กรณีคลิปที่ถ่ายได้จากของแหล่งที่มอบให้กับผู้สื่อข่าว จ.สมุทรปราการ หลังจากเกิดเหตุชายหนุ่มในคลิป พร้อมเพื่อน ได้บุกไปใช้ไม้ฟาดศีรษะของเจ้าของร้านขายของชำแห่งหนึ่ง ทราบชื่อคือ นายเอกรัตน์ ศรีเพียงจันทร์ หรือ เอก อายุ 46 ปี
ในคลิปชายผู้ก่อเหตุกำลังถือท่อนไม้อยู่ ตะโกนด่าทอกับอีกฝ่ายที่อยู่ในร้านขายของชำ ทำนองว่าอีกฝ่ายลวนลามจับของสงวนของแฟนสาวของชายคนดังกล่าว จากนั้นอีกฝ่ายได้วิ่งออกมาไล่ พร้อมปาขวดตามหลัง จนชายในคลิปวิ่งหนีกระเจิง เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นภายในชุมชนเคหะเมืองใหม่บางพลี ต.บางเสาธง อ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ เมื่อช่วง 21.30 น. วันที่ 3 ม.ค. 66
นายเอกรัตน์ ศรีเพียงจันทร์ อายุ 46 ปี เจ้าของร้านชำ ผู้ถูกกล่าวหาและถูกแฟนหนุ่ม น.ส.แป้ง (นามสมมติ) ใช้คมแฝกตีหัว โดยพบสภาพมีบาดแผลแตกที่ศีรษะเป็นแผลฉกรรจ์ แพทย์เย็บ 7 เข็ม
นานเอก เล่าว่า สาวขับ PCX มาจอดเติมน้ำมัน ยังนั่งคล่อมไม่ลงจากรถ ขณะที่ตนหยิบกรวยพร้อมนำขวดน้ำมันมาเติมเทจนหมด และคิดเงิน ก่อนแยกย้ายไป จนกระทั่งช่วง 10.00-11.00 น. สาวมาพร้อมแม่ผัว ร้องไห้ อ้างว่าตนจับของลับตอนเติมน้ำมัน ตนก็งง แต่ป้าตนไม่ยอมจึงด่าสวนจบกันไป
จากนั้นช่วงเย็นเขามาพร้อมพวกและสามี ก่อนสามีของสาวคนดังกล่าวเอาคอมแฝก หรือ คมแฝก มาฟาดตนหลายครั้งจนเลือดอาบ ตนเองไม่ยอม ไปแจ้งความไว้แล้วว่าหัวแตกได้รับบาดเจ็บ ตนยืนยันคำเดิมว่ามือ 1 ข้างถือกรวย อีกข้างมือถือขวดน้ำมัน ตนถามว่าจะเอามือไหนไปจับของลับเขา ยืนยันเปิดร้านขายของมามีรถรุ่นนี้มาเติมน้ำมัน ไม่คิดจะกระทำไม่ดีไม่ร้ายเลย ดังนั้นการกระทำแบบนี้มันเรียกว่าศาลเตี้ยชัด ๆ
เวลา 20.23 น. ของวันที่ 3 ม.ค. 66 นายพสิษฐ์ ซัวตังไล้ อายุ 25 ปี ฟนหนุ่มของ น.ส.แป้ง เดินทางไปยังร้านชำของนายเอก วงจรปิดจับภาพนายพสิษฐ์ และเพื่อนอีก 1 คน ยืนดูลาดเลาได้ไม่นานก็พากันเดินหลุดมุมกล้องไปทางรำขายของชำของนายเอก
จากนั้นในกล้องจะมีเสียงคนร้อง "เฮ้ย ๆ" ก่อนจะพบเพื่อนนายพสิษฐ์ วิ่งออกมาถือก้อนหินเอาไว้ แต่ยังไม่ได้ก่อเหตุใด ๆ ต่อมาพบนายพสิษฐ์ถือไม้ เดินออกมาแบบเนิบ ๆ ก่อนพยายามหลังมองข้างหลังตลอด ลักษณะน่าจะก่อเหตุตีนายเอก เจ็บน่วมแล้วจึงเดินออกมา ก่อนที่นายเอก ผู้ถูกกล่าวหาจะวิ่งตามมาและเอาก้อนหินเขวี้ยงใส่นายพสิษฐ์และเพื่อน จนต้องวิ่งหนีกระเจิงออกไป
