จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ได้โพสต์เรื่องราวระบุว่า "เมื่อเวลา 00.54 น. ของวันที่ 13 ธ.ค. 65 เจ้าหน้าที่กู้ภัยร่วมกตัญญูจุด สน.คลองตัน รับเเจ้งเหตุผู้ป่วยหน้าปากซอยพัฒนาการ 16 หน้าร้านเหล้าเเห่งหนึ่ง ไปถึงที่เกิดเหตุพบผู้ป่วยชายหนึ่งรายมีอาการตาเหลือกไม่กระพิบตาใช้กล้ามเนื้อท้องในการหายใจลองทดสอบความรู้สึกก็นิ่ง มีผื่นเเดงขึ้นตามตัว กลัวผู้ป่วยหัวใจหยุดเต้นเลยร้องขอรถพยาบาลกู้ชีพ เพราะทำทุกทางเเล้วผู้ป่วยก็ยังนิ่งอยู่ สัญญาณชีพดีแต่เจ้าหน้าที่กู้ภังงทำไมสัญญาณชีพดีเเต่หายใจใช้กล้ามเนื้อท้อง เจ้าหน้าที่กู้ภัยรายหนึ่งเอะใจเพราะจำหน้าผู้ก่อเหตุได้จึงเช็กกลุ่ม LINE กู้ภัย พบว่าชายคนนี้เป็นเเบบนี้ทุกรอบที่มากินเหล้าคือแกล้งชัก แกล้งป่วย ให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยมารับ คอยเปลี่ยนร้านเหล้าไปเรื่อยที่ไปกิน เพื่อหลีกเลี่ยงการจ่ายเงิน ก่อเหตุมาเเล้วย่าน ทองหล่อ พระโขนง คลองตัน เอกมัย อ่อนนุช ล่าสุดเหตุเกิดที่คลองตัน" ทราบชื่อผู้ก่อเหตุคือ นายมานพ (สงวนนามสกุล) อายุ 49 ปี
ล่าสุดวันที่ 14 ธ.ค. 65 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่พูดคุยกับ น.ส.เพชรรัตน์ ขวัญคุ้ม อาสามูลนิธิร่วมกตัญญู ซึ่งเป็นคนที่เดินทางมาพบกับ นายมานพ ผู้ก่อเหตุ เป็นคนแรก
น.ส.เพชรรัตน์ บอกกับผู้สื่อข่าวว่า เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุพบว่านายมานพใช้หน้าท้องในการหายใจ ซึ่งแตกต่างจากคนปกติที่เวลาหายใจหน้าอกจะกระเพื่อม ลักษณะเหมือนคนกลั้นหายใจแล้วใช้หน้าท้องหายใจทางปาก
เมื่อตนเห็นก็เกรงว่าผู้ก่อเหตุจะเกิดอาการหัวใจหยุดเต้น เลยเช็กสัญญาณชีพพบว่าทุกอย่างปกติจึงเรียกขอรถพยาบาลกู้ชีพ ระหว่างที่รถพยาบาลมาก็พยายามปลุกผู้ก่อเหตุ ผู้ก่อเหตุก็ไม่รู้สึกตัวยังคงนอนตาเหลือกไม่กระพริบตา อยู่กับที่พยายามปลุกหลายวิธีแต่ผู้ก่อเหตุยังคงนิ่ง จึงตัดสินใจเอามือจับที่ตาผู้ก่อเหตุปรากฏว่าผู้ก่อเหตุกระพริบตาจึงรู้ว่าผู้ก่อเหตุนั้นโกหกแกล้งป่วย เจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงบอกกับผู้ก่อเหตุว่าไม่ต้องโกหกหรอกเพราะทราบว่าเคยก่อเหตุลักษณะนี้มาก่อน
ขณะที่ นายกิตติพงษ์ พิมพูล อาสามูลนิธิร่วมกตัญญูจุด สน. คลองตัน บอกกับผู้สื่อข่าวว่า เมื่อเดินทางไปถึงที่เกิดเหตุแล้วเห็นหน้า นายมานพ ผู้ก่อเหตุ ก็จำได้ว่าคนนี้เคยก่อเหตุในลักษณะนี้มาแล้ว จึงเปิดดูประวัติกลุ่มไลน์กู้ภัยย้อนหลังก็พบว่าเป็นคนเดียวกันเมื่อ เคยก่อเหตุเมาแล้วแกล้งป่วย เพื่อที่จะไม่ต้องจ่ายค่าเหล้า
