สาวเบอร์ 2 ช็อกทั้งเอ๊าะทั้งสวยรั้งผัวไม่ได้ เสี่ยตายรังคืนดีเมียหลวง ลั่นรำคาญสาวๆ ขี้วีน (คลิป)

จากกรณีนางจริยาพร (สงวนนามสกุล) ภรรยาหลวง โพสต์รูปภาพครอบครัว 4 คน เป็นภาพเธอกับสามี และลูกอีก 2 คน ถ่ายกันพร้อมหน้าพร้อมตา รูปใบทะเบียนสมรส ระบุข้อความไว้ด้วยว่า "ให้ภาพเล่าเรื่อง ถ้าไม่จบจะมีเรื่องให้เล่า" โพสต์ลงเฟซบุ๊กส่วนตัว หลังถูกนางสาวขวัญชนก (สงวนนามสกุล) ภรรยาเบอร์ 2 ตามราวีนายหล่อ (นามสมมติ) สามี และครอบครัว

นอกจากนี้ นางจริยาพร ลงภาพข้อความแชตที่ถูกนางสาวขวัญชนก กล่าวหาว่าได้ทำมนตร์ดำคุณไสยใส่สามีอีกด้วย พร้อมกับส่งสาปแช่งพ่อแม่ของเธอต่าง ๆ นานา ซึ่งต่อมา 11 ธ.ค. 65 นางสาวขวัญชนกเปิดใจกับทีมข่าวว่าไม่ใช่เป็นภรรยาน้อย แต่เป็นภรรยาคนที่ 2 และโชว์ภาพถ่ายงานแต่งงานกับนายหล่อ สามีของนางจริยาพร พร้อมทั้งให้รูปหลักฐานที่มีอาการอาเจียนเป็นสีดำ เชื่อว่าอาจจะถูกนางจริยาพร ภรรยาหลวงทำคุณไสยและทำของใส่เธอและสามี ทำให้สามีเปลี่ยนไปนั้น

ความคืบหน้าล่าสุด วันที่ 12 ธ.ค. 65 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางไปที่ จ.กาญจนบุรี บ้านของนางจริยาพร ภรรยาหลวง เมื่อไปถึง ทีมข่าวพบว่า นางจริยาพรกำลังนั่งพูดคุยเรื่องธุรกิจกับลูกค้าอยู่ภายในบ้าน มีนายหล่อ ผู้เป็นสามีนั่งอยู่ข้าง ๆ ทีมข่าวได้พูดคุยกับ นางจริยาพร ภรรยาหลวง เปิดใจว่า เหตุผลที่ตนเองได้โพสต์ภาพครอบครัวและรูปทะเบียนสมรสลงเฟซบุ๊กนั้น เนื่องจากเริ่มทนไม่ไหวแล้วที่ถูกนางสาวขวัญชนก คอยตามราวีสามี และครอบครัวตนเองไม่เลิก

และช่วง 3-4 เดือนที่ผ่านมา นางขวัญชนกเริ่มระรานหนักขึ้นเรื่อย ๆ เริ่มจาก 16 ส.ค. 65 นางสาวขวัญชนกนำรูปที่เจ้าตัวถ่ายคู่กับสามีตัวเองส่งมาให้ตนเองดู พร้อมกับส่งข้อความเยาะเย้ยว่า "ผัวป้าก็เพิ่งพาน้องไปเที่ยวทะเลมา ผัวป้าดีมากเลยคะ หล่อป่ะ" จากนั้นนางสาวขวัญชนกนำรูปตนเองและลูกสาวถ่ายกับสามี ส่งมาเปรียบเทียบกับรูปของเจ้าตัวที่ถ่ายคู่กับสามีในพิธีงานแต่ง มีการผูกข้อไม้ข้อมือกัน พร้อมส่งข้อความเยาะเย้ยต่อว่า "ผัวใครหวา"

