กรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งโพสต์ภาพร้านอาหารริมทาง นำโต๊ะไปวางขวางกลางลำธารจำนวนหลายโต๊ะ ให้ลูกค้ามานั่งกินอาหารกลางลำธาร พร้อมข้อความ ระบุ "สอบถามเพื่อเป็นความรู้ เพราะเพิ่งเคยแวะ…! ระหว่างทาง ไปม่อนแจ่ม มีธารน้ำธรรมชาติ แล้ว เขาตั้งร้าน ที่นั่งกิน ของลูกค้า ลงไปในธารน้ำ ธารน้ำประมาณนี้ ผู้คนทั่วไป ควรจะมีสิทธิ์ในการ ไปแวะพัก รึเด็กๆเล่นน้ำได้…แต่ หมดสิทธิ์…! ทำไมเขามีสิทธิ์ทำได้ขรับ"
วันที่ 22 ธ.ค. 65 ทีมข่าวลงพื้นที่จุดที่มีการถ่ายภาพโพสต์ เป็นร้านอาหารและร้านกาแฟริมลำธาร พื้นที่ อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ ทางขึ้นไปม่อนแจ่ม พบว่าร้านได้ปรับเปลี่ยนวางโต๊ะบริเวณริมลำธาร ไม่ได้นำไปวางตรงกลางตามที่มีภาพออกมาแล้ว
นางบังอร (นามสมมุติ) เจ้าของร้าน กล่าวว่า ร้านของตนเช่าพื้นที่ต่อจากเจ้าของที่ปีละ 20,000-30,000 บาท ซึ่งเป็นที่ดินมีเอกสารสิทธิ์ครบถ้วน ไม่ใช่ที่ของกรมอุทยานตามที่สังคมสงสัย ส่วนลำธารกรมเจ้าท่าเป็นคนดูแล ซึ่งตนยอมรับว่ามีการนำโต๊ะวางที่บริเวณริมลำธาร เพื่อให้ลูกค้าได้ชมบรรยากาศธรรมชาติ แต่ก็ไม่ได้วางตลอด วางช่วงเช้าตอนเย็นก็เก็บขึ้นมา เพราะเป็นโต๊ะแบบเคลื่อนย้ายได้ ไม่ได้ตั้งถาวร
โดยบริเวณนี้เป็นร้านของตน ลูกค้าต้องมากินอาหารในร้านจึงจะนั่งที่โต๊ะ หรือลงเล่นน้ำได้ แต่หากไม่ใช่ลูกค้าที่ร้าน ตนไม่อนุญาต เพราะตรงนี้เป็นร้านอาหาร ไม่ใช่สถานที่ท่องเที่ยว หากอยากเช่นน้ำอย่างเดียว ควรไปเล่นที่น้ำตกซึ่งอยู่ใกล้ ๆ กัน โดยร้านตนลงทุนทำเองทุกอย่าง ปูพื้นทำลานจอดรถ จ้างลูกน้อง ทุกอย่างมีค่าใช้จ่าย คงไม่สามารถให้ใครมาเล่นน้ำฟรี ๆ ได้
ทีมข่าวสำรวจบริเวณใหล้เคียงพบว่าจุดดังกล่าวมีการตั้งร้านค้าร้านอาหารเลียบริมลำธารตลอดแนวกว่า 10 ร้าน ส่วนใหญ่นำโต๊ะลงไปตั้งในลำธารเช่นเดียวกัน
นางอำพร ชมภู อายุ 63 ปี เจ้าของร้านอาหารอีกแห่ง กล่าวว่า ร้านของตนมีเอกสารสิทธิ นส.3ก สามารถทำกินได้ถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งตนก็ค้าขายมากว่า 20 ปีแล้ว ส่วนพื้นที่ในลำธารเป็นของกรมเจ้าท่า ยอมรับว่าการตั้งเก้าอี้หรือโต๊ะในน้ำไม่ได้รับอนุญาตจากกรมเจ้าท่า แต่ก็ต้องตั้งไว้ เพราะทุกร้านทำเหมือนกันหมด หากไม่ทำแบบนี้ ร้านของตนก็จะไม่มีลูกค้าเข้าร้าน
โดยร้านของตนไม่ได้ปิดกั้นนักท่องเที่ยว แม้จะไม่ได้มากินอาหารที่ร้าน ก็สามารถมาเล่นน้ำได้ เพราะเป็นพื้นที่สาธารณะ ส่วนโต๊ะที่ตั้งในลำธาร เป็นโต๊ะแบบชั่วคราวสามารถยกขึ้น เคลื่อนย้ายได้ หากมีคำสั่งให้รื้อถอนตนก็ต้องทำตามกฎหมาย เพราะทุกร้านก็ต้องทำเหมือนกันหมด
ล่าสุด นายวุฒิชัย โสมวิภาต หัวหน้าอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย ระบุว่า ขณะนี้กำลังตรวจสอบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวอยู่ในความรับผิดชอบของ 3 หน่วยงานแบ่งตามพื้นที่ ทั้งกรมอุทยาน กรมป่าไม้ ส่วนในน้ำเป็นเขตความรับผิดชอบของกรมเจ้าท่า ซึ่งร้านค้าบางส่วนก็มีเอกสารสิทธิ์ครอบครองที่ดิน จึงต้องตรวจสอบว่ามีจุดใดที่รุกล้ำออกมา และอยู่ในความรับผิดชอบของหน่วยงานใด
Advertisement