บีบใจเด็ก 8 ขวบกำพร้าพ่อแม่ถูกโควิดพราก ยายแท้ ๆ ปัดภาระโยนผัวใหม่แม่ดูแล (คลิป)
ผู้ใช้เฟซบุ๊ก Chumpol Punnin ได้โพสต์ภาพเด็กหญิงวัย 8 ขวบ พร้อมกับระบุข้อความว่า "เรื่องราวที่โหดร้ายเหลือเกิน ???
น้องเกิดมาไม่มีพ่อ เช่าบ้านอาศัยอยู่กับแม่ อดมื้อกินมื้อยังเรียนได้ที่8 วันนี้โลกช่างโหดร้าย เจ้าโควิด-19 มาพรากแม่ไปจากน้อง ตอนผมไปถึงน้องไม่ร้องเลย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
จนพวกผมบรรจุร่างของแม่น้องเสร็จนำขึ้นรถ จะนำร่างไปฌาปนกิจที่วัดเนินพระ พอรถเคลื่อนออก น้องหันไปมองรถ พร้อมกับกอดโทรศัพท์ที่มีรูปแม่ น้องร้องไห้ ผมเองยังกลั้นน้ำตาไม่อยู่เลย ผมได้แต่ให้กำลังใจน้อง ก่อนจะออกมาเพื่อนำร่างแม่น้องไปเผาที่วัดเนินพระ ทำไมโลกมันช่างโหดร้ายกับเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆคนนี้จัง" ซึ่งหลังจากโพสต์นี้ถูกเเชร์ออกไปก็มีคนเข้ามากดเเชร์เเละเข้ามาแสดงความคิดเห็นในเชิงสงสารน้องจำนวนมาก
ล่าสุด วันที่ 19 ธ.ค.65 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางมาที่บ้านเช่าแห่งหนึ่งในพื้นที่ ต.เชิงเนิน อ.เมือง จ.ระยอง พบกับนายนิยม หรับหลี อายุ 68 ปี แฟนของนางสาวณัฐฐิรา โพธิ์คำ อายุ 41 ปี ผู้เสียชีวิต แม่ของเด็กหญิงชุติมา หรือ น้องเบนซ์ อายุ 8 ปี
นายนิยม พ่อเลี้ยงของเด็กหญิงเบนซ์ เปิดเผยว่า ตนเองเเละเเม่ของเด็กคบหากันมานานเเล้ว ตั้งเเต่ช่วงที่เด็กเกิด ตนก็คอยช่วยเลี้ยงดูมาตลอด ก่อนหน้านี้เเม่เด็กเเละเด็กพักอาศัยอยู่อีกที่หนึ่ง แต่ไม่ค่อยสะดวกสบายเท่าไหร่นัก จึงได้ย้ายมาอยู่ที่นี่ได้ยังไม่ถึง 1 เดือน ตนเป็นคนจ่ายค่าเช่าห้องเดือนละ 2,500 บาท ก็คอยเทียวไปเทียวมาไปกลับจาก จ.สุราษฎร์ธานี เพื่อมาดูแลเเม่ของเด็ก เพราะเขามีอาการป่วยมานานประมาณ 1 ปีกว่า ตนไม่เเน่ใจนักว่าเขาป่วยเป็นอะไร แต่น่าจะเป็นวัณโรคหรือไม่ ตนก็ต้องพาเขาไป รพ. ไปล้างเเผลที่มีการเจาะคอ เเต่ช่วงหลังเขาติดโควิด-19 ช่วงก่อนหน้านี้ที่เด็กเเละเเม่อยู่ด้วยกัน เด็กหญิงเบนซ์ก็ได้เรียนหนังสือ ตอนนี้เรียนอยู่ชั้น ป.2 เเล้ว ซึ่งเเม่เด็กก็จะเป็นคนไปส่งไปโรงเรียนเอง
ซึ่งในวันที่เกิดเหตุ วันที่ 17 ธ.ค.65 ตนเองก็อยู่ที่บ้านด้วย โดยเด็กและแม่เด็กนอนด้วยกัน ส่วนตนนอนเเยกอีกห้อง โดยตนต้องคอยลุกมาดูอาการฝ่ายหญิงทุก 1 ชม. จนเวลา 04.00 น. ตนลุกมาดูอาการเขา เเต่เเม่ของเด็กก็จากไปแล้ว ตนจึงรีบเเจ้งกู้ภัย เเต่ทางกู้ภัยก็เเจ้งว่าจะต้องมาช่วงเช้า ๆ หรือ สายๆ เเทน
จนกระทั่งช่วง 08.00 น. ก็มีกู้ภัยเข้ามาช่วยนำศพไปเผาให้ วันนี้ก็มาคอยช่วยเหลือเรื่องของน้องเบนซ์ด้วย ทั้งพาไปทำบัตรประชาชน พาไปเปิดบัญชีธนาคาร ตนขอขอบคุณเป็นอย่างมาก เพราะถ้าตนไปทำคนเดียว ก็คงจะไม่รู้เรื่อง และไม่เรียบร้อยราบรื่นแบบนี้ ส่วนตอนนี้น้องเบนซ์ไม่เหลือใครแล้ว ยายที่เป็นยายเเท้ ๆ ก็ดูเหมือนว่าเขาไม่อยากจะรับเลี้ยง ส่วนพ่อเด็กก็ไม่รู้ว่าเป็นใคร เพราะไม่มีชื่อพ่อในใบแจ้งเกิด ตนก็ยืนยันว่าจะดูแลเด็กคนนี้ให้ดีที่สุด
