เมื่อวันที่ 27 พ.ย. 65 เวลาประมาณ 14.00น. รับแจ้งเหตุการณ์ยิงไก่ในบริเวณสนามไก่ชนมงคลชัย ต.บ้านฉาง อ.เมือง จ.ปทุมธานี มีผู้ได้รับบาดเจ็บ และเสียชีวิตที่โรงพยาบาลปทุมธานี ทราบชื่อ นายกฤษฎา อยู่แก้ว อายุ 54 ปี ชาว ต.บางรักพัฒนา อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี
ถูกยิงด้วยอาวุธปืนลูกโม่ขนาด.357 ถูกบริเวณใต้ราวนมซ้าย จำนวน 1 นัด ส่วนผู้ก่อเหตุถูกควบคุมตัวเอาไว้ได้ ทราบชื่อนายธนวัฒน์ มัณฑนาจารุ หรือ ตี๋ อายุ 55 ปี ชาว ต.บางเดื่อ อ.เมือง จ.ปทุมธานี พร้อมของกลางอาวุธปืนลูกโม่ขนาด .357 จำนวน 1 กระบอก เครื่องกระสุนปืน
คลิปที่บันทึกเอาไว้ได้จากผู้ที่เข้าไปรับชมการแข่งขันไก่ชนเมื่อวานนี้ บันทึกเหตุการณ์ช่วงวินาทีที่เห็นผู้ชายใส่เสื้อสีแดงคือนายกฤษฎา คนตาย ลุกขึ้นยืนและชี้ไม้ชี้มือไปทางฝั่งของนายธนวัฒน์หรือตี๋คนก่อเหตุ ซึ่งจากคลิปดังกล่าวจะเห็นว่ามีผู้ชายอีกคนชื่อว่านายติ๊ก เป็นลูกน้องของนายธนวัฒน์ หรือ ตี๋ จะมีลักษณะทะเลาะกันก่อนกับคนตาย จากนั้นไม่นานตัวของนายธนวัฒน์จึงกระโดดลงมาใจกลางสนาม และใช้อาวุธปืนยิงนายกฤษฏา โดยภายในสนามมีเพียงแค่คลิปจากผู้เล่นถ่ายเอาไว้ แต่กล้องวงจรปิดที่ติดตั้งอยู่ใช้การไม่ได้เพราะเนื่องจากเป็นระบบเก่าที่ติดตั้งมาพร้อมกับสนามเมื่อ 20 ปีก่อน
จากนั้นก็จะมีคลิปมือถือที่ถ่ายโดยผู้เล่นในสนาม บันทึกเหตุการณ์ช่วงวินาทีหลังจากเกิดเหตุ โดยการ์ดสนาม ได้เข้าควบคุมเหตุการณ์โดยเข้าไปควบคุมตัวนายธนวัฒน์ มีการยึดอาวุธปืนกลัวว่าจะก่อเหตุซ้ำ ส่วนอีกฝั่งจะมีคนช่วยเข้าไปปฐมพยาบาลนายกฤษฎาก่อนที่จะนำตัวส่งโรงพยาบาล
และวินาทีที่การ์ดสนามช่วยกันควบคุมตัวนายธนวัฒน์ พร้อมกับมีการยึดอาวุธปืนของกลาง และเปลี่ยนจากใช้เชือกมัดมือเอาไว้กันหนี เปลี่ยนเป็นใส่กุญแจมือ โดยขอให้เจ้าตัวย้ายลงมานั่งบริเวณพื้น แต่เจ้าตัวมีการพูดทำนองว่า "ผมไม่หนี"
วันที่ 28 พ.ย. 65 ที่นิติเวชโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ศูนย์ รังสิต นางสาวปิยะพรรณ พานิช แฟนสาวของคนตาย ได้นิมนต์พระ 1 รูป เดินทางมารับร่างของนายกฤษฎา คนตาย เพื่อนำกลับไปตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดย่านนนทบุรี บรรยากาศการรับศพนั้นเป็นไปด้วยความโศกเศร้า ซึ่งแฟนสาวต่างอยู่ในอาการเสียใจและร้องไห้ ช่วงที่มีการจุดธูปบอกกล่าว เจ้าตัวค่อนข้างเสียใจอย่างหนัก
