แอบเผามือฆ่า 38 ศพ แม่ขอ "อย่าเกิดมาฆ่าคน" จตุรงค์ขอหยุดถล่มวัด แต่แทคไล่เผาข้างถนน (คลิป)

กรณีเกิดเหตุอุกฉกรรจ์ กราดยิงภายในศูนย์พัฒนาเด็กเล็กขององค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) อุทัยสวรรค์ อ.นากลาง จ.หนองบัวลำภู มีผู้เสียชีวิต 38 ราย ซึ่งผู้ก่อเหตุเป็นอดีตตำรวจ

ด้านนางดอกไม้ อายุ 62 ปี แม่ของผู้ก่อเหตุที่กราดยิง พร้อมลูกชายคนโต และญาตินำศพอดีตตำรวจไปประกอบพิธีทางศาสนาที่วัดแห่งหนึ่ง ในเขตเทศบาลนครอุดรธานี แต่สุดท้ายก็โทรศัพท์ไปขอยกเลิกวัดดังกล่าว

ต่อมานางดอกไม้และญาติได้ติดต่อไปยังเจ้าอาวาสวัดใหม่หนองหิน ชุมชนหนองหิน-ร่มเย็น เทศบาลเมืองหนองสำโรง อ.เมือง จ.อุดรธานี เพื่อประกอบพิธีฌาปนกิจร่างลูกชาย ซึ่งเจ้าอาวาสได้อนุญาต จึงนำร่างบรรจุโลงขึ้นรถไปที่เมรุวัด โดยมีญาติ 10 คน นำโลงศพใส่รถเข็นเดินรอบเมรุ 3 รอบ แล้วนำโลงขึ้นไปบนเมรุ

นางดอกไม้ เดินไปเคาะโลงศพบอกลูกชายว่า "เกิดชาติหน้าอย่าทำอย่างนี้อีก" ก่อนนิมนต์พระสงฆ์ 4 รูปประกอบพิธีทางศาสนาสวดมาติกาบังสุกุล แล้วกรวดน้ำถวายปัจจัยพระสงฆ์ 4 รูป เสร็จแล้วเปิดฝาโลงให้แม่และญาติใช้น้ำอบน้ำหอมล้างหน้าศพ งนางดอกไม้ร่ำไห้ตลอดเวลา เสร็จแล้วนำโลงเข้าเตาเผาเวลา 14.10 น. สัปเหร่อจุดไฟฌาปนกิจ โดยญาติจะกลับมาเก็บอัฐิในวันพรุ่งนี้

ด้านพระประวิตร ยืนยง 58 ปี พระลูกวัดใหม่หนองหิน บอกว่า ได้มีญาติโยมมาติดต่อเพื่อนำร่างตำรวจมือกราดยิงมาเผาที่วัด ก็ปฏิเสธไม่ได้ เพราะเป็นหน้าที่ ก็ดำเนินการตามจุดประสงค์ของญาติเขา ส่วนใครผิดก็เป็นเรื่องของกฎหมาย คนก่อเหตุเขาก็ตายไปแล้ว เป็นเวรเป็นกรรมก็จะติดตามไปเอง

กรณีที่มีกระแสข่าวว่าญาติของผู้ก่อเหตุกราดยิงคนรวม 38 ศพ จะต้องหาวัดเพื่อเผาร่าง เพราะมีบางวัดไม่ยอมให้เผานั้น อ.จตุรงค์ จงอาษา นักวิชาการพุทธศาสนา เปิดเผยว่า กรณีนี้ตนไม่อยากให้สังคมตำหนิวัดต่าง ๆ ที่ไม่ยอมให้เผา เพราะว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อนที่ทางวัดจะต้องตัดสินใจร่วมกับชุมชน ตนเชื่อว่าวัดนั้นยินดีให้เผาศพ แต่คิดว่าทางวัดที่ไม่รับ เพราะไม่อยากให้จัดงานศพของเหยื่อและผู้ก่อเหตุร่วมกัน เพราะตอนนี้เชื่อว่าหลายวัดในพื้นที่ จ.หนองบัวลำภู น่าจะมีการใช้พื้นที่จัดงานศพของเหยื่อกระสุนรายอื่น ๆ อยู่

ดังนั้นไม่ใช่เรื่องแปลกที่วัดและชุมชนเลือกที่จะช่วยเหลือ และบริการการจัดงานศพของผู้ตกเป็นเหยื่อ เพื่อให้เกียรติผู้ตายก่อน และช่วยเหลืองานศพของผู้ก่อเหตุในภายหลัง เพราะทั้ง 2 งาน คงจะจัดร่วมวัดเดียวกันช่วงเวลาเดียวกันไม่ได้ ตนคิดว่าถ้าแม่ของผู้ก่อเหตุ ต้องการจะเผาศพของลูกก็ควรจะเก็บเอาไว้ก่อน อาจจะ 100 วัน ถึง 1 ปี ก็แล้วแต่ความสะดวกใจ แต่ถ้าแม่รีบจะเผาศพลูก ก็ควรจะหาวัดนอกพื้นที่เผา เพราะตอนนี้วัดในพื้นที่คงเต็มไปด้วยงานศพของผู้เป็นเหยื่อ

