วันที่ 8 ต.ค. 65 ที่ วัดเทพมงคลพิชัย ต.ด่านช้าง อ.นากลาง จ.หนองบัวลำภู ญาติผู้เสียชีวิตมีการนำรูปมาตั้งบริเวณหน้าศพ และในส่วนของศพผู้เสียชีวิตที่เป็นเด็กมีการนำของเล่นมาวางไว้บริเวณด้านหน้าศพ ขณะที่กรมการปกครอง ชาวบ้าน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้มีการจัดเตรียมสถานที่เพื่ออำนวยความสะดวกกับผู้เข้าร่วมงาน
นายธีร์ ภวังคนันธ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงศึกษา พร้อมคณะ ได้เดินทางเพื่อนำพวงหรีดมาแสดงความเสียใจ และให้กำลังใจครอบครัวผู้เสียชีวิต ระบุว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ค่อนข้างสะเทือนใจชาวบ้าน โดยเฉพาะนักเรียนซึ่งในตัวแทนของกระทรวงสาธิการ มีความเป็นห่วงในเรื่องของสุขภาพจิต และมองถึงแผนการป้องกันในอนาคตหากเกิดเหตุรุนแรงแบบนี้
โดยจะให้สถาบันการศึกษามีห้องเซฟตี้เอาไว้หลบภัยกรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน ซึ่งจะทดลองใช้งานจริงใน ต.อุทัยสวรรค์ ก่อน และอาจจะเป็นโมเดลที่จะใช้กับทุกสถาบันการศึกษาในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ รวมถึงบุคลากรภายในสถาบันการศึกษาจะต้องมีการฝึกอบรม ฝึกซ้อมรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉิน
ขณะที่ นายกิ่งศักดิ์ พูลเกษม ผู้ใหญ่บ้าน ม.12 ต.อุทัยสวรรค์ อ.นากลาง จ.หนองบัวลำภู ให้สัมภาษณ์ว่า หลังจากเกิดเหตุชาวบ้านในพื้นที่มีความประสงค์ไม่ต้องการให้นำศพผู้ก่อเหตุมาเผาในพื้นที่ ต.อุทัยสวรรค์ อ.นากลาง จ.หนองบัวลำภู เนื่องจากยังทำใจไม่ได้ ส่วนศพภรรยาและศพลูกเลี้ยงของผู้ก่อเหตุ ชาวบ้านในพื้นที่ยินดีที่จะให้มาเผาวัดในพื้นที่
หลังเผาศพผู้เสียชีวิตเสร็จ ตัวเองจะไปคุยกับครอบครัวผู้ก่อเหตุ และทางฝั่งชาวบ้านที่สูญเสียเพื่อสร้างสมานฉันท์ทั้งสองฝ่าย และคิดว่าฝั่งชาวบ้านคงแยกแยะออกระหว่างครอบครัวคนก่อเหตุและตัวของคนก่อเหตุ
พลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ที่เดินทางมาเพื่อร่วมประชุมกับชุดพนักงานสืบสวนสอบสวน กล่าวว่า ตำรวจกำลังดำเนินการสอบสวนแม้ผู้ต้องหาจะเสียชีวิตไปแล้ว แต่สำนวนการสอบสวนเป็นระเบียบของสำนักงานตำนวจแห่งชาติ ซึ่งจะแบ่งเป็น 3 สำนวน คือ สำนวนชันสูตรพลิกศพ สำนวนที่ผู้ต้องหาฆ่าตัวเอง และผู้ต้องหาไปก่อเหตุ โดยมีการตั้งคณะพนักงานสืบสวนสอบสวน ระดมมาจากหลายจังหวัดเพื่อให้บริการในการสอบปากคำผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ซึ่งมีทั้งหมด 180 กว่าปากรวม 3 สำนวน