นางสาวปิยะพรรณ เผยว่า สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนเองยังทำใจไม่ได้ เพราะไม่คิดว่าจะมีการเอากันตายแบบนี้ ซึ่งเข้าใจว่าเป็นเพียงแค่ชนวนเหตุเรื่องของการพนันขันต่อเกี่ยวกับการเล่นชนไก่ และโดยปกติก็มีเรื่องไม่ลงรอยกันเกี่ยวกับเรื่องของการพนันขันต่อมาตลอด ระหว่างตัวของนายธนวัฒน์หรือตี๋กับแฟนของตนเอง แต่ก็ไม่ใช่ว่าวันดังกล่าว จะมีการเผชิญหน้าแล้วมีการยั่วยุกัน โดยให้นายติ๊กซึ่งเป็นลูกน้องของนายธนวัฒน์ เป็นคนยั่วยุเกี่ยวกับจำนวนเงินโดยมีการเกทับลงขันพนันประมาณ 200,000 บาท จนเป็นเหตุให้แฟนของตน ได้มีการใช้คำพูด ลักษณะเป็นคำท้าทาย ก่อนที่ตัวของนายธนวัฒน์ลูกพี่ของนายติ๊กจะกระโดดออกมาก่อเหตุยิงแทน แต่ตัวของนายติ๊กกลับเดินออกจากวงการแข่งขัน ดังนั้นตนเองจึงเชื่อว่าทำเป็นกระบวนการ และอยากให้ตำรวจมีการสืบสวนตัวของนายติ๊กด้วยว่ารู้เห็นหรือไม่
ย้อนกลับไปก่อนหน้านี้ที่สนามชนไก่ที่เกิดเหตุตนเองก็เคยไปดูการแข่งขัน โดยสนามดังกล่าวเป็นสนามใหญ่ และมีระบบการตรวจสอบโดยเฉพาะการตรวจค้นอาวุธค่อนข้างดี แต่ก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าทำไมในวันเกิดเหตุตัวของนายธนวัฒน์หรือตี๋สามารถที่จะเอาอาวุธปืนไปก่อเหตุได้ ดังนั้นก็อยากให้สะท้อนถึงเรื่องของมาตรการของสนาม และหลายครั้งที่ตัวของแฟนของตนเองเคยเผชิญหน้ากับกลุ่มของนายธนวัฒน์ ก็เคยมาเล่าให้ตัวเองฟังเสมอ แต่ตนเองก็เคยเตือนแล้วว่าอย่าไปมีเรื่อง แม้ว่าแฟนของตนเองอาจจะเป็นคนเกเรหรือนักเลง แต่ก็ไม่เคยไปหาเรื่องใครก่อน และตนเองก็เคยย้ำกับแฟนเสมอว่าอย่าไปมีเรื่องกับคนแก่และคนพิการ เนื่องจากตัวของนายธนวัฒน์มีมือข้างหนึ่งที่ไม่สมบูรณ์ ลักษณะเป็นอัมพฤกษ์ อัมพาต ตนเองก็เคยเตือนแล้วว่าอย่าไปมีเรื่องกับเจ้าตัว แต่สุดท้าย ตัวของคนที่ตนเองไม่อยากให้แฟนไปมีเรื่องกับกลายมาทำร้ายเขาจนตาย
ที่สำคัญตนเองทราบว่าตัวของนายธนวัฒน์เป็นคนที่มีชื่ออยู่ในวงการ ประกอบกับมีผู้ใหญ่หลายคนที่ให้การสนับสนุน และทราบโดยเบื้องต้นว่าอาจจะได้รับการประกันตัวที่วงเงินค่อนข้างสูงพอสมควร ดังนั้นตนเองก็อยากจะฝากให้สื่อรวมถึงกระแสสังคมกดดันอยากจะให้คนแบบนี้ติดคุกให้นาน ไม่อยากให้ได้รับการประกันตัว แต่ส่วนตัวนั้นไม่ได้กลัวเรื่องของอิทธิพลหรือการข่มขู่ เพราะเชื่อว่ายังคงเป็นไปตามกระบวนการของกฎหมายได้
