จับหนุ่มคลั่งฟิวส์ขาดไล่ยิงเจ็บ 3 อ้างสู้คมแฝก เมียแฉยัวะโกงที่เสี่ยงบังกระสุน (คลิป)

จากกรณีเมื่อเวลา 23.45 น. วันที่ 21 ธ.ค. 65 พ.ต.ต.ประกาศิต พละเดช สว.สอบสวน สภ.ห้วยใหญ่ ได้รับแจ้งเหตุใช้อาวุธปืนยิงกันมีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายราย เหตุเกิดหน้าบ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่หมู่4 ซอยเขามะกอก 8 ต.ห้วยใหญ่ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังรับแจ้งจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ แล้วพร้อมด้วยตำรวจฝ่ายสืบสวน และหน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างบริบูรณ์ฯเมืองพัทยา รุดไปทำการตรวจสอบ

เมื่อไปถึงห่างจากบ้านเกิดเหตุประมาณ 50 เมตร พบคนเจ็บ 3 ราย ถูกอาวุธปืนยิงนอนร้องครวญครางด้วยความเจ็บอยู่ข้างถนน โดยมีญาติ ๆ คนเจ็บยืนมุงดูเหตุการณ์จำนวนมาก

ทราบชื่อคนเจ็บต่อมา 1.นายคมสันต์ คงเหล็ก 37 ปี ถูกยิงเข้าแก้มซ้าย 1 นัด และแขนซ้าย 1 นัด ถูกนำส่ง รพ.เมืองพัทยา 2.นายมานิต โฮกอ่อน 52 ปี ระหว่างวิ่งหนีหลบลูกกระสุนเกิดพลาดล้มจนหัวไหล่ขวาหลุดผิดรูป และช็อกหมดสติในเวลาต่อมาถูกนำตัวส่ง รพ.บางละมุง และ 3.นายเสน่ห์ โฮกอ่อน อายุ 57 ปี ถูกยิงเข้าที่ชายโครงด้านซ้ายกระสุนฝั่งใน ถูกนำตัว รพ.วัดญาณสังวราราม

ต่อมาทราบชื่อคนก่อเหตุคือ นายอัคณี หรือ ทองดำ สระแก้ว อายุ 30 ปี เพื่อนบ้านที่เพิ่งย้ายมาอยู่อาศัยอยู่ใกล้ ๆ กันไม่ถึง 1 ปี ใช้อาวุธปืนลูกโม่ขนาด .38 ออกมาไล่ยิงเพื่อนบ้านก่อนขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป

ทีมข่าวได้ภาพวงจรปิดขณะเกิดเหตุเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นช่วง 22.53 น. ของวันที่ 21 ธ.ค.65 โดยนายอัคณีออกมาจากบ้านพัก แล้วมายืนหน้าบ้านพักเพื่อนบ้านที่อยู่ฝั่งตรงข้ามก่อนชี้หน้าตะโกนด่าทอ ผ่านไปประมาณ 5 นาทีเพื่อนบ้านที่กำลังพักผ่อนในบ้านพักได้ลุกมาเปิดไฟในตัวบ้าน ซึ่งตอนนั้นภรรยาของนายอัคณีเห็นท่าไม่ดีจึงเข้าห้ามปรามสามีและพยายามดึงสามีกลับบ้านพักแต่นายอัคนีก็ไม่ยอม ทั้งสองฉุดยื้อกันอยู่นานจนสุดท้ายนายอัคคียอมกลับบ้านพัก

ต่อมาช่วง 23.00 น. นายอัคณีเกิดโวยวายขึ้นมาอีกครั้ง พยายามจะออกนอกบ้านพักเพื่อไปด่าเพื่อนบ้าน จะเห็นว่าภรรยาพยายามห้าม จนเพื่อนบ้านทนไม่ไหวมาหน้าบ้านพักนายอัคนีและถามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ต่อมาเหตุการณ์เริ่มบานปลายทั้งสองฝ่ายมีปากเสียงกัน โดยเพื่อนบ้านคุมอารมณ์ไม่อยู่ไปหยิบท่อนไม้เป็นอาวุธเพื่อใช้ขู่อีกนายอัคณี ทำให้นายอัคนีไม่พอใจออกมาจากบ้านพัก จากนั้นทั้งสองฝ่ายทำร้ายร่างกายกันอย่างชุลมุน จากภาพจะเห็นว่าภรรยาของนายอัคนีพยายามห้ามแต่ไม่สำเร็จ จังหวะนั้นมีเพื่อนบ้านหนึ่งคนล้มลงกับพื้นและอีกหนึ่งคนหนีไป ซึ่งนายอัคณีก็ได้วิ่งตามไป

