ตำนานแห่งเขาใหญ่ สุทธิพร สินค้า หรือ พลายสุ นักจัดจราจรช้าง มือปราบช้างป่าแห่งเขาใหญ่ ไม่ให้ทำร้ายนักท่องเที่ยว
หากใครที่เคยไปเที่ยวอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ย้อนหลังสัก 2-3 ปีก่อนหน้านี้ คงคุ้นเคยภาพผู้ชายคนหนึ่งที่คอยทำหน้าที่ดูแลและจัดการช้างป่าที่เดินเล่นอยู่บนถนนที่สำหรับจราจรในอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ชายผู้นี้คือ พี่สุท-สุทธิพร สินค้า หรือ พลายสุ ที่ถูกกล่าวขานว่าเป็นผู้สื่อสารกับช้างได้ คอยดูแลตั้งแต่กู้ภัย การจราจร และอารักขาช้างป่า ไม่ให้ทำร้ายนักท่องเที่ยว
สุทธิพร สินค้า ดำรงตำแหน่งเจ้าหน้าที่ดูแลจราจรช้างในอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ โดยเจ้าตัวเล่าว่าเข้ามาทำงานที่นี่ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2542
ผมมาทำงานที่นี่ เป็นสายตรวจเป็นฝ่ายวิชาการก่อน เก็บข้อมูลสัตว์ป่าต่างๆ นานา เก็บขี้ช้าง ทำโป่ง เจ้านายเลยบอกต้องมีสักคนแล้วกันมาคอยเฝ้าดูแลอำนวยความสะดวกให้นักท่องเที่ยว ดูจราจรเป็นหลัก กันคนกันช้าง ซึ่งถ้าเราไม่มาคอยคุ้มกัน มันก็อลหม่านหมดเลย อำนวยความสะดวก ต้องคอยดู จัดทางเดินทางกิน กันคนอยู่ทั้งวันแบบไปไหนไม่ได้เลย จนกว่าช้างจะปลอดภัย หรือช้างเข้าป่าไปลึกๆ คนหายหมดแล้ว เราถึงจะหลบไปได้
ต้องดูความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวเป็นหลักเลย ช้างต้องผ่านเราก่อน ไม่ว่าจะทำอะไรนักท่องเที่ยวต้องผ่านเราก่อน ถ้าไม่มั่นใจเราจะไม่ปล่อยรถนักท่องเที่ยวผ่านเด็ดขาดเพราะอันตราย สำคัญที่สุด เราต้องจำช้างให้ได้ ไม่งั้นเราจะเอานักท่องเที่ยวผ่านช้างไม่ได้ มันจะมีตัวที่โหดๆ อยู่ 3-4 ตัว ที่รถผ่านไปได้ยาก คือช้างจะเข้าหารถเลย แล้วทีนี้รถนักท่องเที่ยวก็จะบุบ มีปัญหาแน่นอน ซึ่งเราต้องจำให้ได้ อย่างกลุ่มนี้นานๆ จะกลับมา แล้วโผล่มาทุกทิศทางด้วย มีช้างนั่งทับรถด้วยก็มี เราก็ต้องเข้าไปดูแลต้องรีบเข้าไปจัดการตรงนั้น เคลียร์ให้เรียบร้อย
แล้วช้างเขาชอบเตะกันชนกันก็มี แล้วผมเองก็โดน ไม่ใช่ว่าทำหน้าที่อยู่ตรงนี้แล้วไม่เคยโดนนะ โดนมาตลอด โดนเตะกระเด็นเลยก็มี รถแทบพลิก แต่ก็ไม่เป็นไร
100% ช้างที่อยู่ในอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่เป็นช้างป่า และบางส่วนก็ลงไปข้างล่างไปกินพืชไร่ชาวบ้านเขา พวกที่อยู่ข้างล่างเราก็ผลักดันให้ขึ้นมาอยู่ข้างบนได้อยู่ เลยคิดว่าเอาขึ้นมาดีกว่า เพราะชาวบ้านเขาเดือดร้อน แล้วช้างก็เดือดร้อน เอามาอยู่ข้างบนแล้วเราต้องดูให้ดี อย่าไปไล่เขา
