Logo site Amarintv 34HD
Logo LiveSearch
Search
Logo Live
Logo site Amarintv 34HD
ช่องทางติดตาม AMARINTV
  • facebook AMARIN TV 34 HD
  • x AMARIN TV 34 HD
  • line AMARIN TV 34 HD
  • youtube AMARIN TV 34 HD
  • instagram AMARIN TV 34 HD
  • tiktok AMARIN TV 34 HD
  • RSS Feed AMARIN TV 34 HD
ไม่รอด! จับจ่าโหดฆ่าในผับ แฉโดนยึดปืนหนีซุกใกล้หน่วยสวาทแม่กล่อมเข้าคุก (คลิป)

ไม่รอด! จับจ่าโหดฆ่าในผับ แฉโดนยึดปืนหนีซุกใกล้หน่วยสวาทแม่กล่อมเข้าคุก (คลิป)

26 ต.ค. 65
18:39 น.
แชร์

จากกรณี เมื่อวันที่ 25 ต.ค. 65 เวลาประมาณ 01.13 น. จ.ส.ต.ชุติพนธ์ นาคแก้ว หรือ จ่าเบิร์ด ตำแหน่ง ผบ.หมู่งานป้องกันและปราบปราม สภ.บ้านหนองเอื้อง อ.ปะเหลียน จ.ตรัง ปฎิบัติหน้าที่ช่วยราชการชุดปฏิบัติการพิเศษศรีตรัง (S.W.A.T) ภ.จว.ตรัง ก่อเหตุใช้อาวุธปืนขนาด 9 มม. ยิงใส่ นายจิตรกร คงจันทร์ หรือ ขาว อายุ 32 ปี เสียชีวิตกลางผับดัง

โดยผู้ก่อเหตุใช้อาวุธปืนกราดกระสุนยิงปืนโดย นายเอกพจน์ เพ็ชรรัตน์ หรือ ต้อม อายุ 34 ปี เพื่อนผู้เสียชีวิต บาดเจ็บอีก 1 ราย และยังไปถูกนักเที่ยวถูกลูกหลงเจ็บอีก 1 ราย หลังเกิดเขม่นไม่พอใจกัน เหตุเกิดภายในสถานบันเทิงคันทรี่โฮม ต.บ้านโพธิ์ อ.เมือง จ.ตรัง

107584

ล่าสุดวันที่ 26 ต.ค.65 ช่วงเวลาประมาณ 06.00 น. ที่กองบังคับการตำรวจภูธร จ.ตรัง ต.โคกหล่อ อ.เมืองตรัง จ.ตรัง ทางด้าน จ.ส.ต.ชุติพนธ์ นาคแก้ว หรือ จ่าเบิร์ด ได้เดินทางเข้ามอบตัวกับ พล.ต.ต.เชาวลิต เลี้ยงสุพงศ์ ผบก.ภ.จว.ตรัง, พ.ต.อ.สิทธินันท์ สังฆพันธ์ รอง ผบก.ภ.จว.ตรัง (กำกับดูแลชุดหน่วยสวาทฯ), พ.ต.อ.อภิชัย กรอบเพชร รอง ผบก.ภ.จว.ตรัง, พ.ต.ต.ขวัญเจริญ ไกรทอง สว.กก.สส.ภว.ตรัง

โดยหลังจากผู้ต้องหาก่อเหตุและไปหยิบขโมยอาวุธจากที่ทำงาน ได้เดินเท้าหลบหนีเข้าไปหลบซ่อนอยู่ภายในบ้านร้างแห่งหนึ่งภายในป่าใกล้สนามบิน ห่างจากกองบังคับการตำรวจภูธร จ.ตรัง และห้องทำงานชุดปฏิบัติการพิเศษศรีตรัง (S.W.A.T) ประมาณ กว่า 1.5 กิโลเมตร ก่อนจะทนแรงกดดันไม่ไหวและเข้ามอบตัว