อย่างไรก็ตาม ตนไม่อยากให้ญาติของผู้ก่อเหตุโทษวัดว่าไม่ให้เผาศพ เพราะเรื่องนี้มันคงเป็นความเห็นของชุมชน เป็นความละเอียดอ่อนของชุมชน และอยากให้ฝั่งผู้ก่อเหตุโปรดเห็นอกเห็นใจฝั่งของผู้สูญเสีย

"แพรรี่ ไพรวัลย์" ออกมาโพสต์ข้อความ ระบุถึงเรื่องนี้ว่า "มีอีกเรื่องที่ดิฉันอยากฝากและร่วมแชร์มุมมองนะคะ คือเรื่องการเผาศพของฆาตกร ดิฉันอยากฝากชวนให้แยกแยะว่า ถ้าวัดหรือพระท่านจะรับเผา ก็เป็นกิจทางศาสนาของพระท่าน ไม่ควรมีใครเอาดราม่าไปลงกับวัดนะคะ

และไม่ต้องห่วงนะคะ ว่าการทำพิธีกรรมใดๆ ทางศาสนาจะมีส่วนในการล้างบาปหรือสร้างบุญอะไรให้กับฆาตกรที่ตายไปแล้วได้ มันทำไม่ได้แน่นอนค่ะ สุทฺธิ อสุทฺธิ ปจฺจตฺตํ ดีเลวเป็นเรื่องเฉพาะตัวจริงๆ ใครทำยังไงก็ได้อย่างนั้นแหละค่ะ

การเผาอย่างมาก ก็ทำให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องไม่ต้องลำบากใจในการเก็บรักษาศพ (ซึ่งไม่รู้ว่าจะเอาไปไว้ที่ไหน) ส่วนมาตรการทางสังคม การประณามหรืออะไรต่างๆ ชาวบ้านก็สามารถที่จะแสดงออกและกระทำไปพร้อมกันได้เลยนะคะ คือไม่ไปร่วมพิธี ไม่รับรู้ ไม่เห็นใจ เรียกว่าไม่เผาผี แบบนี้ทำได้ค่ะ

เรื่องนี้ดิฉันอยากฝากไว้ พระก็เหมือนหมอนั่นแหละค่ะ น่าเห็นใจ เป็นหมอ ใครเจ็บมาก็ต้องรักษาไว้ก่อน เป็นพระ ใครตายมาก็ต้องสวดต้องเผาให้"

"แทค ภรัญยู" นักแสดงหนุ่มพ่อลูกหนึ่ง โพสต์ข้อความเดือดถึงเรื่องนี้ว่า "ถ้าไม่มีวัดไหนรับไม่มีที่ให้ เก็บ ยาง น้ำมัน ไม้ขีดจบ คนอย่างนี้ต้อง เผาข้างถนน ใครอย่าดราม่านะ ) ว่าไม่มีความเมตตา ถุยยย"

โดยเมื่อเวลา 15.30 น. พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เดินทางด้วยเฮลิคอปเตอร์มาที่ อบต.อุทัยสวรรค์ เพื่อร่วมประชุมกับชุดพนักงานสืบสวนสอบสวน พร้อมกล่าวว่า ตำรวจกำลังดำเนินการสอบสวนแม้ผู้ต้องหาจะเสียชีวิตไปแล้ว แต่สำนวนการสอบสวนเป็นระเบียบของสำนักงานตำนวจแห่งชาติ

ซึ่งจะแบ่งเป็น 3 สำนวน คือ สำนวนชันสูตรพลิกศพ สำนวนที่ผู้ต้องหาฆ่าตัวเอง และผู้ต้องหาไปก่อเหตุ โดยมีการตั้งคณะพนักงานสืบสวนสอบสวน ระดมมาจากหลายจังหวัดเพื่อให้บริการในการสอบปากคำผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง มีทั้งหมด 180 กว่าปาก รวม 3 สำนวน

ส่วนศพทั้ง 3 วัดจะมีการแบ่งกำลังตำรวจเข้าไปดูแลวัดละ 30 นาย มีรองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเป็นผู้ดูแล ร่วมกับผู้กำกับพื้นที่ จิตอาสาพระราชทาน และจัดจราจรรอบวัดอำนวยความสะดวกให้ประชาชน สิ่งสำคัญคือการสอบสวน เพื่อเร่งรัดสอบปากคำและเยียวยา และได้ประสานนักจิตวิทยามาดูแลสภาพจิตใจผู้สูญเสีย ช่วงเช้าที่ผ่านมาได้นำกำลังตำรวจร่วมบริจาคโลหิตที่ รพ.อุดรธานี ซึ่งเลือดเพียงพอแล้ว

