จากกรณีหญิงสาวคนหนึ่ง ได้โพสต์เรื่องราวการโอนเงินไปผิดบัญชีผ่านในทวิตเตอร์ โดยเนื้อหาประมาณว่า ได้ว่าโอนเงินผิดไปตั้งแต่ช่วงปลายเดือน ก.ย. 65
โดยได้ไปแจ้งเจ้าหน้าที่ธนาคาร และแจ้งตำรวจผ่านไปเกือบเดือนไม่สามารถขอเงินคืนได้ จนสุดท้ายต้องพึ่งตัวเองด้วยติดต่อเจ้าของบัญชีที่โอนเงินผิดไปสามารถได้รับเงินคืนใน 7 วัน
ล่าสุดวันที่ 5 พ.ย. 65 ทีมข่าวอมรินทร์ทีวี ได้พูดคุยกับเจ้าของเรื่องราวนี้ ชื่อว่า น.ส.อภิสรา (สงวนนามสกุล) เล่าให้ทีมเขาฟังว่าหลังจากที่เงินเดือนออกมาเมื่อวันที่ 29 ก.ย. ที่ผ่านมา ตนจะโอนเงินจากบัญชีของตนเองไปเก็บไว้ในบัญชีส่วนตัวอีกบัญชีหนึ่ง เป็นจำนวนเงินหลักหมื่น แต่ปรากฏว่าโอนไปผิดบัญชีเมื่อไปดูในสลิปที่โอนเงินขึ้นชื่อบุคคลอื่น จึงได้ไปลงบันทึกประจำวัน
จากนั้นนำใบบันทึกประจำวันเข้าไปยื่นที่สาขาธนาคาร เพื่อทำการอายัติเงินที่โอนผิดบัญชี ซึ่งเมื่อติดต่อธนาคารต้นทาง ทางธนาคารแจ้งว่าใบบันทึกประจำวันใช้ไม่ได้ ต้องให้ตำรวจออกเป็นใบตช. ใบที่เป็นตราครุฑ ไม่งั้นจะไม่สามารถดำเนินการได้ ธนาคารไม่รับเรื่องให้ไปแจ้งความเอาใบตช.มายื่นเท่านั้น ตนจึงกลับไปที่สถานีตำรวจอีกครั้งคือ สน.ห้วยขวาง เพื่อไปเอาใบตช. ตามที่ธนาคารแจ้งแต่ปรากฏว่าตำรวจก็แจ้งอีกว่าไม่สามารถออกใบตชให้ได้ เพราะบัญชีธนาคารที่โอนผิดไปเขาไม่ได้ขโมยเงิน
จึงกลับไปธนาคารอีกครั้ง ธนาคารก็ยอมรับเรื่องให้เพื่อดำเนินการประสานไปยังธนาคารปลายทาง ปรากฏว่าผ่านไป 28 วัน ทางธนาคารก็ส่งข้อความมาว่า “ธนาคารขอแจ้งยุติการติดต่อบัญชีปลายทางจากที่ท่านแจ้งเรื่องโอนเงินผิดบัญชีไว้ เนื่องจากไม่สามารถติดต่อบัญชีปลายทางได้“ ตนถึงกับงงว่าทำไมเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่ธนาคารถึงดำเนินการโอนเงินคืนให้ไม่ได้ ทั้งที่มีข้อมูลของลูกค้าอยู่แล้ว ตอนแรกตนถอดใจแต่คิดไปคิดมาลองนำชื่อนามสกุลปลายทางไปค้นหาในเฟซบุ๊ก ปรากฏว่าก็มีคนที่นามสกุลเดียวกันหลายคนก็เข้าไปค้นหาดูเรื่อย ๆ จนคาดว่าน่าจะเป็นคนรู้จักของคนที่โอนเงินผิดไปให้จึงโทรไปสอบถามปรากฏว่าเป็นลูกสาวของเจ้าของบัญชี ซึ่งก็บอกกับตนว่าเดี๋ยวจะไปสอบถามคุณพ่อให้ หลังจากนั้นในวันเดียวกันก็มีธนาคารปลายทางติดต่อกลับมาบอกว่าเจ้าของบัญชีติดต่อให้โอนเงินคืนท่านแล้ว
กลายเป็นว่ากรณีที่เกิดขึ้น ลูกค้าของบัญชีธนาคารเป็นคนแก้ปัญหาเองทั้งหมด แทบไม่ได้รับความช่วยเหลือจากทางธนาคารและเจ้าหน้าที่ตำรวจเลย ที่ออกมาโพสต์เรื่องนี้เพราะอยากให้เป็นอุทาหรณ์ ยอมรับว่าตนเองสะเพร่ากดเลขบัญชีธนาคารผิด หากตนไม่เจอเฟซบุ๊กของลูกสาวเจ้าของบัญชีปลายทางก็หมายความว่าตนจะไม่ได้เงินคืนเลย ซึ่งก็ถือว่าเป็นเงินจำนวนมากสำหรับวัยรุ่น เป็นเงินที่ต้องใช้กินใช้จ่ายทั้งเดือนเลยหากไม่ได้คืนก็จะเดือดร้อนมาก และมองในอีกมุมหนึ่งหากกรณีนี้เกิดขึ้นกับคนอื่น ที่ไม่ได้ใช้โซเชียลฯ หรือ ปู่ ย่า ตา ยาย คนยากคนจน เขาจะไม่สามารถขอเงินคืนได้เลยหรอจึงอยากฝากไว้ให้คิด
