
วันที่ 19 ต.ค. 65 "โตโน่" นายภาคิน คำวิลัยศักดิ์ เตรียมว่ายน้ำข้ามแม่น้ำโขง ตามโครงการ "One Man And TheRiver" หนึ่งคนว่าย หลายคนให้ โดยโตโน่ได้เดินทางมาถึง จ.นครพนม ในช่วงเช้า และได้เข้าเยี่ยมผู้ป่วยที่โรงพยาบาลนครพนม

หลังจากนั้นก็เดินทางเข้าหารือเป็นการภายในกับหัวหน้าส่วนราชการ ที่ศาลากลางจังหวัดนครพนม ในการเตรียมความพร้อม ก่อนจะถึงวันว่ายน้ำ หลังจากนั้น ก็ได้ลงเรือหางยาว เพื่อสำรวจเส้นทางการว่ายน้ำคร่าว ๆ อีกครั้ง โดยมีกลุ่มชมรมนกเป็ดน้ำนครพนมคอยให้ความสะดวก

นายภาคิน คำวิลัยศักดิ์ หรือ โตโน่ กล่าวก่อนที่จะลงเรือว่า จากการที่มาในวันนี้ดูการว่ายน้ำว่าจะขึ้นไปทำกิจกรรมได้ตรงไหน อย่างไรบ้าง กับทางทีมงาน ว่าจะดูแลให้เป็นระเบียบอย่างไร จุดมุ่งหมายคือต้องการช่วยโรงพยาบาลทั้ง 2 ฝั่งให้ได้มากที่สุด เท่าที่จะทำได้ เรารักที่นี่ เป็นความตั้งใจที่จะทำให้ดีที่สุด และรบกวนชาวบ้านให้น้อยที่สุด

ขอบคุณสื่อมวลชน ขอบคุณ จ.นครพนม ที่มาช่วยกันให้งานครั้งดำเนินไปได้ หวังว่าวันที่ 22 ต.ค. 65 จะเป็นวันที่ทุกคนมีรอยยิ้มทุกคนมีความสุข หมอและพยาบาลจะได้ทำงานได้เต็มที่มากขึ้น แต่จะช่วยได้มากน้อยอย่างไร ไม่มั่นใจ แต่จะพยายาม ตั้งแต่ซ้อมมาสื่อสารกับทุกคน พยายามทำเต็มที่ ร่างกายเต็ม 100 ไม่มีความกังวลในเรื่องใด ๆ บางทีเราไม่รู้ว่ากระแสน้ำจะนิ่งกว่านี้ หรือแรงกว่านี้ ความสำคัญคือมาที่นี่ทำไม คือเป้าหมายหลักที่อยากจะทำ ยิ่งช่วยเสริมกำลังให้หมอพยาบาลได้มากเท่าไร อยากจะทำให้ได้มากที่สุด

ฝากบอกถึงคนไทยหลายคนที่เป็นห่วง พยายามทำให้เต็มที่เท่าที่จะทำได้ ส่วนใครจะดราม่าก็ไม่เป็นไร มีความรักความสามัคคีกันช่วยกันคนละไม้คนละมือ ทางกรุงเทพฯ มีอุโมงค์น้ำช่วย ตรงที่ไม่มีค่าใช้จ่ายในการใช้อุโมงค์

ถ้าจะดราม่ากันแล้วจะต้องให้คนที่เขาอยากมาช่วย คนที่รักมีน้ำใจ พ่อแม่พี่น้องชาวนครพนมที่มาวันนี้ทุกคนอยากมาช่วย ใครจะการเมืองหรือคิดแค่ว่าจะช่วยหาอุปกรณ์การแพทย์ได้อย่างไร หมอพยาบาลรักษาหมดทุกคนจะได้กี่บาท กี่แสน นั่นคือความต้องการของตน