เมื่อวันที่ 2 ก.ย. ที่ผ่านมาแถวอ่อนนุช ซึ่งนายมานพนั้นตะเวนก่อเหตุในหลายพื้นที่ ทั้ง ทองหล่อ, กล้วยน้ำไท, อ่อนนุช, คลองตัน เมื่อทราบว่า นายมานพ แกล้งป่วยเจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงนำแอมโมเนียมมาโปะจมูก พร้อมกับดันปากเอาไว้ไม่ให้หายใจทางปาก เพียงแป๊บเดียวนายมานพก็ลุกขึ้นมาทันทีจากที่นอนตาเหลือกอยู่นาน ตนจึงไปบอกว่าลุงอย่าไปทำแบบนี้กับที่ไหนอีกนะเพราะว่ามันไม่ดี มันเดือดร้อนยันรถกู้ชีพ คนเจ็บคนป่วยจริง ๆ ที่เขาต้องการความช่วยเหลือ มันเสียโอกาสในการรอดชีวิต
นายมานพ จึงพยายามขอโทษเจ้าหน้าที่กู้ภัยและขอโทษเจ้าของร้านเหล้าด้วยการกราบลงกับพื้น ซึ่งโชคดีที่ทางเจ้าของร้านไม่อยากดำเนินคดีเพราะเราเห็นแล้วรู้สึกสงสาร แต่ทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยอยากให้ผู้ก่อเหตุถูกดำเนินคดีดูบ้างเพราะทำมาหลายครั้งแล้ว ต่อไปจะได้ไม่ไปก่อเหตุแบบนี้ที่ไหนอีก เพราะว่าเวลาไปกินเหล้าในหลายหลายที่ชอบแกล้งชักตาค้างในแบบเดียวกันเพื่อที่จะไม่ต้องจ่ายค่าเหล้าแล้วให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยมารับตัว ซึ่งแต่ละครั้งที่ นายมานพ ไปสั่งอาหารสุราดื่มแล้วแกล้งป่วยไม่จ่ายเงิน แต่ละครั้งราว 2,000-3,000 บาท
เหตุการณ์ในวันที่ 13 ธ.ค. 65 หลังจากที่เหตุการณ์สงบลงแล้วเจ้าของร้านไม่เอาเรื่อง เจ้าหน้าที่กู้ภัยก็ไปจอดรถห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 300 เมตร อีกเพียงประมาณ 5 นาที ก็มีคนขี่รถจักรยานยนต์มาตามบอกว่ามีคนจะกระโดดสะพานลอยบริเวณร้านเหล้าที่นายมานพไปก่อเหตุ จึงถามไปว่าใครมีลักษณะเป็นแบบไหนจึงเอารูปนายมานพให้ดูแล้วถามว่าใช่คนนี้ไหม ก็ปรากฏว่าคนที่จะกระโดดสะพานก็คือ นายมานพ เจ้าหน้าที่กู้ภัยก็ต้องไปที่สะพานลอยพร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อระงับเหตุ
จากนั้นจึงทำการเรียกรถขยะให้มาจอดใต้สะพานลอย เพื่อให้เวลาการชาร์จตัวเป็นไปอย่างปลอดภัย หลังจากนั้นจึงขึ้นไปเกลี้ยกล่อมแต่ดูจากสถานการณ์แล้วตัว นายมานพ ไม่น่าจะกระโดดลงมาจริง ๆ น่าจะเป็นการเรียกร้องความสนใจ ซึ่งใช้เวลาอยู่พักนึงเจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงทำการชาร์จตัวนายมานพแล้วนำตัวลงมาจากสะพานลอย แล้วนำขึ้นรถกู้ภัยไปที่สถานีตำรวจคลองตัน
หลังจากที่เจ้าหน้าที่กู้ภัยนำตัวนายมานพขึ้นไปบนรถของกู้ภัยแล้วเจ้าหน้าที่กู้ภัยได้เดินมาบอกกับนายมานพว่า อย่าไปทำแบบนี้ที่ไหนอีก มันเดือดร้อนคนอื่นเขาไปทั่ว ซึ่งนายมานพก็ตอบแบบติดอ่างว่า อย่า อย่า อย่า จับนะ อย่าประจานอย่าจับนะ พร้อมกับยกมือไหว้ จากนั้นเจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงบอกว่าสิ่งที่นายมานพทำมันไม่ได้เดือดร้อนแค่เจ้าหน้าที่กู้ภัยมันเดือดร้อนยันโรงพยาบาล รถกู้ชีพ เจ้าหน้าที่ตำรวจ
ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ตามบัตรประชาชนของ นายมานพ ได้พูดคุยกับ นางตือ (นามสมมติ) อายุ 80 ปี ป้าของผู้ก่อเหตุ บอกกับผู้สื่อข่าวว่า นายมานพ นั้นไม่ใช้ญาติแท้ ๆ แต่เป็นเด็กที่ครอบครัวนั้นขอมาเลี้ยงตั้งแต่เกิดได้ 7 เดือน ซึ่งทางครอบครัวของนายมานพเองไม่เคยส่งเสียเลย นายมานพ เป็นคนชอบกินเหล้าชอบออกไปดื่มกับเพื่อน เวลาเมาก็ชอบทำลายข้าวของภายในบ้าน ตัวป้าตือเองก็เคยโดนทุบหัวไปหนึ่งครั้ง ถ้าไม่เมาก็จะเป็นคนดีใช้ได้ ไม่ค่อยยุ่งกับใครจะดูทีวีอยู่แต่ในห้องเวลาหิวถึงจะออกมากินข้าว
นายมานพ ไม่ได้ทำงานเพราะเดินนิด ๆ หน่อย ๆ ก็เหนื่อยแล้ว มีโรคประจำตัวเยอะ ไทรอยด์ ความดัน หอบหืด ซึ่งอยู่บ้านบางครั้งก็มีอาการวูบลงไปบ้าง ซึ่งหมอก็บอกว่าห้ามดื่มสุราและสูบบุหรี่ แต่ นายมานพ ก็บอกว่าอดไม่ได้ เวลานายมานพออกไปดื่มเหล้ามักจะหนีกลับบ้านแล้วไม่จ่ายตังค์ ซึ่งตัวป้าตือก็ต้องเป็นคนจ่ายให้เสมอ
นายมานพถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน. พระโขนง จับจนเจ้าหน้าที่ตำรวจจำได้ บางครั้งเจ้าของร้านมาตามทวงเงินถึงที่หน้าบ้านป้าตื่อเองก็หนักใจที่เป็นแบบนี้ แต่เมื่อเลี้ยงมาแล้วแม้จะไม่ใช่ลูกแท้ ๆแต่ก็รักเหมือนลูก ยอมรับว่าทำใจยากเวลาป้าตือเผลอก็มักจะขโมยตังค์ออกไปดื่มเหล้าเป็นประจำ ซึ่งจะรู้ว่าตัว นายมานพ เป็นคนขโมยแต่ก็ปล่อยไป ส่วนตัวก็อยากให้นายมานพดื่มเลิกเหล้าจะได้ไม่ไปก่อเหตุในลักษณะนี้อีก
โดยป้าตือ ได้พาผู้สื่อข่าวไปพบกับ นายมานพ ซึ่งอยู่ภายในบ้าน เมื่อนายมานพเดินออกมาเห็นนักข่าวพร้อมกับกล้องจึงเกิดอาการตกใจและวิ่งหนีเข้าไปหลบซ่อนตัวอยู่ภายในบ้านทันที
หลังจากนั้นผู้สื่อข่าวได้พูดคุยกับ นายโต เพื่อนบ้านซึ่งอาศัยอยู่บ้านฝั่งตรงข้ามกับบ้านของ นายมานพ ได้บอกกับผู้สื่อข่าวว่า นายมานพมีพฤติกรรมชอบออกไปทานอาหารดื่มเหล้านอกบ้านแล้วก็ไม่ยอมจ่ายเงิน ทำให้เจ้าของร้านอาหารต้องตามมาทวงเงินถึงที่บ้าน ทำให้ป้าที่คอยดูแลต้องคอยจ่ายเงินให้ตลอด
ซึ่งทางครอบครัวก็เคยมาบ่นให้ฟังว่าเหนื่อย เวลาเมามักจะทุกข้าวของภายในบ้าน บางครั้งเค้าบานไม่ได้ก็จะทุบประตูรั้วบ้าน ซึ่งนายมานพเป็นแบบนี้มานานนับ 10 ปีแล้ว ตั้งแต่สมัยที่ป้าที่คอยดูแลยังแข็งแรงสามารถขายก๋วยเตี๋ยวได้จนปัจจุบันขายไม่ได้แล้วเนื่องจากมีอายุมาก ส่วน นายมานพ ไม่มีงานทำเคยไปทำงานเป็นยามแต่ทำได้ไม่นานก็ออกจากงานมาอยู่บ้าน
ส่วนตัวมองว่านายมานพไม่น่าจะเป็นคนป่วยแต่มีอาการป่วยทางจิตหรือเปล่าตนนั้นก็ไม่แน่ใจ มองภายนอกดูร่างกายแข็งแรง เวลาไม่เมาตนเป็นคอยตักเตือนก็รับฟังเหมือนเด็กที่เชื่องเลย แต่พอเวลาเมาแล้วถ้าไปพูดอะไรใส่นิดนึงจะทำตาขวางใส่ทันที แต่ก็ไม่เคยมาทำร้ายอะไรตนเพราะว่านายมานพเห็นตนมาตั้งแต่เด็ก