น.ส.แป้ง (นามสมมติ) อายุ 24 ปี ผู้ร้องเรียน เล่าว่า ปกติไม่เคยเติมน้ำมันขวดเลย แต่วันเกิดเหตุรีบ และน้ำมันจะหมด ผ่านร้านดังกล่าวจึงจอดเติมน้ำมันปกติ โดยจะไม่ลงรถอยู่แล้ว เพราะถังน้ำมันอยู่ตรงอาน ขณะที่ผู้ก่อเหตุหยิงกรวยและขวดน้ำมีนมา ก่อนวางกรวยตั้งปกติที่ช่องน้ำมันไม่ได้ใช้มือจับกรวยไว้ใด ๆ เลย และทีเผลอใช้มือมาสะกิด พร้อมเขี่ยที่ของลับตนแบบเนียน ๆ ตนก็ตกใจมาก มองหน้า ส่วนเขามองหน้ากลับแล้วยิ้ม ทำทีถามว่าทำงานที่ไหน เข้างานกี่โมง แต่ตนยังช็อกต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น คืออึ้ง มองหน้าแล้วค้อน ก่อนจ่ายเงินพร้อมขี่รถ จยย. ออกมาจากร้านเพื่อตั้งหลักและโทรหาน้องสาว และแฟนหนุ่มทันทีว่าถูกกรทำแบบนี้
จากนั้นมาถึงบ้านแม่แฟนหนุ่ม ตนก็ร้องไห้ และแม่สามีก็พาตนไปถามถึงร้านชำ พร้อมแจ้งตำรวจ ก่อนมีการส่งสายตรวจมา นาทีนั้นก็มีการโต้เถียงกันต่อหน้าสายตรวจ ก่อนสายตรวจขอให้ตนพาแม่ไปรอที่โรงพัก ต่อมาสายตรวจได้อยู่พูดคุยกับผู้ก่อเหตุต่อ แต่เขาก็ไม่ยอมรับ จากนั้นทราบภายหลังว่าสายตรวจเค้นจนผู้ก่อเหตุรับว่า "โดนนิดเดียว" ขณะที่ป้าเขาพูดว่า "โดนนิดเดียวก็หยวน ๆ กันไป"
ส่วนตนกับแม่แฟนหนุ่มไปโรงพัก รอจนถึงเที่ยง เขาก็ไม่มาพูดคุย มือถือติดต่อไม่ได้ ร้อยเวรจึงโทรหาสายตรวจให้เข้าไปดูที่บ้าน และรอเกือบบ่ายโมงก็ไม่มาคุย จนตนกลับบ้าน จากนั้นแฟนหนุ่มขับไปดูก็เห็นชายผู้ก่อเหตุนั่งอยู่หน้าบ้านขณะที่สายตรวจนั่งกินข้าวร้านเยื้องกัน สามีก็ฉุนรู้สึกว่าทำไมตำรวจไม่ทำอะไรเลย จึงเริ่มโมโห กระทั่งช่วงเย็นแฟนหนุ่มทนไม่ไหวบอกกับตนว่าจะไปคุยเองให้รู้เรื่อง เมื่อไปถึงก็มีการคุยกันก่อนพูดคุยกันดีปกติ แต่คนก่อเหตุด่าแม่สามีจึงโกรธ โมโหมาก เลยลงมือก่อเหตุตามคลิป ส่วนไม้ที่ใช้ก่อเหตุไม่ใช่ไม้คอมแฝก หรือ คมแฝก เป็นไม้แบนเล็ก ๆ เท่านั้น
ส่วนสาเหตุที่ไม่โวยวายในตอนนั้น เพราะตนเองตกใจมาก ๆ ทำอะไรไม่ถูก แต่เมื่อขี่รถมาตั้งหลักได้ก็โทร.หาแฟนทันที ดังนั้นหากมีกล้องให้เอามายืนยันได้ แต่หน้าบ้านคนก่อเหตุกลับอ้างว่ากล้องเสีย อย่างไรก็ตามรถรุ่นนี้ PCX เชื่อว่าหญิงสาวหลายคนไปเติมน้ำมันคงยึดความสะดวก เพราะส่วนตัวจะเติมที่ปั๊ม เมื่อจอดรถปั๊มน้ำมันพนักงานก็จะเอาหัวจ่ายมาเสียบและเติมน้ำมัน ซึ่งครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ตนเติมน้ำมันแบบขวด ในฐานะลูกค้าไม่เคยคิดลึกเรื่องอย่างว่า แต่ต่อไปนี้ฝากสาว ๆ ให้ลงจากรถดีกว่า ป้องกันไว้ก่อน