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าในวันนี้ช่วงที่มีการย้ายตัวนายธนวัฒน์หรือสีจากโรงพักปทุมธานีไปยังโรงพักสามโคก ซึ่งช่วงหนึ่งได้มีการฝากขอโทษไปยังครอบครัวคนตาย ส่วนตัวยืนยันว่าไม่รับคำขอโทษ และไม่ต้องการเงินที่จะมาช่วยเหลืองาน รวมถึงไม่ต้องส่งผู้ใหญ่หรือใครเข้ามาเจรจา ขอเพียงทุกอย่าง ว่าไปตามขั้นตอนของกฎหมายและอย่าได้รับการประกันตัวก็เพียงพอแล้ว
นายพูน (นามสมมติ) คนอยู่ในเหตุการณ์ เพื่อนของคนก่อเหตุ เปิดเผยว่า ในวันเกิดเหตุตนเองก็อยู่ด้วยในเหตุการณ์ ตอนแรกการแข่งขันคู่พิเศษในการชนไก่ ระหว่างบัวทองคำ กับ ส.อุดมทรัพย์ มีการวางเงินเดิมพันสูงถึง 220,000 บาท แต่หลังจากนั้นก็มีการเล่นต่อนอกรอบ ระหว่างที่มีการแข่ง โดยตอนที่เล่นต่อที่ 1 ตัวของนายกฤษฎา คนตาย ได้มีการวางเดิมเพิ่ม 5,000 บาท ส่วนตัวของนายติ๊ก ซึ่งเป็นลูกน้องของนายธนวัฒน์ห มีการวาง 5,000 บาทเท่ากัน
เมื่อถึงต่อที่ 2 ปรากฏว่านายกฤษฏา คนตาย มีการเพิ่มอีก 3,000 บาท ทำให้ตัวของนายติ๊กไม่พอใจก็มีการเพิ่มตามไปด้วยอีก 3,000 บาท และเมื่อถึงต่อที่ 3 ปรากฏว่ายังสู้กันไม่จบ นายกฤษฎาเพิ่มไปอีก 5,000 บาท แต่ตัของนายติ๊กโชว์เหนืออัดเข้าไปจำนวน 200,000 บาท จึงทำให้ปรากฏเป็นไปตามคลิป นายกฤษฎาลุกขึ้นทำท่าทางไม่พอใจและมีการต่อว่านายติ๊ก เกี่ยวกับการที่โชว์เหนือโดยการเกทับทุ่มเงินหลักแสน จึงได้มีการโต้เถียงกัน แต่ด้วยตัวของนายติ๊กเป็นลูกน้องของนายธนวัฒน์ จึงทำให้เกิดความไม่พอใจ กระโดดลงมาก่อเหตุแทนลูกน้อง
ส่วนตัวก็เข้าใจว่าในช่วงที่มีการต่อลองกันนั้น เป็นเรื่องระหว่างของนายกฤษฎาคนตายกับนายติ๊ก ก็ไม่คิดด้วยซ้ำว่าตัวของนายธนวัฒน์หรือตี๋จะลงมาเล่นแทนและก่อเหตุยิง ซึ่งชนวนเหตุเรื่องนี้คนที่จะต้องรับผิดชอบน่าจะเป็นตัวของนายติ๊กมากกว่า แต่นายติ๊กหายตัวไปซึ่งไม่รู้ว่าตอนนี้ไปอยู่ที่ไหนเหมือนกัน
ส่วนเรื่องของปมชนวนเหตุก่อนหน้าที่จะมีการยิงกันนั้น ยอมรับว่าตัวของนายกฤษฎาคนตาย กลับนายธนวัฒน์ ในฐานะผู้เล่นในสนามชนไก่มาด้วยกัน ก็อาจจะมีไม่ลงรอยกันบ้าง แต่ส่วนใหญ่ตัวของนายธนวัฒน์หรือตี๋ ก็มักที่จะหลีกเลี่ยงเพื่อไม่อยากเผชิญหน้า แต่ด้วยวันดังกล่าวอาจเป็นเพราะคนจุดชนวนเป็นนายติ๊กจึงทำให้เรื่องเกิดขึ้น แล้วบันดาลโทสะถึงขั้นใช้อาวุธปืนยิง