ต่อมานายอัคณีเดินกลับเข้าบ้านพัก จากนั้นไปหยิบปืนออกมาจากบ้านพัก ทำให้ภรรยาที่เห็นเหตุการณ์พยายามห้ามแต่ไม่สำเร็จ นายอัคนีถือปืนเดินออกจากบ้านพัก ก่อนที่จะกลับเข้าบ้านพักมาสวมเสื้อผ้าแล้วขี่รถจักรยานยนต์ออกจากบ้านพักหนีไป

ขณะที่ภาพวงจรปิดอีกมุมเผยให้เห็นภาพระยะไกลขณะทั้งสองฝ่ายทำร้ายร่างกายกัน โดยทางเพื่อนบ้านพยายามกอดรัดฟัดเหวี่ยงกับคนก่อเหตุและพยายามแย่งปืนออกจากมือ ระหว่างนั้นมีหนึ่งในกลุ่มคนบาดเจ็บถูกยิงล้มลงกับพื้น ทำให้คนบาดเจ็บที่เหลืออีกสองคนพยายามชกต่อยคู่กรณี ก่อนมีหนึ่งคนวิ่งหนีออกมาซึ่งทางคนก่อเหตุก็วิ่งไล่ตามไป

ต่อมา 23.00 น. นายอัคณีเดินกลับเข้าบ้านพัก จากนั้นไปหยิบปืนออกมาจากบ้านพักทำให้ภรรยาที่เห็นเหตุการณ์พยายามห้ามแต่ไม่สำเร็จ นายอัคนีถือปืนเดินออกจากบ้านพักก่อนที่จะกลับเข้าบ้านพักมาสวมเสื้อผ้าแล้วขี่รถจักรยานยนต์ออกจากบ้านพักหนีไป

นอกจากนี้ทีมข่าวยังได้คลิปเหตุการณ์ขณะเกิดเหตุเพิ่ม เป็นช่วงที่กลุ่มผู้บาดเจ็บกำลังมีปากเสียงกับคนก่อเหตุหน้าบ้านพักคนก่อเหตุ ในคลิปจะมีเสียงลูกผู้บาดเจ็บตะโกนว่า “พ่ออย่าไปทำเขา” ซึ่งทางคนก่อเหตุก็ตะโกนบอกว่า “พวกกูอยู่ดี ๆ กูไม่รู้เรื่อง” และทางภรรยาคนก่อเหตุในคลิปซึ่งพยายามกันไม่ให้คนก่อเหตุออกจากบ้านพักและไปมีเรื่อง ก็ได้ร้องกรี้ดกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ต่อมาคนก่อเหตุที่ถือปืนได้ผลักภรรยาออกจากประตูรั้วบ้าน ก่อนฝ่ายผู้บาดเจ็บจะเข้าไปแย่งปืนและทำร้ายร่างกายกันเหตุการณ์เริ่มชุลมุน ซึ่งคนถ่ายคลิปหยุดถ่ายคลิปไปชั่วขณะและหาที่หลบ ซึ่งท้ายคลิปจะเห็นว่ามีเสียงคนร้องไห้จากเหตุการณ์ดังกล่าว

ทีมข่าวอมรินทร์ทีวีเดินทางไปที่ สภ.ห้วยใหญ่ จ.ชลบุรี หลังได้ข้อมูลมาว่า นายอัคณี สระแก้ว ประสานทางตำรวจเพื่อขอเข้ามอบตัวมอบตัวในวันนี้ โดยนายอัคณีเดินทางมามอบตัวที่ สภ.ห้วยใหญ่ ช่วง 13.00 น. มีสีหน้าเคร่งเครียดอย่างเห็นได้ชัดและบอกกับทีมข่าวอมรินทร์ทีวีว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นยืนยันว่าอีกฝ่ายเป็นคนเริ่มก่อน และตนก็ได้รับบาดเจ็บจากการถูกคู่กรณีทำร้ายเช่นกัน ส่วนปมที่ตนไปก่อเหตุยิงและปมเขม่นกันก่อนหน้านี้ไม่ขอให้ข้อมูลหรือชี้แจงกับนักข่าว และไม่มีอะไรจะฝากถึงกลุ่มผู้บาดเจ็บที่ตนยิง