ซึ่งเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาล จ.ตรัง ในข้อกล่าวหา ฆ่าผู้อื่น, พยายามฆ่า และพกพาอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไปที่ทางสาธารณะ โดยได้นำอาวุธปืนยาว M4 พร้อมด้วยกระสุน และเสื้อเกราะ พร้อมกับนำเสื้อยืดสีดำ กางเกงยีนส์ขายาว มามอบให้กับผู้บังคับบัญชา เนื่องจากหลังจากก่อเหตุได้ไปหยิบขโมยมาจากที่ทำงานและได้ยึดของกลางคืนกลับมา ก่อนเจ้าหน้าที่จะใส่กุญแจมือนำตัวมาสอบปากคำอย่างละเอียดที่สถานีตำรวจภูธรเมืองตรัง ที่ กองกำกับการสืบสวน ต.ทับเที่ยง อ.เมือง จ.ตรัง

468529

ขณะที่ตำรวจชุดสืบสวนนำตัวจ่าเบิร์ดลงจากชั้น 2 จากห้องฝ่ายสืบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองตรัง โดยหลบเลี่ยงสื่อมวลชนลงอีกฝั่ง ก่อนรีบนำตัวมาที่กองบังคับการตำรวจภูธร จ.ตรัง เมื่อมาถึงกองบังคับการตำรวจภูธร จ.ตรัง ได้รีบนำตัวจ่าเบิร์ดขึ้นไปบริเวณชั้น 2 เพื่อเข้าพูดคุยกับผู้บังคับบัญชาภายในห้อง

ระหว่างนั้นทีมข่าวอมรินทร์ทีวี พบเจอจ่าเบิร์ดขณะเดินลงจากชั้น 3 เพื่อเข้าห้องชั้น 2 รอพบกับผู้บัญชาการภาค 9 จะเห็นได้ว่า มีเจ้าหน้าที่กว่าหลายนายรีบนำตัวจ่าเบิร์ดเข้าไปภายในห้องอย่างรวดเร็ว โดยทีมข่าวพยายามว่า “พี่ ๆ วันนั้นเกิดอะไรขึ้น“ แต่จ่าเบิร์ดไม่ได้ตอบคำถามแต่อย่างใด ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะรีบนำตัวเข้าไปในห้องสอบทันที

156337

จากนั้นเวลา 14:30 น. พลตำรวจโทนันทเดช ย้อยนวล ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 พร้อมกับ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 และพลตำรวจตรี เชาวลิต เลี้ยงสุพงศ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.ตรัง ร่วมกันแถลงผลการจับกุม โดยพลตำรวจโท นันทเดช เปิดเผยว่า ขอแสดงความเสียใจเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะตำรวจมีหน้าที่ดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินประชาชน ได้กำชับเจ้าหน้าที่มาตลอดเรื่องการใช้อาวุธปืนที่ออกเวร ผู้ต้องหาเมาสุราใจร้อนและใช้อาวุธปืน แม้มีการกระทบกระทั่งกันก็ไม่มีเหตุผลที่ใช้อาวุธปืน คดีนี้จะทำอย่างตรงไปตรงและจะตรวจสอบการเบิกจ่ายอาวุธปืนอย่างเคร่งครัด

868671

โดยจ่าเบิร์ดได้ติดต่อขอมอบตัวต่อ พันตำรวจตรี ขวัญเจริญ ไกรทอง สารวัตรกองกำกับการสืบสวนสอบสวน ตำรวจภูธร จ.ตรัง เมื่อช่วงเช้าตรู่ที่ผ่านมา พร้อมกับมอบอาวุธปืนM4 และเสื้อเกราะที่นำไปด้วยมาส่งมอบให้กับเจ้าหน้าที่ โดยรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหาและยอมจำนวนไม่มีต่อสู้คดี โดยสถานที่รับมอบตัวเป็นบ้านพักตำรวจภูธร จ.ตรัง ภายในตำรวจภูธร จ.ตรัง ม.12 ต.โคกหล่อ อ.เมือง จ.ตรัง