วันที่ 14 ต.ค. 65 นางสาวขวัญชนกส่งภาพเจ้าตัวกับสามีถ่ายรูปคู่เจ้าบ่าวเจ้าสาวด้วยกัน และรูปสามีของเธอกำลังกอดคอเจ้าตัว พร้อมส่งข้อความว่า "ยินดีด้วยนะคะ รับกรรมนะ จุ๊ฟๆ" 21 ต.ค. 65 นางสาวขวัญชนกส่งภาพกระดาษ มีข้อความเขียนว่า "กูรำคาญคุณไสย ที่มึงทำมา ขอให้ทุกลมหายใจมึง อยากจะอม…ตลอดเวลา อโหสิกรรมให้คะ" โดยเจ้าตัวได้ทิ้งกระดาษดังกล่าวลงโถชักโครก และส่งข้อความมาว่า "กดลงส้วมไปแล้ว ชื่อมึงสำหรับกู ขยะ ทำอยู่ได้รำคาญ" ต่อมานางสาวขวัญชนกส่งภาพเจ้าตัวกำลังจูบปากกับสามี ส่งมาเยาะเย้ย พร้อมส่งข้อความมาว่า "ยังไงผัวก็รักกู รักกูตลอดชีวิต"

ต่อมา 30 ต.ค. 65 นางสาวขวัญชนก ส่งรูปภาพสามีนอนซึมอยู่บนเตียง มือทั้งสองข้างปิดหน้าอก อ้างว่าได้ทำคุณไสยใส่ตัวสามี ทำให้สามีเปลี่ยนไปไม่เหมือนเดิม พร้อมกับส่งรูปถ่ายงานพรีเวดดิ้งของทั้ง 2 คน มาเยาะเย้ย บอกว่า "กูมาทวงผัวกูคืนคะ อีด*กโสโครก" วันที่ 2 พ.ย. 65 ยังส่งรูปเธอกับสามี และด่าว่า "แก่จังอะป้า นั้นผัวกูเอามือไปจิ้มศพทำไม" พร้อมกับถ่ายรูปถุงพริก และถุงเกลือ พร้อมกับเอารูปหน้าบัตรประชาชนของตนเองวางคู่กระดาษเขียนคำสาปแช่ง ส่งหาตนเองอีกด้วย และอีกรูปนางสาวขวัญชนกใช้เท้าเหยียบรูปของเธอและทำพิธีอะไรบางอย่าง มีการนำรูปหน้าบัตรประชาชนของตนเอง ไปโพสต์ลงเฟซบุ๊กตัวเองอีกด้วย โดยระบุข้อความ "ทำคุณไสยใส่ ku ต้องไปแจ้งความที่ไหน" และยังเอารูปตนเองกับสามี ไปลงในแอปติ๊กต็อกใส่เพลง "ลม" พร้อมใส่ข้อความว่า "มาตามสามีกลับบ้านค่ะ ปล่อยไปนานแล้ว"

นางจริยาพร บอกต่อว่า ที่ผ่านมาพยายามอดทนอดกลั้นไม่อยากไปมีเรื่อง เพราะมองความสงบสุขในครอบครัวเป็นหลัก แต่อีกฝ่ายไม่ยอมเลิกลา ซึ่งตนเองก็ไม่รู้ทำอย่างไรแล้ว ยอมรับว่านิสัยของสามีเป็นคนเจ้าชู้ มีบ้านเล็กบ้านน้อยไปเรื่อย ตนเองก็ไม่ค่อยได้ตามสามีเท่าไรเพราะเข้าใจ โตโตกันแล้ว สู้เอาเวลาอยู่บ้านทำมาหากิน ดูแลธุรกิจ และดูแลลูก ๆ ดีกว่า ที่ผ่านมา ตนเองยืนยันว่าสามีไม่เคยทิ้งครอบครัวไปไหนไกล อาจจะมีบางครั้งที่สามีแอบแว๊บไปหาภรรยาน้อยบ้าง แต่สามีไม่เคยทิ้ง เพราะว่าธุรกิจและครอบครัวลูก ๆ ก็อยู่ที่นี่