ส่วนศพทั้ง 3 วัด จะมีการแบ่งกำลังตำรวจเข้าไปดูแลวัดละ 30 นาย มีรองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเป็นผู้ดูแลร่วมกับผู้กำกับพื้นที่ จิตอาสาพระราชทาน และจัดจราจรรอบวัดอำนวยความสะดวกให้ประชาชน สิ่งสำคัญคือการสอบสวน เพื่อเร่งรัดสอบปากคำและเยียวยา และได้ประสานนักจิตวิทยามาดูแลสภาพจิตใจผู้สูญเสีย ช่วงเช้าที่ผ่านมาได้นำกำลังตำรวจร่วมบริจาคโลหิตที่รพ.อุดรธานี ซึ่งเลือดเพียงพอแล้ว
เรื่องมูลเหตุจูงใจเกิดจากความเครียดเป็นหลัก เนื่องจากการชันสูตรพลิกศพไม่มียาเสพติด เป็นความเครียดสะสมอย่างต่อเนื่อง อาจจะเครียดเรื่องครอบครัว เงินทอง คดีต่างๆ โดยประเด็นเหล่านี้ก็ต้องถอดบทเรียนทั้งเรื่องอาวุธปืน และยาเสพติดที่ชาวบ้านพูดกันว่าระบาดหนัก รวมถึงต้องตรวจสารเสพติดตำรวจใต้บังคับบัญชาด้วย
โดยในพื้นที่ก็ต้องสร้างความเชื่อมั่นให้ผู้สูญเสีย การสอบสวนได้เน้นยำให้สอบครั้งเดียว ไม่ให้ผู้สูญเสียเกิดความหวนคิดเรื่องการก่อเหตุ ผู้ก่อเหตุที่อื่นก่อน ก่อนมายิงลูกเมียและตัวเองเสียชีวิต การก่อเหตุไม่ได้พุ่งที่เด็กอย่างเดียว แต่เจอใครก็ยิง เป็นความเครียดสะสม
เรื่องการจับกุมยาเสพติด 1 เม็ดไม่ใช่การกลั่นแกล้ง เป็นการลงฑัณฑ์ตามระเบียบ ซึ่งโทษต้องให้ออก โดยวันนี้ต้องถอดบทเรียนจากบุคลิกภาพ ให้หมอ นักจิตวิทยามาอธิบายพฤติกรรม ส่วนความขัดแย้งอื่นไม่มี เป็นเรื่องความกดดันส่วนตัว การเข้ามาที่ศูนย์เด็กเล็กไม่สามารถตอบได้ว่ามาหาลูกเมียหรือไม่ แต่เป็นสภาพจิตใจเพราะวันรุ่งขึ้นจะถูกศาลตัดสิน เมื่อกลับไปที่บ้านไม่พบลูกเมียก็คิดว่าจะถูกทิ้ง ซึ่งก็เป็นเรื่องจิตใจเป็นหลัก กรณีเรื่องที่ลูกของผู้ก่อเหตุหยุดเรียนเพราะไม่สบายไม่เกี่ยวกับความขัดแย้งกับเด็กคนอื่นภายในศูนย์ ส่วนเรื่องการเผารถทราบว่าผู้ก่อเหตุมีปัญหาหนี้สิน มีปัญหาเรื่องเงินเป็นหนี้รถอยู่ประมาณ 3-4 แสนบาท
ทั้งนี้การตรวจร่างกายยืนยันว่าไม่มียาเสพติดแสดงว่าไม่ได้ใช้ยาเสพติด นอกจากนี้ศาลระบุว่า ช่วงเช้าที่ขึ้นศาล เจ้าตัวพูดจาดี ชัดถ้อยชัดคำ จึงตัดเรื่องยาเสพติดออกไป แต่การวิเคราะห์มูลเหตุต้องทำร่วมกับแพทย์ใหญ่ เพื่อดูเรื่องบุคลิกภาพของผู้ก่อเหตุ โดยเหตุการณ์ที่เกิดต้องถอดบทเรียน มีมาตรการออกมาทำให้ประชาชนเชื่อมั่น ซึ่งทุกหน่วยต้องร่วมกัน
ทนายของผู้ก่อเหตุ บอกเป็นข้อมูลกับทีมข่าวอมรินทร์ว่า วันเกิดเหตุผู้ก่อเหตุเดินทางมาพร้อมกับแม่ มีสีหน้าปกติยิ้มแย้มเป็นบางช่วง ก็ไม่คิดว่าจะไปก่อเหตุลักษณะนี้
Advertisement