ทีมข่าวเดินทางมาที่สภ.บางเสาธง ตำรวจได้นัดหมายทั้งคู่มาไกล่เกลี่ยกันอีกครั้ง เมื่อเดินทางมาถึงก็พบว่ามีเพื่อน ๆ พี่ ๆ ของนายเอก ประมาณ 4 คน ปักหลักรออยู่หน้าโรงพัก ก่อนมีการพูดจายั่วยุหยาบคายว่า "ไหนผู้หญิงที่ถูกจับกี ถูกกูสติไม่ครบ ไม่มีทางทำแน่" ก่อนที่นางแจ๋ว (นามสมมติ) แม่แฟนหนุ่ม น.ส.แป้ง ได้เข้าได้ถามว่า "ทำไมต้องพูดจาหยาบคายแบบนี้"
ล่าสุด นายพสิษฐ์ ซัวตังไล้ อายุ 25 ปี เป็นแฟนหนุ่มของ น.ส.แป้ง นำไม้ที่ใช้ก่อเหตุมาให้ร้อยเวรด้วย พบว่าไม้มีความยาวประมาณ 1 ฟุต ความหนาประมาณ 1 ซม. ที่ใช้ก่อเหตุ พบว่ายังมาคราบเลือดติดอยู่ นายพสิษฐ์ เล่าว่า แฟนสาวโทรมาหาตอน 09.00 น. กว่า ๆ ว่าถูกลวนลามทั้งใช้มือจับ จังหวะนี้คาดว่าคนก่อเหตุไม่ได้ตั้งใจ แต่อีกจังหวะติด ๆ แฟนสาวบอกว่าเขาใช้นิ้วเขี่ย ตนก็ยังไม่โมโห แค่บอกแฟนว่าเดี๋ยวไปแจ้งความกัน ขณะเดียวกันนั้นตนยังอยู่บ้านคนละหลังกับแฟนสาว แฟนสาวจึงพาแม่ของตนไปที่เกิดเหตุ ทราบว่ามีการโต้เถียงกันจึงมีการเรียกสายตรวจมา พร้อมนัดหมายกันที่โรงพัก แต่ฝ่ายผู้ก่อเหตุไม่มาและติดต่อไม่ได้
จากนั้นประมาณ 11.00 น. กว่า ๆ จนจึงขี่รถจักรยานยนต์ไปวนดูปรากฏว่าพบชายคนก่อเหตุยังนั่งอยู่หน้าบ้าน ส่วนตำรวจสายตรวจนั่งกินข้าวเยื้องกัน จึงรู้สึกว่าทำไมตำรวจไม่ดำเนินการ สุดท้ายตนทนไม่ไหว ช่วง 20.00 น. กว่าจึงตัดสินใจไปที่ร้านชำของผู้ก่อเหตุ กับเพื่อน 2 คน ช่วงแรกก็คุยกันดี แต่คนก่อเหตุไม่ยอมรับ แถมป้าคนก่อเหตุด่าแม่ตนว่า "แก่กะโหลกกะลา" และอ้างว่าไม่มีหลักฐาน ไม่ไปหรอกโรงพัก เพราะหลานไม่ผิด ตนจึงโมโหใช้ไม้ฟาดคนก่อเหตุไป 3 ครั้งติด ไม่ได้มีเจตนาเอาถึงสาหัส แค่รู้สึกว่าต้องตีให้เข็ด ส่วนสิ่งที่ทำลงไปเพราะนัดเครียร์แล้วไม่มา จึงต้องปกป้องแฟนสาว และปกป้องแม่ที่อยู่ ๆ มาด่าแม่
สำหรับแฟนสาวไม่เคยเติมน้ำมันขวดร้านนี้เลย เติมแค่ที่ปั๊มน้ำมันเท่านั้น แต่ครั้งนี้เติมฉุกเฉินเพราะน้ำมันจะหมด อีกทั้งแฟนสาวมักนั่งคล่อมแบบนี้ก็ไม่เคยคิดว่าจะมาถูกกระทำแบบนี้ ฝากถึงคนก่อเหตุอายุเยอะแล้ว การกระทำแบบนี้ไม่เหมาะสม เจตนารู้อยู่แล้วว่าตั้งใจหรือไม่ มองว่าแฟนเป็นผู้หญิงคงไม่โกหกเอาเรื่องแบบนี้มาแลกให้เสียหายแน่นนอน
Advertisement