ส่วนความสัมพันธ์ระหว่างตัวภรรยาคนใหม่กับสามี ตนเองไม่ทราบ และไม่ค่อยได้สนใจด้วย เพราะเคยบอกสามีแล้วว่าจะมีใคร ไปแอบมีใคร ตนเองจะไม่ห้าม แต่อย่าให้วุ่นวายมาถึงครอบครัวให้เดือดร้อน ซึ่งสามีก็เข้าใจเรื่องนี้ดี ส่วนกรณีที่ตนเองพึ่งมาจดทะเบียนสมรสกับสามี ทำให้อีกฝ่ายสงสัยว่าตนเองเล่นของใส่สามี ยืนยันว่าตนเองไม่ได้เล่นของหรือทำคุณไสยมนตร์ดำให้สามีหรือใคร เหตุผลที่ต้องจดทะเบียนสมรส เนื่องจากตนเองเห็นถึงปัญหาว่าสามีเป็นคนเจ้าชู้ และเพื่อสร้างความมั่นคงให้กับลูกและครอบครัว รวมถึงธุรกิจที่บ้าน ซึ่งสามีก็เต็มใจ ยินดีมาร่วมจดทะเบียนสมรสให้ เพื่อลูกและครอบครัว

ส่วนที่อีกฝ่ายบอกว่าตัวเองเคยพูดว่ามีของดี ยอมรับว่าได้พูดจริง แต่คำว่ามีของดีของตนเองนั้นไม่ได้หมายถึงจะไปทำของ หรือคุณไสยใส่ใคร ของดีคือของที่อยู่ในตัว เป็นความดีในตัว ไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะนำคำพูดของตนเองในวันนั้นที่พูดตอบโต้ไปประจานว่าตัวเองทำคุณไสยใส่ ยอมรับว่าที่ผ่านมาที่สามีนอกใจมีบ้านเล็กบ้านน้อยก็เสียใจมาก แต่ก็ต้องสู้ ต้องเข้มแข็งเพื่อลูก และหากเป็นไปได้ก็อยากจะขอให้อีกฝ่ายช่วยเลิกยุ่งกับสามีตนเองได้แล้ว

ล่าสุด หลังจากที่นางสาขวัญชนกท้าให้นางจริยาพร เมียหลวง สาบานต่อหน้าพระว่าไม่ได้ทำของใส่สามีและเจ้าตัว ล่าสุด นางจริยาพร เมียหลวงให้ข้อมูลกับทีมข่าวสั้น ๆ ว่า ตนเองคงไม่ทำตามคำท้าของเมียเบอร์ 2 เนื่องจากมองว่าวันนี้ตนเองได้ชี้แจง และให้ข้อมูลมากพอแล้ว ตนเองไม่จำเป็นต้องตามเกมของอีกฝ่าย

ตนเองวันนี้ก็ติดธุระหลายอย่าง เนื่องจากมีงานที่ต้องทำต่อ ทั้งเดินทางไปกินข้าวคุยงานเรื่องธุรกิจกับลูกค้า รวมถึงเอาเวลาไปทำมาหากินอย่างอื่น จึงไม่สะดวกที่จะสาบาน หรือทำตามคำท้าใคร และมองว่าตนเองไม่อยากจะไปตอบโต้กับอีกฝ่าย อยากอยู่นิ่ง ๆ ให้เรื่องจบไป ส่วนอีกฝ่ายจะพูดอะไรก็ช่างเขา ตนเองทำถูกต้องตามกฎหมาย ไม่จำเป็นต้องไปทะเลาะกับคนแบบนั้น