ส่วนนายติ๊กนั้น เบื้องต้นยังไม่ทราบว่า ตอนนี้ไปหลบซ่อนตัวอยู่ที่ไหน เพราะเจ้าตัวเป็นต้นเหตุของเรื่องที่เกิดขึ้น จึงยังไม่กล้าสู้หน้ากับกลุ่มเพื่อนและไม่กล้าเจอใคร
เมื่อเวลา 13.00 น. ที่ สภ. เมืองปทุมธานี เจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการสอบปากคำ และควบคุมตัวนายธนวัฒน์ หรือ ตี๋ พร้อมกับมีการแจ้งข้อกล่าวหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา, พกพาอาวุธปืน, ยิงปืนในชุมชนหมู่บ้าน โดยไม่มีเหตุอันควร จากนั้นได้มีการควบคุมตัวเพื่อไปฝากขังชั่วคราวที่โรงพัก สภ.สามโคก จ.ปทุมธานี เนื่องจาก สภ.เมืองปทุมธานี อยู่ระหว่างการก่อสร้างตัวอาคาร จึงไม่มีห้องขังเพื่อที่จะควบคุมตัว
ช่วงหนึ่งที่มีการควบคุมตัวนายธนวัฒน์ขึ้นรถคุมขังเพื่อส่งตัวไปยัง สภ.สามโคก เจ้าตัวเปิดเผยว่า ขอโทษ และขอโทษกับครอบครัวของคนตายทั้งหมด แต่ส่วนตัวไม่สามารถพูดอะไรมากและไม่ขอให้ข่าวเกี่ยวกับชนวนเหตุ เมื่อผู้สื่อข่าวพยามถามเกี่ยวกับเรื่องอื่นไม่ว่าจะเป็นเรื่องของความมีอิทธิพล เรื่องของการใช้อาวุธปืน หรือแม้แต่ประเด็นเรื่องของการชนไก่ เจ้าตัวก็ก้มหน้า ไม่ตอบคำถามใด
ระหว่างนั้นทีมข่าวได้พยายามพูดคุยกับแฟนสาวของนายธนวัฒน์ซึ่งเจ้าตัวเดินเงียบ ไม่ยอมพูดคุยใด ๆ และไม่มีการขอโทษหรือแม้แต่จะพูดเกี่ยวกับชนวนเหตุ ภายหลังที่ตัวของนายธนวัฒน์หรือตี๋ถูกนำตัวส่งฝากขังชั่วคราวที่ สภ.สามโคก แฟนก็เดินทางมาเยี่ยม แต่เมื่อเจอกับทีมข่าว เจ้าของตัวก็ได้รีบขึ้นรถออกไปจากโรงพักทันที และยังคงปฏิเสธตอบและไม่ฝากขอโทษใด ๆ
เจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการคุมตัวนายธนวัฒน์ เบิกตัวมาจากโรงพักสามโคก เป็นที่คุมขังชั่วคราว เบิกตัวมาทำแผนประกอบรับคำสารภาพ มีการชี้จุด เริ่มตั้งแต่จุดจอดรถบริเวณข้างสนามชนไก่ และเดินไปชี้บริเวณทางเข้า อ้างว่ามีการตรวจค้นอาวุธปืนตามมาตรการแล้ว แต่หาปืนไม่เจอ เนื่องจากมีการซุกซ่อนเอาไว้บริเวณขาด้านล่าง เมื่อผ่านจุดตรวจเข้าไปแล้วก็เข้าไปลงขันสำหรับการชนไก่คู่บัวทองคำ กับ ส.อุดมทรัพย์
หลังจากนั้นเจ้าตัวได้พาเจ้าหน้าที่ตำรวจไปชี้จุดบริเวณตำแหน่งการนั่งข้างขอบสนามชนไก่ เป็นจุดที่นั่งเชียร์และดูความเคลื่อนไหวของไก่คู่ที่ชน แต่ช่วงเวลาดังกล่าวสั่งของนายกฤษดา คนตาย เริ่มมีการตะโกนท้าทาย เจ้าตัวอ้างว่าเกิดบันดาลโทสะ ประกอบกับมีความแค้นเก่าสะสมที่ตัวของคนตายเคยเหยียดหยามดูถูก รวมทั้งเคยใช้เท้าเหยียบมือข้างที่พิการฝั่งซ้าย จึงทำให้ตนเองตัดสินใจที่จะก่อเหตุ กระโดดลงไปในสนามเพื่อชักอาวุธปืนยิง หลังจากที่เห็นว่านายกฤษฎา คนตาย ล้มลงแล้ว ตนเองกว่าจะกระโดดขึ้นไปยิงซ้ำ แต่ถูกการ์ดสนามล็อกตัวได้ก่อน