ทั้งนี้นายอัคณีถูกแจ้ง 3 ข้อหา พยายามฆ่าผู้อื่น, มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, พกพาอาวุธปืนไปในที่สาธารณะ หมู่บ้าน โดยไม่ได้รับอนุญาตให้พกพา ตำรวจคุมตัวไปตรวจหาเขม่าปืน และนำตัวส่งตรวจสอบประวัติลายนิ้วมือที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 2 (ชลบุรี) ก่อนนำตัวฝากขังชั่วคราวที่ สภ.ห้วยใหญ่

ด้าน น.ส.บังอร แซ่โง้ว อายุ 48 ปี ภรรยาของผู้ก่อเหตุ ได้เผยถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า ก่อนเกิดเหตุตนกำลังอาบน้ำก็ได้ยินสามีส่งเสียงเอะอะโวยวายอยู่หน้าบ้าน จึงรีบวิ่งออกมาดูในสภาพยังนุ่งผ้าเช็ดตัว จากนั้นเห็นสามียืนทะเลาะกับกลุ่มเพื่อนบ้าน 4-5 คน ซึ่งเพื่อนบ้านที่มาหาเรื่องที่หน้าบ้านพักตน หนึ่งในมี นายมานิต คนนี้เคยมีความขัดแย้งส่วนตัวกับสามีตน ซึ่ง นายมานิต ได้นำญาติซึ่งเป็นเพื่อนบ้านของตนมาด่าทอตนและสามีที่หน้าบ้านพัก

และหนึ่งในนั้นถือท่อนไม้ยาวแล้วจะง้างมือตีสามีตน ตนเห็นท่าไม่ดีจึงพยายามจะดึงสามีเข้าบ้าน แต่สามีก็ไม่ยอมฟังก่อนที่สามีจะขาดสติวิ่งเข้าไปเอาปืนในบ้านมาไล่ยิงเพื่อนบ้าน จนมีเพื่อนบ้านบาดเจ็บต่อมาสามีก็กลับเข้ามาที่บ้านพักแล้วขี่รถหนีไป

ยืนยันตนและสามีไม่เคยหาเรื่องเพื่อนบ้านก่อนหน้านี้ มีแต่นายมานิตและญาติที่มาหาเรื่องตนและสามี ส่วนชนวนปมขัดแย้งระหว่างสามีตนและนายมานิตก่อนหน้านี้ตนและสามีเคยติดต่อซื้อที่ดินพร้อมบ้าน ซึ่งคือหลังที่เกิดเหตุเมื่อปี 2564 จากนั้นมีการโอนเงินเพื่อทำการซื้อขายสองงวด โดยโอนเงินเสร็จสิ้นทั้งหมดช่วงต้นปี 2565 ในราคา 980,000 บาท

หลังจากโอนเงินทั้งหมด นายมานิตไม่รีบโอนโฉนดที่ดินให้ โดยมีข้ออ้างบ่ายเบี่ยงมาตลอด จนตนและสามีต้องจ้างทนายฟ้องศาล สุดท้ายจึงยอมโอนกรรมสิทธิ์โฉนดที่ดิน จากกรณีนี้ทำให้ทั้งสามีตนและนายมานิตเข้าหน้ากันไม่ติดตั้งแต่หลังเกิดเหตุการณ์

ส่วนตัวไม่ทราบว่าสามีไปซื้อปืนและนำปืนมาจากที่ใด แต่คาดว่าก่อเหตุไปเพราะป้องกันตัว เพราะอีกฝ่ายมาหาเรื่องก่อน และชอบว่ากล่าวสามีตนด้วยถ้อยคำไม่สุภาพ คาดสามีคงเก็บกดที่ก่อนหน้านี้ถูกอีกฝ่ายหาเรื่องตลอด