ทีมข่าวยังได้คลิปเสียง ซึ่งนางจริยาพรได้เก็บไว้เป็นหลักฐาน ถูกนางสาวขวัญชนกมักจะโทรศัพท์มาข่มขู่และด่าด้วยถ้อยคำหยาบคายอีกด้วย ในคลิปจะได้ยินว่านางสาวขวัญชนกด่านางจริยาพรว่าเป็นตัวเงินตัวทอง และพูดกล่าวหาว่านางจริยาพรแอบทำคุณไสย เอาของอะไรบางอย่างใส่ลงในอาหารให้นายหล่อกิน ทำให้นายหล่อมีพฤติกรรมที่เปลี่ยนไป ในคลิปนางสาวขวัญชนกพูดอีกว่า "สามีดีมาก ให้เงินเดือนละ 8 หมื่น"

นางสาวขวัญชนก​ สาระกุล​ ภรรยาคนที่​ 2 ของเสี่ยขายปุ๋ย​ เผยข้อสงสัย​ที่สามีโดนคุณไสย เริ่มจากไทม์ไลน์​ที่คบหากับนายวิศิษฐ์ เริ่มต้นรักกันในปี 59 คบหากับจน​ปี​ 61 แต่งงานกับสามี​ปี 64 สามีกลับไปจดทะเบียนสมรส​กับภรรยาเก่า​ และเริ่มเปลี่ยนไป คือ 1.มาหาตนน้อยลง​ มาเฉพาะวันพระ​ วันโกน, 2.กลับไปจดทะเบียนสมรสกับภรรยาเก่า, 3.มีท่าทีแปลกไม่สบตา ผิวหน้าดำคล้ำขอบตาดำ, 4.ท่าทางการนอนเอามือกำสองข้างวางบนอก

5.สามีกลับไป ตนมักจะอ้วกออกมาเป็นของสีดำ, 6.เดือน ธ.ค. 65 ตอนสามีขับรถกลับออกไปจากบ้าน​ ขวัญชนกและลูกสาวเดินออกไปส่งนอกชายคา ลูกสาวล้มกัดลิ้นตัวเอง 7.สังเกตในโพสต์ของสามีชอบถ่ายคลิปสินค้าปุ๋ยและเปิดเพลงคุณไสย 

นางสาวขวัญชนก เผยว่าที่ตนออกมาเปิดเผยเรื่องนี้ไม่ได้ต้องการจะทวงสามีคืน แต่อยากจะบอกว่า เมียหลวงทำไสยศาสตร์ใส่ตนและสามีจริง และอยากให้เขาหยุดทำได้แล้ว เพราะสงสารสามี​ และตนก็ต้องมานั่งถอนสิ่งไม่ดีที่เข้ามาในตัวอยู่ตลอดเวลาที่สามีกลับมาหา สามีมาหาในวันพระ และวันโกน พอกลับไปตนก็จะสวดบทชนะมาร หลังจากนั้นก็จะอ้วกออกมาเป็นของดำมีกลิ่นเหม็น ทำแบบนี้ได้ประมาณ 3 ปีแล้ว จนทุกวันนี้ก็ยังอ้วกอยู่ด้วยความที่ตนไปศึกษาเรื่องนี้ก็ได้สวดมนต์บ่อยครั้ง​ เข้าทางธรรม​ สวมสร้อยคอพญาครุฑติดตัวตลอด นอกจากนี้ยังมีการนำต้นไม้​มงคล มาปลูกไว้รอบบ้านด้วย

ส่วนประเด็นที่บอกว่าตนตามราวีเมียหลวง เรื่องนี้ไม่เถียงเลยยอมรับว่าราวีจริง เพราะถูกราวีด้วยการทำคุณไสยก่อน และก็ราวีให้เห็นต่อหน้ากันชัด ๆ เลย ส่วนประเด็นที่บอกว่าตนตามราวีเพราะเงิน ขอให้กลับไปถามฝ่ายชายว่าเป็นความจริงหรือไม่ เรื่องนี้ของชี้แจงว่าที่บ้านของตนครอบครัวตนมีฐานะพอประมาณอยู่แล้ว เป็นคนพื้นที่ที่บ้านทำธุรกิจ​ถมดิน​ มีรถสิบล้อรถแทรกเตอร์​ และก็เคยทำธุรกิจรถสไลด์​ บ้านที่สร้างอยู่ราคา 3 ล้านกว่าบาทก็ช่วยกันสร้างกับสามี และพร้อมสาบานว่าตนพูดความจริง