ภายหลังการทำแผนประกอบรับคำสารภาพ นายธนวัฒน์ ผู้ต้องหา ปิดใจว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นยอมรับว่าเกิดจากความแค้นที่มีสะสมมานานกว่า 3 ปี ส่วนใหญ่ก็เป็นเรื่องของการทะเลาะกันเรื่องของการลงขันพนันชนไก่ แต่หนักสุดคือความแค้นที่ตนเองเก็บมานาน เป็นเรื่องที่คนตายใช้เท้าเหยียบมือซ้ายข้างที่พิการ เป็นการเหยียดหยามตนเอง เหตุการณ์ครั้งที่มีการเหยียบมือข้างพี่กาญก็ไม่ได้มีเรื่องทำร้ายอะไรกัน แต่เมื่อเจอกับเหตุการณ์วันเกิดเหตุมีการเหยียดหยามเรื่องเงิน 200,000 บาท จึงทำให้ตนเองโกรธแค้นและก่อเหตุขึ้น ส่วนที่การ์ดของสนามชนไก่ ไม่สามารถที่จะตรวจสอบอาวุธปืนได้ เพราะเนื่องจากตนเองซุกซ่อนเอาไว้บริเวณขา คาดว่าตรวจไม่เจอ
ในวันนี้แม้ว่าครอบครัวของคนตาย โดยเฉพาะแฟนสาวจะไม่รับคำขอโทษ แต่ตนเองก็อยากจะฝากขอโทษ และขอโทษกลับไปอีกครั้ง พร้อมขอโทษทุกคน แต่ถ้าหากจะให้เค้าไปขออโหสิกรรม ตนเองก็คงไม่กล้าเข้าไป เพราะรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น แต่ก็อยากฝากขอโทษผ่านสื่อ
เมื่อเวลา 17.10 น. กองพิสูจน์หลักฐานได้มีการลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุอีกครั้ง ภายหลังที่มีการทำแผนประกอบรับคำสารภาพ เพื่อยืนยันเป็นไปตามการทำแผน โดยเฉพาะวิถีกระสุนปืน ตำแหน่งการนั่ง และการก่อเหตุของนายธนวัฒน์หรือตี๋ ส่วนประเด็นเรื่องกล้องวงจรปิดที่มีไม่ต่ำกว่า 7-8 ตัว ภายในสนามชนไก่ นายภกร คนเช่าสนาม ในฐานะโปรโมเตอร์ พาทีมข่าวไปดูภายในห้องที่เก็บเชฟเวอร์ เจ้าตัวบอกว่าห้องดังกล่าวนั้นไม่ได้มีการใช้งานมานาน เพราะเนื่องจากเป็นระบบกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งตั้งแต่สมัยเปิดสนามเกือบ 10 ปีก่อน
แต่หลังจากที่ตนเองมาเช่าและเข้ามาดูแล ไม่ได้มีการปรับปรุงหรือเปิดใช้บริการระบบ และส่วนใหญ่สายก็ถูกถอดประกอบกับหนูกัดแทะจึงใช้งานไม่ได้ ทีมข่าวตรวจสอบพบว่ากล้องส่วนใหญ่ใช้งานไม่ได้ บางตัวไม่ได้เสียบปลั๊ก บางตัวมีลักษณะสายไฟขาด และจากข้อมูลทราบว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการเข้าตรวจสอบแล้ว พบว่ากล้องวงจรปิดใช้การไม่ได้จริง ส่วนใหญ่จะมีเพียงคลิปจากคนในเหตุการณ์ ที่ใช้ในการประกอบในสำนวนเกี่ยวกับการก่อเหตุ