ส่วนมากช้างโขลงเป็นตัวเมียเป็นหลัก กับพวกตัวเด็กๆ ตัวผู้จะไม่ค่อยอยู่ ถ้าโตระดับหนึ่งเขาก็จะไป สัก 15-16 ปีขึ้นไปเขาก็จะห่างโขลงแล้ว ไปอยู่โทนๆ ตัวเดียว จะเดินมาแค่ผสมพันธุ์แล้วก็ไป อยู่แค่ 3-4 วันแล้วก็ไปเที่ยวโขลงอื่นต่อ
ที่นี่ช้างเขาจะชอบออกมาเดินหากิน เพราะมันจะมีหญ้า มีน้ำ มีโป่งครบเลย เป็นแหล่งอาหารอย่างดี แล้วก็จะมีพวก เก้ง กวาง กระทิง ออกมาหากินด้วย มันก็จะชอบเดินวนๆ กันอยู่ในพื้นที่วนไปเวียนมา แล้วจะมีบางคนที่ไม่รู้แล้วเดินเข้าไปหาเลย แบบนี้คือไม่ได้เลย เราก็ต้องคอยดูแล
ดูแลช้างป่าแบบไม่ต้องใช้คาถา
ไม่มีๆ ไม่ใช้ เราแค่ต้องจำช้างจำให้ได้ทุกตัว ตัวไหนนิสัยเป็นยังไง แค่นั้นเอง เราต้องจำต้องดูช้างก่อนว่าตัวไหนผ่านได้ไหม จำให้ได้ว่าตัวไหนเกเร ตัวไหนไม่เกเร แค่นั้นเอง
สิ่งที่ต้องระวังตัวในการมาเที่ยวเขาใหญ่
มีเรื่องเดียวคือการขับรถ การขับรถบนอุทยานอย่าขับเร็ว เพราะบางทีทางโค้งมีสัตว์อยู่แล้วเดินข้ามถนนตลอด ทั้งสัตว์เล็กสัตว์ใหญ่ ถ้าขับเร็วเกินกว่ากำหนด ซึ่งเรากำหนดไว้ 60 กิโลเมตร ก็มีโอกาสชนสูง เพราะสัตว์มันวิ่งออกมาเลย ดังนั้นถ้าเราขับช้ามันก็จะปลอดภัยกว่า เพราะบนอุทยานนี้ สัตว์ทุกตัวออกมาได้ทุกทิศทาง ดังนั้นอย่าขับรถเร็ว จะได้ปลอดภัยทั้งคนทั้งสัตว์
อย่างเวลาเจอช้างอยู่กลางถนน แล้วตัวเราเองอยู่ในรถ เราต้องดูพฤติกรรมเขาก่อนว่าเป็นอย่างไร อย่าเพิ่งทำอะไร อย่าบีบแตร อย่าดับไฟ ไม่ต้องเปิดไฟกระพริบ ดูว่าเขาเป็นยังไง มีอาการหงุดหงิดหรือฟึดฟัดไหม ถ้าเขาฟึดฟัด เราถอยตั้งหลักได้ ถ้าไม่มีใครขวางทางเราถอยตั้งหลักก่อนดีกว่า กลับรถเลยได้ยิ่งดีเอาความปลอดภัยก่อนดีกว่า
ผมมาทำตรงนี้คือเราต้องรักช้างด้วย ไม่ใช่มาไล่ๆ ช้างแล้วก็ไป มันไม่ได้เกิดประโยชน์ ช้างเขาไปเดี๋ยวเขาก็กลับมาอีก เราก็ต้องวิ่งมาใหม่ ไปไล่อย่างเดียวไม่ได้ บางทีต้องมาอยู่ประจำเลย ห่อข้าวห่อน้ำมาให้พร้อม เอาให้ผ่านไปให้ได้หนึ่งวันหนึ่งคืน
ปัจจุบัน สุทธิพร สินค้า ได้ลาออกจากราชการตำแหน่งเจ้าหน้าที่อารักขาช้างป่า อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่แล้ว ตั้งแต่ช่วงปลายปี 2567 ท่ามกลางข่าวลือต่างๆ นานา แต่อย่างไรก็ตามชายผู้นี้ก็ยังถูกจดจำได้ในหมู่นักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบการมาเที่ยวเขาใหญ่ ในฐานะคนทำหน้าที่คอยดูแลอารักขาความปลอดภัยให้ทั้งคนทั้งช้างได้เป็นอย่างดี
Advertisement