ตนเองอยากจะให้มีหน่วยงานที่เข้ามาดูแลอย่างจริงจังพาไปรักษาถ้าหากว่าเป็นโรคจิต เพราะไปก่อเหตุดื่มแล้วไม่จ่ายบ่อยครั้ง ตำรวจจับไปกลางคืนเช้าก็ถูกปล่อยตัวออกมา เป็นแบบนี้มานับ 10 ปีแล้ว นายมานพ มีป้าที่คอยดูแลอยู่ 3 คน อาศัยอยู่ในบ้านหลังเดียวกัน ซึ่งแต่ละคนก็อายุมากแล้วตนสงสารป้าที่คอยดูแลพอเช้ามาก็ต้องไปซื้อข้าวมาให้ นายมานพ ทานอยู่ทุกวัน ถ้านายมานพเป็นคนมีสำนึกก็ควรจะดีกับป้าที่คอยดูแลมาตั้งแต่เด็กไม่ใช่มาทำตัวเป็นภาระแบบนี้
ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่สถานบันเทิงร้านเวลคัม ย่านซอยพัฒนาการ 16 ได้พูดคุยกับ นายพิชญา ราษฎร์นิยม ผู้จัดการร้าน บอกกับผู้สื่อข่าวว่านายมานพได้เดินทางเข้ามาที่ร้านช่วงประมาณ 4 ทุ่ม ของคืนเกิดเหตุ เมื่อเข้าไปในร้านก็สั่งอาหารสองสามอย่างพร้อมกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 1 ขวด จากนั้นก็นั่งดื่มอยู่คนเดียวพร้อมกับเรียกเด็กเสิร์ฟภายในร้านมาทานอาหารด้วย เมื่อถึงเวลาใกล้ปิดร้านได้สั่งให้เด็กเสิร์ฟไปเช็กบิลกับนายมานพ เมื่อเด็กเสิร์ฟเดินไปเช็กบิลนายมานพก็เกิดอาการชักขึ้นมาทันที ทำให้เด็กเสิร์ฟต้องอุ้มนายมานพออกมาทำการปฐมพยาบาลที่หน้าร้านซึ่งกล้องวงจรปิดบริเวณหน้าร้านสามารถจับภาพเอาไว้ได้
หลังจากที่นำนายมานพออกมาหน้าร้านทางร้าน ได้แจ้งเจ้าหน้าที่กู้ภัยให้มาช่วยเหลือเพราะกลัวว่านายมานพจะเป็นอะไรไป เพราะทางร้านไม่ทราบว่านายมานพเคยก่อเหตุไปกินเหล้าแล้วแกล้งตายที่ร้านอื่น ขณะนั้นรู้สึกสงสารประกอบกับยุ่งกับการเช็กบิลลูกค้าภายในร้านจึงไม่ได้ตัดสินใจที่จะดำเนินคดีกับนายมานพ แต่เหตุการณ์ไม่ได้จบลงแค่นั้นเพราะหลังจากที่เจ้าหน้าที่กู้ภัยกลับไปแล้วนายมานพกลับเดินขึ้นไปบนสะพานลอยแล้วทำที่จะกระโดดลงสะพานลอยอีกทำให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องกลับมายังบริเวณหน้าร้านอีกครั้งพร้อมกับนำตัวนายมานพลงมา
ตนอยากจะบอกกับนายมานพว่าอย่าไปก่อเหตุแบบนี้กับสถานบันเทิงเลย เพราะที่ผ่านมาสถานบันเทิงถูกปิดมานานกว่าจะกลับมาเปิดได้ มาทำแบบนี้ทำให้เด็กเสิร์ฟภายในร้านต้องเดือดร้อน ทางร้านต้องมารับผิดชอบค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ค่าอาหารที่นายมานพสั่งกว่า 2,000 บาท ซึ่งทางร้านเองยังไม่ได้ดำเนินคดีกับนายมานพ แต่หากว่ามีร้านอาหารหรือสถานบันเทิงหลายร้านที่นายมานพไปก่อเหตุรวมตัวกันก็อาจจะไปแจ้งความพร้อมกับร้านอาหารอื่น ๆ ที่ถูกนายมานพหลอกกินอาหารเครื่องดื่มแล้วแกล้งตายเผื่อไม่จ่ายเงิน
Advertisement