ส่วนพฤติการณ์ ตามวันเวลาเกิดเหตุ จ.ส.ต.ชุติพนธ์ หรือ เบิร์ด ได้ใช้อาวุธปืนพกสั้นขนาด 9 มม. ยี่ห้อกล็อค 19 หมายเลขทะเบียน RTP 23380 ตราโล่ อาวุธปืนของทางราชการ ยิงเข้าใส่ นายจิตรกร คงจันทร์ ผู้ตาย นายเอกพจน์ เพชรรัตน์ ผู้บาดเจ็บ นายพิสิษฐ อภิวันทร์ภักดี ผู้บาดเจ็บ เป็นเหตุให้ นายจิตรกร ถึงแก่ความตาย นายเอกพจน์และนายพิสิษฐ ได้รับบาดเจ็บ หลังเกิดเหตุ จ.ส.ต.ชุติพนธ์ ได้หลบหนีโดยใช้รถยนต์เป็นยานพาหนะ ส่วนปืนที่ใช้ก่อเหตุ ถูกการ์ดของทางร้านตรวจยึดไว้ได้ โดย จ.ส.ต.ชุติพนธ์ ได้หลบหนีกลับมาที่บ้านพักของตำรวจภูธร จ.ตรัง ซึ่งเป็นแฟลตของตำรวจและหายตัวไป

ต่อมาพนักงานสอบสวน สภ.เมืองตรัง ได้รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติศาลออกหมายจับ จ.ส.ต.ชุติพนธ์ ไว้ในความผิดฐานฆ่าผู้อื่นและพยายามฆ่าฯ หลังจากนั้นในวันที่ 25 ต.ค. 65 ช่วงดึก จ.ส.ต.ชุติพนธ์ ได้เดินทางกลับมาที่บ้านพักตำรวจภูธร จ.ตรัง เพื่อพบมารดา ต่อมามารดาได้ประสานกับญาติที่เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรภาค8 เพื่อให้ประสานไปยัง พ.ต.ต.ขวัญเจริญ ไกรทอง สว.กก.สส.ภ.จว.ตรัง ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชา เพื่อขอเข้ามอบตัวโดยนัดหมายมอบตัวกันที่บ้านพักของตำรวจภูธร จ.ตรัง ในวันที่ 26 ต.ค. 65 เวลาช่วงเช้า

จากการสอบถามรับสาภาพว่าได้ก่อเหตุจริง และนำตรวจยึดอาวุธปืนยาวพร้อมเสื้อเกราะของทางราชการที่ตนซุกซ่อนไว้บริเวณหลังบ้านพัก ก่อนที่จะหลบหนีไปที่บ้านร้าง ซึ่งห่างจากจุดหน่วยปฏิบัติการพิเศษศรีตรัง ไปประมาณ 1.5 กม. หลังจากก่อเหตุยิงจ่าเบิร์ดได้ไปหลบที่บ้านร้างนี้ ก่อนที่จะเข้าไปที่แฟลตของตัวเองเพื่อไปเจอแม่

864212

ซึ่งหลังจากที่ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค9 ได้สอบถามมูลเหตุ จ่าเบิร์ด บอกว่า นั่งกินเหล้าโต๊ะติดกันกับผู้ตาย โดยจ่าเบิร์ดได้ออกไปสูบบุหรี่ด้านนอกร้าน ขากลับเข้าไปในร้านได้เดินเตะโต๊ะของผู้ตายทำให้มีปากเสียงกันทะเลาะกันและเกิดการโต้เถียง จากนั้นเกิดบันดาลโทสะใช้ปืนยิงผู้เสียชีวิตดังกล่าว โดยปืนนั้นเป็นปืนของทางราชการ

ส่วนการแจ้งข้อหานั้นจะเป็นความผิดพรบ.ปืนทั้งหมด ส่วนการลงโทษทางวินัยสั่งให้ออกราชการอยู่แล้ว ขณะเดียวกันในส่วนของเพื่อนตำรวจที่อยู่ในร้านกับจ่าเบิร์ดทางตำรวจชุดสืบสวนก็ต้องสอบปากคำเพื่อนจ่าเบิร์ดอย่างละเอียดอีกครั้ง แต่เบื้องต้นทราบว่าไม่ได้ไปด้วยกัน ไปเจอกันในร้าน ส่วนหลังเกิดเหตุเป็นช่วงชุลมุนทำให้ต่างฝ่ายต่างออกจากร้านไป ซึ่งไม่ได้หนีออกไปพร้อมกัน