ด้าน นายมานิต โฮกอ่อน ผู้บาดเจ็บและเป็นคนขายที่ดินพร้อมบ้านหลังเกิดเหตุให้กับคนก่อเหตุ ซึ่งยังคงมีอาการบาดเจ็บดั้งจมูกหัก กระดูกแขนหักสองท่อน และมีความบอบช้ำทางด้านร่างกาย เล่าว่าวันเกิดเหตุตนพักผ่อนในบ้านพัก ต่อมาน้องสาวตนซึ่งพักในบ้านหลังตรงข้ามกับคนก่อเหตุ มาบอกว่าถูกคนก่อเหตุมาด่าทอที่หน้าบ้านพัก ตนจึงออกจากบ้านและเรียกญาติผู้ชายไปเคลียร์

ยอมรับฝ่ายตนผิดที่ถือท่อนไม้ไปหาเรื่องที่หน้าบ้านพัก อ้างตั้งใจแค่ขู่ไม่ได้จะทำร้ายจริง ๆ แต่ปรากฎว่าคนก่อเหตุไม่พอใจไปหยิบปืนในบ้านพักออกมา ต่อมาฝ่ายตนกลัวว่าจะยิงจริง จึงเข้าไปแย่งปืนแบะด้วยอารมณ์โมโหตอนนั้นก็เข้าไปทำร้ายร่างกายต่อมาคนก่อเหตุยิงหลานเขยตนที่ถือท่อนไม้ตามภาพในวงจรปิดแล้วจะยิงซ้ำอีก จนหลานต้องจับตัวภรรยาคนก่อเหตุมาบังตัวไว้ อีกฝ่ายจึงไม่กล้ายิง แล้วหันไปยิงพี่ชายตนจนล้มลง ตอนนั้นตนเห็นท่าไม่ดีจึงรับวิ่งหนี แต่คนก่อเหตุยังวิ่งตามตน วิ่งตามห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 50 เมตร จนตนสะดุดล้มลง แล้วคนก่อเหตุก็เอาปืนมาจ่อยิง 3 ครั้ง โชคดีลูกกระสุนหมดในรังเพลิง ตนจึงรอดหวุดหวิด แล้วคนก่อเหตุก็กลับบ้านพักและขี่รถจักรยานยนต์หนี

ส่วนปมเหตุที่คนก่อเหตุขัดแย้งกับตนก่อนหน้านี้เนื่องจาก คนก่อเหตุเคยติดต่อขอซื่อที่ดินพร้อมบ้านหลังที่เกิดเหตุ เนื้อที่รวม 40 ตารางวา ในปี 2564 จากนั้นตกลงราคาประมาณ 890,000 บาท ตกลงจ่ายเงินสองงวดวันทำสัญญา 380,000 บาท และอีกงวดก่อนโอนกรรมสิทธิ์ ช่วงมกราคมปีนี้ อีก 510,000 บาท จากนั้นตนติดขัดเรื่องเอกสารการโอนกรรมสิมธิ์ที่ดิน เพราะโฉนดที่ดินจะโอนให้เป็นโฉนดเดียวกับบ้านอีกหลังที่ตนครอบครองอยู่ จึงต้องมีการแบ่งที่ดินก่อนทำการโอนกรรมสิทธิ์บ้านที่ดินที่คนก่อเหตุซื้อ ทำให้การโอนล่าช้า ทำให้ทางคู่กรณีไม่พอใจ และมาต่อว่าตนว่าจะโกงที่ดิน

จากนั้นคนก่อเหตุไม่พอใจก็มาหาเรื่องและด่าทอครอบครัวของตนเรื่อย ๆ ทั้งขี่รถแล้วมาเบิ้ลรถใส่ ทั้งเคยจะเข้ามาทำร้ายขว้างขวดเบียร์ตน จนตนทนไม่ไหวเข้าแจ้งความ วันที่ 27 มีนาคม ที่ผ่านมา เพราะกลัวว่าอีกฝ่ายจะทำร้ายร่างกายตน เหตการณ์เป็นลักษณะนี้มาเรื่อยจนตนทนไม่ไหวที่ทั้ใตนและญาติตนถูกหาเรื่องบ่อย จึงยกพวกไปถามคนก่อเหตุ และเกิดเหตุการณ์ตามภาพวงจรปิดและคลิปเหตุการณ์