นายจุมพล พูลนิน อายุ 46 ปี หัวหน้าอาสาสมัครกู้ภัยมูลนิธิสว่างพรกุศลระยอง จุดเนินพระ ผู้ซึ่งคอยช่วยเหลือน้องเบนซ์มาตั้งเเต่เเรก เปิดใจว่า เมื่อวันเสาร์ที่ 17 ธ.ค.65 ช่วงเช้าตนได้รับแจ้งเหตุมีรถจักรยานปั่นไปชนท้ายกับรถบรรทุกจนเสียชีวิต ตนจึงได้เดินทางมาดู แต่พบว่าทางเจ้าหน้าที่ได้มีการเก็บศพไปเรียบร้อยแล้ว หลังจากนั้นตนก็ได้ยินวิทยุสื่อสาร แจ้งว่าที่ห้องเช่าแห่งนี้มีผู้เสียชีวิตจากการติดเชื้อโควิด-19 ซึ่งตนเป็นหนึ่งในทีมของการเก็บศพผู้ป่วยโควิดอยู่แล้ว จึงได้มีการแวะเข้ามาดูในช่วงเวลาเกือบ 10.00 น. จึงทราบว่าผู้เสียชีวิตได้เสียตั้งแต่ช่วงเวลาประมาณ 04.00 น. เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุก็ได้ทำการเก็บศพและฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อในห้องเช่าให้ตามปกติ ไม่มีการตรวจให้กับตาและเด็กหญิงเบนซ์แล้ว แต่ไม่พบการติดเชื้อ
กรณีที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องน่าสะเทือนใจอย่างมาก ด้วยความสงสารตนจึงพาน้องเบนซ์ไปทำบัตรประชาชน เปิดบัญชีธนาคาร โดยตนได้ให้เงินเปิดบัญชีไป 500 บาท เมื่อเช้านี้อากาศหนาว ตนก็ได้เอาเสื้อกันหนาวของลูกสาวให้ใส่ ในส่วนของการช่วยเหลือหลังจากนี้ ก็จะต้องประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้ามาดูแลเด็กต่อไปให้ถูกต้องตามกฎหมาย เพราะคุณตานิยมไม่ใช่ญาติโดยสายเลือด ส่วนคุณยายของน้อง ก็ดูเหมือนไม่อยากจะรับเลี้ยงหลาน บอกให้คุณตานิยมที่มีศักดิ์เป็นพ่อเลี้ยงดูแล หลังจากนี้ก็จะต้องมีการทำเรื่องรับลูกบุญธรรมให้ถูกต้อง ซึ่งหากน้องเบนซ์มีปัญหาเรื่องทะเบียนบ้าน ตนก็ยินดีที่จะให้ชื่อน้องย้ายเข้ามาอยู่ที่บ้านของตนก่อน ส่วนเรื่องการเปิดบัญชีธนาคารเป็นชื่อของน้อง เเละยังไม่ได้เปิดรับบริจาค ซึ่งก็จะต้องเอาให้หน่วยงานไว้
จากนั้นเวลาประมาณ 16.00 น. เจ้าหน้าที่จากบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดระยองได้เดินทางไปที่บ้านเช่าหลังดังกล่าวก็จะได้พูดคุยกับนายนิยมพ่อเลี้ยงของน้องเบนซ์ โดยได้ขอดูเอกสารต่าง ๆ ทั้งบัตรประจำตัวประชาชน ใบแจ้งเกิดของน้องเบนซ์ ใบมรณะบัตรของแม่น้องเบนซ์ รวมถึงบัตรประชาชนของนายนิยม ก่อนจะสอบถามที่ไปที่มาของเรื่องราวทั้งหมด
ส่วนเรื่องที่นายนิยมจะรับน้องเบนซ์เป็นบุตรบุญธรรมนั้น จะต้องให้นายนิยมเดินทางไปยื่นเรื่องที่ พมจ.สุราษฎร์ธานี เนื่องจากภูมิลำเนาของนายนิยมอยู่ที่ จ.สุราษฎร์ธานี เพื่อให้เจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบบ้านของนายนิยมว่ามีความพร้อมที่จะรับเลี้ยงดูเด็กหรือไม่
Advertisement