เรื่องมูลเหตุจูงใจเกิดจากความเครียดเป็นหลัก เนื่องจากการชันสูตรพลิกศพไม่มียาเสพติด เป็นความเครียดสะสมอย่างต่อเนื่อง อาจจะเครียดเรื่องครอบครัว เงินทอง คดีต่าง ๆ โดยประเด็นเหล่านี้ก็ต้องถอดบทเรียนทั้งเรื่องอาวุธปืน ยาเสพติดที่ชาวบ้านพูดกันว่าระบาดหนัก รวมถึงต้องตรวจสารเสพติดตำรวจใต้บังคับบัญชาด้วย โดยในพื้นที่ก็ต้องสร้างความเชื่อมั่นให้ผู้สูญเสีย การสอบสวนได้เน้นยำให้สอบครั้งเดียว ไม่ให้ผู้สูญเสียเกิดความหวนคิด

ส่วนเรื่องการจับกุมยาเสพติด 1 เม็ดไม่ใช่การกลั่นแกล้ง เป็นการลงฑัณฑ์ตามระเบียบ ซึ่งโทษต้องให้ออก โดยวันนี้ต้องถอดบทเรียนจากบุคลิกภาพ ให้หมอ นักจิตวิทยามาอธิบายพฤติกรรม ส่วนความขัดแย้งอื่นไม่มี เป็นเรื่องความกดดันส่วนตัว การเข้ามาที่ศูนย์เด็กเล็กไม่สามารถตอบได้ว่ามาหาลูกเมียหรือไม่ แต่เป็นสภาพจิตใจ เพราะวันรุ่งขึ้นจะถูกศาลตัดสิน เมื่อกลับไปที่บ้านไม่พบลูกเมียก็คิดว่าจะถูกทิ้ง ซึ่งก็เป็นเรื่องจิตใจเป็นหลัก กรณีเรื่องที่ลูกของผู้ก่อเหตุหยุดเรียน เพราะไม่สบาย ไม่เกี่ยวกับความขัดแย้งกับเด็กคนอื่นภายในศูนย์ ส่วนเรื่องการเผารถทราบว่าผู้ก่อเหตุมีปัญหาหนี้สิน มีปัญหาเรื่องเงินเป็นหนี้รถอยู่ประมาณ 3-4 แสนบาท

ทั้งนี้ การตรวจร่างกายยืนยันว่าไม่มียาเสพติดแสดงว่าไม่ได้ใช้ยาเสพติด นอกจากนี้ ศาลระบุว่าช่วงเช้าที่ขึ้นศาลเจ้าตัวพูดจาดี ชัดถ้อยชัดคำ จึงตัดเรื่องยาเสพติดออกไป แต่การวิเคราะห์มูลเหตุต้องทำร่วมกับแพทย์ใหญ่ เพื่อดูเรื่องบุคลิกภาพของผู้ก่อเหตุ
โดยเหตุการณ์ที่เกิดต้องถอดบทเรียน มีมาตรการออกมาทำให้ประชาชนเชื่อมั่น ซึ่งทุกหน่วยต้องร่วมกัน

ด้าน "ญาญ่า อุรัสยา" และ "เบลล่า ราณี" นักแสดงหญิงชื่อดัง ก็ได้โพสต์แสดงความไว้อาลัยต่อเหตุการณ์สลดที่เกิดขึ้นด้วย

ส่วนนักแสดงรุ่นใหญ่มากฝีมือ "อร อรอนงค์" ได้มาร่วมงานกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ และให้สัมภาษณ์ถึงเหตุการณ์สุดสลดใจว่า ตนรู้สึกในฐานะคนเป็นแม่ ก็รู้สึกเห็นใจผู้ปกครอง เห็นใจคนที่สูญเสีย ตนก็ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งจริง ๆ เราไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีก เพราะฉะนั้นมันต้องขึ้นอยู่กับหน่วยวานราชการ เพราะคนที่ก่อเหตุก็เป็นตำรวจ มันไม่ควรจะแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ ต้องแก้ที่ต้นเหตุมากกว่า ต้นเหตุคืออะไร ผู้ใหญ่เองก็น่าจะรู้ว่าจะต้องแก้ไขยังไงบ้าง

ในฐานะคนเป็นแม่บอกเราว่าอยากเห็นพัฒนาการของลูก ลูกเรายังเล็ก ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ รู้สึกเศร้าใจ ในส่วนของเรื่องความรุนแรงและยาเสพติด มันเป็นปัญหาเรื้อรังมาอยู่แล้ว คนที่เสพยามาก็ต้องมีการซักประวัติ คนที่รับราชการก็ต้องเป็นคนที่ดูแลประชาชนได้ ไม่ใช่ให้ประชาชนมาดูแล ต้องดูแลประชาชนได้จริง ๆ มีหลักธรรมาภิบาล มีธรรมะ มีความเห็นอกเห็นใจ ต้องมีคุณธรรม

เรื่องที่เกิดขึ้นก็เป็นหลาย ๆ ข้อกังขาที่หลายคนอยากจะถาม รวมถึงเรื่องของการพกพาอาวุธ มันก็จะมีกฎระเบียบตายตัวอยู่แล้ว แล้วทำไมเขาถึงมีได้ ต้องดูแลให้มากกว่านี้ สุดท้ายตนก็ต้องขอแสดงความเสียใจ และร่วมไว้อาลัยกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วย