กรณีผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากจ่าต้นทหารสังกัดใน จ.สกลนคร ว่าพ่อของตนเอง นายผิน (สงวนนามสกุล) อายุ 65 ปีชาว จ.สกลนคร ถูกทำร้ายได้รับบาดเจ็บ โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นช่วงเวลาประมาณ 18.20 น. ของวันที่ 4 พ.ย. 65 บริเวณหน้าร้านขายสินค้าตลาดบายพาสสกล-กาฬสินธุ์ อ.เมือง จ.สกลนคร ซึ่งผู้บาดเจ็บถูกชายในภาพเป็นอดีตทหารเกณฑ์ อายุประมาณ 27 ปี ทำร้ายร่างกาย จนต้องเย็บที่ปาก 5 เข็ม ล่าสุดวันที่ 5 พ.ย.65 บุตรชายได้พาพ่อเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองสกลนคร ให้ดำเนินคดีกับชายในภาพ
โดยวงจรปิดที่ที่ทางผู้เสียหายได้ส่งให้ทีมข่าว จับภาพเหตุการณ์ดังกล่าวเอาไว้ได้ จะเป็นเหตุการณ์ที่นายผิน ผู้บาดเจ็บ เดินตีคู่มากับอดีตพลทหารจารุวิทย์ เพื่อจะไปหาเจ้าของร้านชำที่อยู่ติดกัน หลังจากพูดคุยกันไม่รู้เรื่อง ซึ่งเจ้าของร้านชำดังกล่าวเป็นตำรวจ โดยเมื่อทั้งสองคนเดินไปถึงหน้าร้าน นายผิน ก็พูดขึ้นมาว่า ไหนเจ้าหน้าที่ผู้กองมาหรือยังครับ จู่ ๆ อดีตพลทหารจารุวิทย์ ก็หันไปมองหน้านายผิน และสาวหมัดเข้าไปที่หน้าของนายผินอย่างแรง จนนายผินล้มลงไปนอนกับพื้น กระทั่งเจ้าของร้านที่เป็นตำรวจต้องออกมาคุมตัวอดีตพลทหารเอาไว้
จากนั้นจะเห็นว่าเจ้าของร้านคือตำรวจได้คุมตัวนายจารุวิทย์เอาไว้ที่หน้าร้าน เพื่อรอสายตรวจมารับตัว แต่ปรากฎว่ามีทางญาตินายผิน และจ่าต้นลูกชายของนายผินพยายามที่จะมาถามว่าทำไมต้องทำร้ายพ่อของเขา กระทั่งทั้งสองฝ่ายมีปากเสียงกัน ไม่มีใครยอมรับว่าผิดและเถียงกันบานปลายไปถึงเรื่องยศตำแหน่ง ทำให้อดีตพลทหารจารุวิทย์ตีเนียนและหนีไปได้ก่อนที่สายตรวจจะมาคุมตัว
ทีมข่าวเดินทางไปพูดคุยกับ นายผิน ผู้บาดเจ็บ วันนี้ทางลูกชายได้ไปรับออกมาจากโรงพยาบาลแล้ว แต่ยังต้องรักษาตัวอย่างที่บ้าน เนื่องจากบาดแผลที่ถูกทำร้ายมีเลือดออกมาอยู่ตลอดเวลา และไม่สามารถทานยาเม็ดหรืออาหารตามปกติได้
นายผิด เล่าให้ทีมข่าวฟังว่า ก่อนเกิดเหตุที่ตนเองถูกต่อยตามภาพในวงจรปิด ตนเองได้มีปากเสียงกับนายจารุวิทย์ 3 ครั้ง ก็คือเรื่องของการตักเตือนให้นายจารุวิทย์ใส่เสื้อเวลามานั่งดื่มเหล้าที่ร้าน แต่ทั้ง 3 ครั้ง นายจารุวิทย์ไม่เคยฟัง ทั้งยังต่อว่าตนเองกลับว่าไม่ต้องมายุ่งกับกู ประเทศไทยกูจะถอดเสื้อไปนั่งกินเหล้าที่ไหนก็ได้
โดยเมื่อวานนี้ ก่อนที่ตนเองจะเดินตีคู่กันไปที่ร้านค้าของตำรวจ นายจารุวิทย์มายืนพูดใส่หน้าว่า ไอ้แก่ มึงหายซ่าหรือยัง ทำให้ตนเองต้องเดินไปหาตำรวจเพื่อให้เป็นพยานว่า ตัวเองถูกหาเรื่อง แต่ยังไม่ทันได้อธิบายอะไรจู่ ๆ มันก็ต่อยตนเองล้มไม่นอนกับพื้น โดยไม่ได้ตั้งตัว ยอมรับว่าตอนนั้นทั้งตกใจทั้งเจ็บตัวหูอื้อไม่ได้ยินว่าใครพูดอะไรบ้าง
ยืนยันที่ผ่านมา เคยเจอหน้ากับนายจารุวิทย์แค่ 3 ครั้ง และไม่เคยรู้มาก่อนว่าเขาเป็นอดีตทหารเกณฑ์ ที่สำคัญนายจารุวิทย์ ก็ไม่รู้ว่าลูกชายตนเองเป็นข้าราชการทหาร สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นขอยืนยันว่าตนเองไม่ได้เป็นฝ่ายไปหาเรื่องก่อน ที่พูดเตือนให้นายจารุวิทย์ใส่เสื้อก็เตือนในฐานะคนเป็นผู้ใหญ่ หากเจ้าตัวฟังอยู่ก็ขอให้ไปมอบตัวกับตำรวจ ยืนยันตนเองจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด
โดยจากข้อมูลตามบัตรทหารของคนก่อเหตุ ทีมข่าวได้เช็คไปยังกรมทหารต้นสังกัด ได้ข้อมูลมาว่า ขณะนี้เป็นวันหยุดราชการ ทางต้นสังกัดจึงยังเช็คข้อมูลไม่ได้ว่าพลทหารคนดังกล่าว จะเป็นบุคคลที่หนีทหารหรือไม่ แต่ถ้าหากไม่หลบหนีบุคคลดังกล่าวจะมีกำหนดปลดประจำการในปี 62 ซึ่งตามข้อมูลเบื้องต้นพบว่าพลทหารคนดังกล่าวมีภูมิลำเนาอยู่ใน จ.มุกดาหาร และยังไม่ได้ทำเรื่องขอย้ายชื่อออกไปจากกรมทหารต้นสังกัด
Advertisement