สำหรับสนามไก่ชนมงคลชัย ต.บ้านฉาง อ.เมือง จ.ปทุมธานี ปิดให้บริการหลังเกิดเหตุ ติดตั้งป้ายชัดเจนเกี่ยวกับข้อห้ามและกฎระเบียบ การแข่งขันและรวมถึงมาตรการเข้มงวดเรื่องความปลอดภัย ภายในพื้นที่สนามชนไก่กล้องวงจรปิดเสียทั้งหมด โดยมีสังเวียนย่อยกว่า 11 สนาม และสังเวียนใหญ่ 1 สนาม
ที่วัดนครอินทร์ ต.สวนใหญ่ อ.เมือง จ.นนทบุรี จัดพิธีทางศาสนาของนายกฤษฎา อยู่แก้ว อายุ 54 ปี บรรยากาศงานมีบรรดาครอบครัวผู้เสียชีวิต และเพื่อนผู้เสียชีวิต เดินทางเข้ามาร่วมในงานเต็มไปด้วยความโศรกเศร้า
นางสาวพัฒน์ (นามสมมติ) อายุ 32 ปี ลูกสาวผู้เสียชีวิต ระบุว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น นายกฤษฏา คุณพ่อ เดินทางไปดูไก่ชนที่บ่อนชนไก่มงคลชัย ซึ่งคุณพ่อเองนั้นก็เล่นเดิมพันไก่ชนตามปกติ และคุยโต้เถียงกับนายติ๊ก (นามสมมติ) ต่างคงต่างเงียบไป เพียงไม่นานผู้ก่อเหตุก็คว้าอาวุธปืนเดินเข้ามาในสนามไก่ชน และยิงเข้าที่พ่อตนเอง ทั้งที่นั้นไม่ใช่คนที่ทะเลาะโต้เถียงกับพ่อ แต่คนก่อเหตุ นั้นนั่งอยู่ข้างกัน ทั้ง 2 คนนี้เขารู้จักกัน แล้วก็มาก่อเหตุเลย
ซึ่งตนเองมองว่า ปัญหาหลักนั้นปกติพ่อของตนเองไม่เคยมีปัญหากับใครเป็นคนนิสัยดีใจดีเพื่อนเพื่อนรักใคร่ แต่คุณพ่อจะมีปัญหากับ นายตี๋มานานแล้วหลายปี แต่ก็ไม่ทราบว่าบาดหมางกันเรื่องอะไร เวลาเจอหน้ากันก็จะมองหน้าตาเขม่นใส่กัน แต่ไม่เคยมีเรื่องทะเลาะกัน ครั้งนี้เหมือนเขาอาจจะจงใจ เอาอาวุธเข้ามาแล้วรู้ว่าพ่อยังไงก็ต้องมาที่บ่อน แล้วมาก่อเหตุ
ส่วนตัวพ่อกับนายตี๋เคยมีปัญหากันเรื่องไก่ชนกันมาก่อน เหมือนเคยเดิมพันด้วยกัน เคยเป็นคู่ชนไก่ด้วยกัน ซึ่งก็จะแพ้ชนะสลับกันไป แต่ปัญหาอื่นๆตนเองก็ไม่เคยทราบ พ่อไม่เคยเล่าให้ฟัง ตนเองมองว่าถ้าไม่ตั้งใจจะฝ่าสังเวียน ไก่ชนเข้ามายิงพ่อ และคนที่ทะเลาะด้วยก็ไม่ใช่คนนี้ ซึ่งที่บ้อนปกติจะมีการตรวจอาวุธเป็นประจำอยู่แล้ว ในสนามใหญ่ ๆ แต่ตนเองไม่เคยไปก็ไม่แน่ใจว่า สนามไก่ชนนี้เขาจะตรวจหรือไม่ แต่อย่างไรก็ตามไม่ว่าตรวจหรือไม่ก็ไม่ควรนำอาวุธเข้าไปภายในนั้น ตนเองอยากฝากถึงผู้เกี่ยวข้องคนอื่น อยากให้มามอบตัวมารับผลกรรมที่ทำกับพ่อตนเองเอาไว้
Advertisement