ด้าน “อั๋น ภูวนาท” ที่ได้แสดงความเห็นและนำเรื่องราวของ “คุณอภิสรา” ไปพูดถึงจนกลายเป็นประเด็นทางสังคม เผยว่า กรณีของ “คุณอภิสรา” ซึ่งจากที่ได้อ่านตนรู้สึกว่าดูแปลกและเพี้ยน ซึ่งอาจจะแปลว่าระบบไม่รู้เรื่องแต่ตนไม่รู้ว่าระบบอะไรไม่รู้เรื่อง ผู้เสียหายร้อนรนที่สุดถ้าระบบดีควรอำนวยความสะดวกผู้เสียหาย ในฐานะประชาชนและลูกค้าของธนาคารต้องดูแลลูกค้า และจะต้องได้ความสะดวกสบายทั้งสองฝั่ง แต่พอได้อ่านตนรู้สึกถึงความยุ่งยาก ต้องบอกว่าตนก็ยังไม่เคยมีประสบการณ์ตรงแต่ได้คุยกับหลาย ๆ คน มันจะมีความที่บางคนง่าย บางคนยาก ซึ่งมันไม่มีมาตรฐาน มันควรต้องได้ความสะดวกและชัดเจนทุกเคสที่มีการทำธุรกรรมการโอนเงินผิดพลาด
ตนอยากให้มีวิธีการรองรับความผิดพลาดตรงนี้ เช่น มีวิธีการแจ้งความออนไลน์ที่ธนาคารสามารถทำได้ สามารถยืนยันตัวตนได้ ธนาคารจะทำให้สะดวกได้ไหม ในฐานะที่เป็นลูกค้ามีการประสานงานกับสำนักงานตำรวจให้มันเป็นระบบ มีมาตรฐานในการแก้ปัญหาตรงนี้อย่างยั่งยืนไม่ต้องถามว่าโอนเงินผิดเท่าไหร่ เพราะการโอนเงินผิดมันอาจจะเกิดแค่จากการสลับเลข หรือใส่เลขผิดแค่นั้นก็โอนเงินผิดแล้ว ทุกวันนี้ก็พิมพ์ผิดกันอยู่ทุกวัน แต่ถ้ามันเป็นเรื่องขนาดนี้ก็ต้องอำนวยความสะดวกกัน
ในส่วนของการที่ธนาคารและตำรวจผลักความรับผิดชอบกันไปมานั้น “อั๋น ภูวนาท” มองถึงตรงนี้ว่า ก็ยังไม่ได้สามารถฟันธงด้วยไม่ได้รู้กระบวนการของเขา แต่แค่อยากให้ธนาคารควรมีขั้นตอนในการทำงานว่าเป็นยังไง ต้องมีเอกสารอะไรบ้าง ไม่อยากได้ยินคำว่าไม่ใช่หน้าที่ ถ้ามันต้องประสานงานให้ก็ต้องทำ หรือเป็นธนาคารต้นทางประสานกับปลายทางได้เลยก็ดี มันอาจจะง่ายกว่า ไม่อย่างนั้นผู้เสียหายก็ต้องไปยืนยันกับธนาคารปลายทางอีกว่าคือตัวจริง ตนแอบคิดว่ามันน่าจะมีการแก้ไขเรื่องนี้อย่างเป็นระบบ ตนอยากจะส่งเสริมตรงจุดนี้
โดยปัญหาทั้งหมดที่เกิดขึ้น ตนมองว่าควรแก้ปัญหาที่ระบบ แต่ยังคิดไม่ออกว่ามีวิธีไหนที่จะปรับปรุงเรื่องการโอนเงินผิด ทำให้มันสะดวกและมีความรัดกุมแต่ไม่ยุ่งยาก เพื่อจะทำให้ธุรกรรมออนไลน์มีความสะดวก สุดท้ายพร้อมฝากถึงประชาชนว่า ถ้าเลือกได้อย่าโอนผิดคือดีที่สุด แต่ถ้ามันเกิดขึ้นก็อยากให้ช่วยกันแก้ไขไม่จำเป็นต้องใส่อารมณ์ ซึ่งสำหรับคนที่โอนผิดจะมีอารมณ์ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอันนี้ตนเข้าใจ รวมถึงตำรวจเองตนเข้าใจเลยว่าตำรวจทำดีเสมอตัวทำชั่วนิดเดียวโดนด่าแน่นอน เพราะช่วงที่ผ่านมาก็โดนอ่วมอยู่ แต่ก็ตัองเข้าใจว่าคุณสมควรโดนจริง ๆ เรื่องนี้อาจจะไม่ได้เต็ม ๆ แต่อย่างน้อยก็ช่วยพัฒนาให้มันดีขึ้นพร้อม ๆ กับทางฝั่งธนาคารพาณิชย์
Advertisement