เฮียหล่อ (นามสมมติ) สามี ยืนยันว่า ตนเองไม่ได้ถูกคุณไสยหรือมนตร์ดำ ส่วนความสัมพันธ์ระหว่างตนเองกับนางสาวขวัญชนก เมียเบอร์ 2 ยอมรับแบบลูกผู้ชายว่าเคยคบหาและอยู่กันกันจริง ตนเองเป็นคนเจ้าชู้ ที่ผ่านมาพยายามจัดการปัญหา เตือนและห้ามนางสาวขวัญชนกมานานแล้วว่าอย่าเอาเรื่องของเรา 2 คน ไปยุ่งหรือระรานภรรยาหลวงของตนเอง เพราะไม่อยากให้ครอบครัวของตนเองและธุรกิจของบ้านเดือดร้อน แต่นางสาวขวัญชนกก็ไม่ยอม พูดเท่าไหร่ก็ไม่ฟัง และเริ่มมาหนักขึ้นทุกวัน ๆ นางสาวขวัญชนกคิดไปเองว่าถูกนางจริยาพรทำของคุณไสยใส่ เขาคิดไปเอง มโนไปเอง

ที่นางสาวขวัญชนกอ้วกเป็นน้ำสีดำ ไปกินอะไรผิดมาหรือเปล่า และภาพที่นางสาวขวัญชนกถ่ายตนเองนอนหลับอ่อนเพลีย และบอกว่าตนเองถูกคุณไสยก็ไม่จริง วันนั้นตนเองไปเที่ยวกินเหล้ามา ตนเองเมาก็หลับปก ยุคนี้มันยุคไหนแล้ว ถ้าทำคุณไสยใส่กันไปมา โลกคงปั่นป่วนไปแล้ว

ส่วนเหตุผลที่ตนเองไม่ได้กลับไปหา นางสาวขวัญชนกเหมือนเดิม หรือไปได้เฉพาะวันโกนก็ไม่จริง ตนเองมีหน้าที่ความรับผิดชอบ และมีครอบครัวลูกเมีย และธุรกิจที่ต้องดูแล ตนเองก็ต้องกลับมาทำงานเท่านั้น ไม่ได้ถูกคุณไสย ส่วนเรื่องการจดทะเบียนสมรสที่ต้องจดก็เพราะตนเองมีลูก มีครอบครัว ก็ไปจดทะเบียนกันภายหลัง เมื่อ 6 พ.ย. 61 ตามปกติ ไม่มีใครบังคับ และเต็มใจจดทะเบียน และจนถึงตอนนี้ ตนเองรู้สึกสงสารภรรยาหลวงมาก

"ผมห้ามให้หยุดก็ไม่หยุด วัน ๆ ผมปวดหัวมาก ต่างฝ่ายต่างฟ้องกันไปฟ้องกันมา ผมก็เป็นคนกลาง สุดท้ายก็มาลงที่ผม ผมเหนื่อยมาก ปวดหัวมาก บางทีผมก็ไม่อยากจะอยู่แล้วด้วย ถ้าเขามีทางเลือกอื่นจะไปก็ได้ ตนเองไม่ได้อะไร แต่ถ้าเขายังเป็นแบบนี้ ก็คงอยู่กันไม่ได้แล้ว ผมอยากให้เขาหยุด และอยากเขาให้ตั้งใจทำมาหากิน เพราะถ้าทำแบบนี้ จะยิ่งทำให้เรื่องเสื่อมเสีย และไม่มีอะไรดีขึ้น มีแต่คนเขากล่าวหา มีแต่คนเขาว่า มันดูไม่ดี อยากให้หยุดอยากให้พอ"