ ห่างประมาณ 500 เมตร พบทางมะพร้าวและลังเบียร์ถูกทิ้งอยู่ในท้องนา ซึ่งลักษณะทางมะพร้าวที่มีเชือกไนล่อนสีเขียว และสีแดงผูกมัดกันอยู่ เป็นทางมะพร้าวที่กลุ่มวัยรุ่นนำมาผูกท้ายรถมอเตอร์ไซค์ เพื่อนำมาลากบนพื้นถนน ให้สร้างความรำคาญกับชาวบ้าน
ทีมข่าวและเฮียเปี๊ยกจึงลองขี่รถนำทางมะพร้าวและลังเบียร์ ทดสอบลากไปกับพื้นถนน เพื่อดูว่าเสียงจะน่ารำคาญขนาดไหน ซึ่งเสียงที่ได้ยินค่อนข้างที่รำคาญมาก ยิ่งเป็นเวลานอนยิ่งรำคาญ ซึ่งไม่ทราบว่าครอบครัวของกลุ่มวัยรุ่นจะรำคาญเสียงดังเหมือนกับคนปกติหรือไม่
ทีมข่าวได้เบาะแสจากผู้เสียหาย ระบุถึงลักษณะรถกระบะที่ขนพวกกลุ่มวัยรุ่นกว่า 20 คนมารุมทำร้าย เป็นรถกระบะมิซูบิชิ สีเทา และคาดว่า เป็นรถของนายออฟ (นามสมมติ) เด็กวัยรุ่นในหมู่บ้าน
นายออฟ เจ้าของรถต้องสงสัย เปิดใจว่า คืนวันเกิดเหตุ ตนเองได้นำรถกระบะไปเที่ยวกับเพื่อนที่ทุ่งนาในหมู่บ้าน พร้อมกับนั่งฉลองวันขึ้นปีใหม่กัน โดยมีเพื่อน ๆ เป็นวัยรุ่นจากหลายหมู่บ้านมารวมตัวกัน ระหว่างที่นั่งกินตนเองได้จอดรถกระบะของตัวเองไว้ และเสียบกุญแจไว้ เผื่อเพื่อนคนไหนจะออกไปซื้อของ ก็ขับไปได้หมด จึงไม่รู้ว่าเพื่อนแต่ละคน มีใครนำรถของตัวเองขนพวกไปทำร้ายชาวบ้านหรือไม่ แต่ตนเองยืนยันตนเองนั่งกินเหล้าเมาอยู่กับกลุ่มเพื่อนอีกกลุ่ม
นายออฟ ให้ข้อมูลว่า ส่วนนายก้อง ได้เดินทางมาร่วมนั่งกินเหล้ากับตนเองและเพื่อนวันเกิดเหตุจริง แต่ไม่ได้อยู่ด้วยกันตลอด จึงไม่รู้ว่า นายก้องไปรวมตัวกับกลุ่มเพื่อนคนอื่น บุกไปทำร้ายชาวบ้านตอนไหน แต่ยืนยันเหตุการณ์ดังกล่าวตัวเองไม่เกี่ยวข้อง
Advertisement