ส่วนของการเยียวยาช่วยเหลือ ไม่ว่าจะเป็นทางฝั่งญาติผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บ ทางต้นสังกัดและผู้บังคับบัญชาได้เข้าไปเยี่ยมแสดงความเสียใจกับญาติผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บ โดยได้มอบเงินช่วยเหลือเบื้องต้นแล้ว

152856

ทั้งนี้ นายวีรศักดิ์ กุลหลี น้าชายของผู้เสียชีวิต ที่เดินทางมาพร้อมกับชาวบ้านจำนวนหนึ่งมากันประมาณ 3 คันรถ เพื่อมาฟังการแถลงข่าวบอกว่า วันนี้ตนเองพร้อมญาติ ๆ ชาวบ้าน จะเข้ามารอฟังประชุม แต่ไม่แต่ใจจะได้เข้าร่วมหรือไม่ ตนเองไม่รู้จะถามอะไร แต่ก็ยังคงติดใจพฤติการณ์ของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่นำอาวุธเข้าไปในพื้นที่สถานบันเทิง อีกทั้งถ้าหากบอกว่าเข้าไปปฏิบัติหน้าที่เกี่ยวข้องกับจับกุมยาเสพติดนั้น ตนเองมองว่าไม่ควร เพราะเขาเองก็ไม่ได้อยู่หน่วยปราบปรามยาเสพติด เหมือนจงใจอยากเอาอาวุธเข้าไปข้างใน แล้วมาก่อเหตุยิงหลานชายตนเอง

หลานตนเองกับเขาก็ไม่เคยรู้จักกันเลย ทำไมมาทำเช่นนี้ ยิงแค่ 1-2 นัดก็ว่าโหดแล้ว แต่นี่ยิงเกิน 10 นัด เหมือนโกรธแค้นอะไรกันมานาน ส่วนตนตัวก็โล่งใจที่จับกุมได้ ขอขอบคุณตำรวจที่สามารถจับกุมจ่าเบิร์ดได้และหลังจากนี้ก็จะดำเนินการทำพิธีทางศาสนาศพของหลานชายต่อไป เพราะตอนแรกบอกว่าจะยังไม่เผาศพจนกว่าจะจับได้ แต่ทีนี้จับได้แล้วก็จะทำพิธีหลังสวด 3 วัน

ซึ่งเมื่อถามว่าอยากฝากบอกอะไรกับผู้ก่อเหตุ หรือไม่นั้น ตนเองไม่มีอะไรจะพูดไม่อยากเห็นหน้าเขา ซึ่งผู้กำกับการตำรวจสถานีภูธรเมืองตรัง ได้เดินทางเข้ามาพบเจอกับครอบครัวแล้วเมื่อคืนที่ผ่านมา อีกทั้งทางด้านผู้บริหารหุ้นส่วนร้านก็เดินทางมายังงานศพหลานชายแล้ว และได้มีการมอบเงินเยียวยาให้บางส่วนแล้ว แต่ตนเองก็ไม่ได้สอบถามว่าจำนวนเท่าไหร่ แต่ก็ไม่ติดใจกับทางร้านสถานบันเทิงแต่อย่างใด