ด้านเฟซบุ๊ก "เก็บรักษ์" ลงข้อความและภาพของโตโน่ ระบุว่า "หลายครั้งแล้ว ที่ได้รับกำลังใจดีดีแบบนี้ แต่กัปตันของเราก็กลั้นมาตลอด จนมาวันนี้ ที่นครพนม ตั้งแต่เดินเข้าร้านอาหารมา ทุกโต๊ะให้การต้อนรับอย่างดีมากๆ เดินเข้ามาทักทาย ขอถ่ายรูป และพูดกับกัปตันของเราว่า สู้ๆเป็นกำลังใจให้นะ สู้ๆนะลูก ป้าเป็นกำลังใจให้ ทุกคำพูด ทุกการกระทำที่ทุกๆคนเข้ามาทักทาย เข้ามาให้กำลังใจ มันมีความหมายและมีพลังกับพี่โน่มากๆๆ ขอบคุณกำลังใจ พลังใจดีๆ ที่มีให้พี่โน่ และทีมงานทุกคนจริงๆ มันมีความหมายกับพวกเรามากๆ มันเป็นพลังที่เราสัมผัสได้ ทำให้มีแรงใจมากๆเลย ? ขอบคุณนะครับ แล้วเจอกันนะ ?"

ล่าสุด เพจ CU Sports Science Alumni ซึ่งเป็นเพจของนิสิตเก่าวิทยาศาสตร์การกีฬา จุฬาฯ ได้โพสต์แนบรูปภาพค่าบริการการใช้โปรแกรมใช้งานอุโมงค์น้ำ ระบุว่า "เรื่องราวเกี่ยวกับอุโมงค์น้ำ คณะวิทยาศาสตร์การกีฬา จุฬาฯ มีออกรายการมาตั้งแต่ปี 2560 แล้วค่ะ อุโมงค์น้ำ “Swimming Flume” นวัตกรรมกีฬาที่ช่วยเสริมสร้างความฟิตให้กับร่างกาย

ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา มีนิสิตเข้าใจงานเพื่อการศึกษา วิจัย ทดสอบ ทดลองมาโดยตลอด และยังเปิดโอกาสให้บุคคลภายนอก ทัพนักกีฬาไทย เข้าใช้งานได้ โดยมีค่าใช้จ่ายด้วยค่ะ"
โดยในภาพพบราคาบุคลากร อยู่ที่ 1,900 บาท/ชั่วโมงแรก, 1.บุคคลภายนอก 1.จุฬาฯ 2,000 บาท/ชั่วโมงแรก 2.ภาครัฐ 2,100 บาท/ชั่วโมงแรก 3.ภาครัฐวิสาหกิจ 2,200 บาท/ชั่วโมงแรก และ 4. ภาคเอกชน 2,300 บาท/ชั่วโมงแรก

ต่อมาเริ่มมีทัวร์ไปลงเพจ พร้อมซัดว่า โตโน่ เป็นคนโพสต์เองว่าการทดสอบในครั้งนั้นไม่มีค่าใช้จ่าย จนเพจได้ลบโพสต์ดังกล่าวทิ้งไป พร้อมชี้แจงเพิ่ม “ขอแจ้งให้ทราบว่า เพจนี้ คือเพจของสมาคมนิสิตเก่าวิทยาศาสตร์การกีฬา จุฬาฯ หน้าที่หลักคือ ประชาสัมพันธ์กิจกรรมต่างๆ ให้แก่นิสิตเก่า ในส่วนของเรื่องราวของคณะวิทยาศาสตร์การกีฬา จุฬาฯ สามารถติดตามได้จากเพจของคณะเลยค่ะ
โพสต์เกี่ยวกับอุโมงค์น้ำ คือ โพสต์เกี่ยวกับว่าที่คณะมีอุโมงค์น้ำ ประโยชน์มีอย่างไร และการเข้าใช้ ต้องทำเรื่องอย่างไร มีวิธีการอย่างไรค่ะ ต่อมา มีผู้เข้าใจผิด คิดว่าเป็นการชี้แจงเรื่องที่เกี่ยวกับที่ประเด็น และทางเพจมองว่า หากไปเกี่ยวข้องกับทางคณะ ก็อยากให้เป็นทางคณะออกมาชี้แจงเองจะดีกว่าค่ะ เท่านั้นเองค่ะ"
Advertisement