774913

ด้าน นายธนกฤต จันทร์พุ่ม อายุ 47 ปี ผจก.ร้านที่เกิดเหตุ ได้ฝากคำถามไปยังตำรวจที่เกี่ยวข้องขณะแถลงข่าวว่า ในวันที่เกิดเหตุจ่าเบิร์ดได้อ้างกับการ์ดของร้านว่า จะเข้าไปปฏิบัติหน้าที่สืบเสาะหาเบาะแสเรื่องยาเสพติดโดยไม่ได้สวมชุดเครื่องแบบ ทำให้การ์ดของร้านวางใจโดยไม่ได้ตรวจอาวุธในตัวของจ่าเบิร์ดก่อนเข้าไปในร้าน อีกทั้งต้องแต่งตัวให้กลมกลืนกับประชาชนที่มาเที่ยวและมาก่อเหตุ ซึ่งตนเองได้พูดคุยกับพนักงานรวมทั้งการ์ดในร้านยืนยันกันทุกคนบอกว่า จ่าเบิร์ดเดินทางมาและบอกว่าเช่นนั้น เนื่องจากไว้เนื้อเชื่อใจคำพูดเจ้าหน้าที่ตำรวจ เนื่องจากมาปฏิบัติหน้าที่

ตนเองยอมรับว่า อยากขอความเป็นธรรมให้ร้านด้วยเพราะร้านนั้นก็พยายามตรวจสอบอย่างละเอียดมาโดยตลอด ไม่เคยบกพร่องเพียงแต่เมื่อเจ้าหน้าที่มากระทำมาอ้างเช่นนี้ ตนเองก็ต้องปิดร้านอยู่ขณะนี้ ตนเองมีลูกน้องกว่า 60 คน ทุกคนยังรอคอยความหวังว่าจะได้เปิดร้านเมื่อใด

ซึ่งจ่าเบิร์ดนั้น ตนเองยืนยันว่าเคยทำงานให้ร้าน เป็นหน่วยเสริมกรณีที่มีคอนเสิร์ต หรือทุกวันศุกร์-เสาร์-อาทิตย์ มาปฏิบัติหน้าที่นอกเวลาทำงานราชการ ยอมรับว่าจ่าเบิร์ดนั้นทำงานดีมากไม่เคยดื่มเหล้าไม่เคยมีเรื่องวิวาท ไม่เคยมีเรื่องส่อไปทางนักเลงหรืออันตพาล แต่ในวันดังกล่าวนั้นอาจจะเพราะมึนเมาบรรดาลโทสะ ณ ขณะนั้น เนื่องจากดื่มไปค่อนข้างเยอะ เพราะจากที่ทราบมาจากพนักงานร้านระบุว่า มีเหล้าวางอยู่ 2 กรม 1 กรมหมดเกลี้ยง และอีก 1 กรมนั้นเหลือเพียงนิดเดียว และเขามากับเพื่อนด้วย

และในวันดังกล่าวนั้น ที่ได้ยินเสียงปืน เจ้าหน้าที่การ์ดหุ้นส่วนได้เข้าไปสกัดจับควบคุมตัวและคว้าแย่งปืนออกมาได้ แต่เนื่องด้วยตัว จ่าเบิร์ดสบัดการ์ดของร้านและวิ่งหนีขึ้นรถหลบหนีไป ถือว่ายังโชคดีที่ยึดปืนเอาไว้และนำเป็นหลักฐานให้เจ้าหน้าที่ ยอมรับว่าโล่งใจขึ้นที่จับกุมตัวได้ ที่ผู้ก่อเหตุเดินทางมามอบตัว แต่ใจตนเองนั้นอยากฝากถึงจ่าเบิร์ดอยากให้ความเป็นธรรมกับทางร้านด้วย ควรพูดเรื่องจริงว่าไปบอกกับทางร้าน ทางการ์ดว่ามาหาเบาะแสเรื่องยาเสพติด และหวังเอาอาวุธเข้าไปในร้าน

ขณะเดียวกันเมื่อวานนี้ทางผู้บริหารของร้านที่เกิดเหตุ และหุ้นส่วนพร้อมพนักงาน ได้เข้าไปมอบเงินช่วยเหลือเยียวยาเบื้องต้นบางส่วนให้กับญาติผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บพร้อมแสดงความเสียใจเมื่อช่วงคืนวันที่ 25 ต.ค. 65 ที่ผ่านมาแล้ว

 

Advertisement

แชร์
ไม่รอด! จับจ่าโหดฆ่าในผับ แฉโดนยึดปืนหนีซุกใกล้หน่วยสวาทแม่กล่อมเข้าคุก (คลิป)