เปิดห้องนอน "น้องโชค" เหยื่อปืนลั่น ยายปล่อยโฮโชว์คอมสุดรัก - พระเปิดกุฏิโชว์ไร้ปืน (คลิป)

กรณีเหตุ "น้องโชค" นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนวัดลาดปลาดุก ต.บางรักพัฒนา อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี เสียชีวิตภายในห้องเรียนคอมพิวเตอร์ ภายหลังมีนักเรียนอีกราย นายเอ (นามสมมติ) ให้การรับสารภาพว่า ได้แอบนำอาวุธปืนเข้ามาภายในโรงเรียน เพื่อมาเคลียร์ปัญหากับผู้ตาย กระทั่งทำให้อาวุธปืนลั่นใส่ผู้ตายจนเสียชีวิตนั้น

เวลา 15.40 น. ร่างของ ด.ช.นพศิลป์ หรือ น้องโชค อายุ 14 ปี ก็เคลื่อนมาถึงวัดราษฎร์ประคองธรรม อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี โดยในเวลา 16.30 น. ทางครอบครัวได้จัดพิธีรดน้ำศพ บรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้า ต่อมาในเวลา 16.45 น. ทางครอบครัวก็ร่วมกันกล่าวทอดผ้าบังสุกุลให้กับผู้ตาย

นางนันท์ภัส ชโยด สิทธิ์เดช อายุ 57 ปี ยายของผู้ตาย และนางสาววรรณพร งามสุด อายุ 34 ปี น้าของผู้ตาย พร้อมทนายปิยณัฐ สุกยัง เลขาธิการเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม กลุ่มของทนายรณณรงค์ ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนพร้อมกัน บอกว่า ไม่เชื่อว่าสาเหตุการเสียชีวิตของผู้ตายในครั้งนี้จะเป็นอุบัติเหตุ เนื่องจากมีการนำปืนเข้ามาภายในโรงเรียน อีกทั้งคำว่าปืนลั่นที่ผู้ก่อเหตุกล่าวอ้างกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทางครอบครัวเชื่อว่าหมายถึง "การพลั้งมือยิง" และอาจมีองค์ประกอบอื่น เพราะปืนลั่นของเด็กวัยรุ่น กับปืนลั่นในภาษาของผู้ใหญ่นั้นไม่เหมือนกัน ทางครอบครัวจึงเชื่อว่าผู้ก่อเหตุน่าจะจงใจหยิบปืนขึ้นมายิงเล่นแล้วกระสุนถูกเข้าที่ผู้ตาย ครอบครัวจึงอยากจะขอความเป็นธรรมผ่านสื่อมวลชน อยากจะถามผู้ก่อเหตุว่า "ทำไมทำน้อง"

สำหรับมาตรการความปลอดภัยโรงเรียน ทางครอบครัวยอมรับว่าติดใจเล็กน้อย เนื่องจากภายในห้องเรียนคอมพิวเตอร์ไม่มีกล้องวงจรปิด ไม่มีเครื่องตรวจอาวุธ แม้มีการตรวจกระเป๋าก็ตรวจได้ไม่ละเอียด ซึ่งทางครอบครัวไม่โทษโรงเรียนทั้งหมด แต่โทษผู้ก่อเหตุ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นผิดที่เด็ก เพราะนำอาวุธเข้าไปในโรงเรียน ส่วนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งว่าผู้ตายสนิทกับผู้ก่อเหตุ ทางครอบครัวขอยืนยันว่าทางครอบครัวไม่เคยพบเห็นเด็กชายเอ ผู้ก่อเหตุมาก่อน อีกทั้งทางครอบครัวยังได้สอบถามเพื่อน ๆ ของผู้ตายแล้ว ทุกคนยืนยันว่าทั้งคู่ไม่สนิทกัน เนื่องจากผู้ก่อเหตุขาดเรียนอยู่ตลอด โดยขณะนี้ญาติของผู้ก่อเหตุยังไม่ได้ติดต่อมาพูดคุยอะไรกับทางครอบครัว อยากบอกกับดวงวิญญาณน้องโชคว่า "ไม่ต้องห่วง ไปสู่คติภพภูมิที่ดี เกิดชาติใหม่ ให้กลับมาเป็นลูกหลานกันอีก"

นางสาวพรีม (นามสมมติ) อายุ 15 ปี เพื่อนของน้องโชค บอกว่า ผู้ตายเป็นคนน่ารักขี้เล่นชอบแกล้งหยอกล้อเพื่อน ๆ ส่วนเด็กชายเอ (นามสมมติ) ผู้ก่อเหตุ ตนรู้จักเพียงผิวเผิน เพราะอีกฝ่ายขาดเรียนอยู่ตลอด เนื่องจากต้องหาเงินเลี้ยงดูตัวเอง เพราะครอบครัวยากจน ทั้งนี้ เด็กชายเอไม่เคยก่อปัญหาในโรงเรียนมาก่อน แต่ปัญหาชกต่อยนอกโรงเรียนก็มีอยู่บ้าง เพราะเด็กชายเอค่อนข้างห้าว

สำหรับเหตุที่เกิดขึ้น ตนและเพื่อน ๆ เชื่อว่าเด็กชายเอน่าจะนำปืนออกมาเล่น เพราะอยากโชว์เพื่อน ๆ เพราะปกตินิสัยของเด็กชายเอ ก็เป็นคนชอบอวดให้คนอื่นรู้ว่าเก๋า ตนอยากบอกผู้ตายว่า ตนมาร่วมงานศพ ไมาส่งแล้วนะ" ส่วนผู้ก่อเหตุ ตนอยากบอกว่า "ถ้าทำผิด เพื่อน ๆ ไม่โกรธ ขอแค่มาขอโทษโชคก็พอ"

ทีมข่าวได้เดินทางไปที่วัดลาดปลาดุก ต.บางรักพัฒนา อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี พระคำนึง นิมมะโล พระลูกวัดผู้อุปถัมภ์เลี้ยงดูน้องเอ พร้อมส่งเสียให้ค่าเล่าเรียนหนังสือ ยืนยันว่ากระแสเรื่องปืน ตนเองไม่ได้เป็นเจ้าของตามที่ข่าวออกไป ส่วนจะเป็นปืนของใครตนไม่ทราบ เพราะตนไม่รู้เรื่อง คาดอาจจะเป็นปืนของกลุ่มเพื่อนเขาหรือไม่ เพราะที่ผ่านมาประมาณ 1 สัปดาห์กว่าเขาไม่กลับมาที่วัดเลย ตนก็ติดต่อไม่ได้ บอกแค่ว่าไปนอนบ้านเพื่อนแถวหมู่บ้านบัวทอง แต่รายละเอียดตนไม่ทราบ เพราะตนไม่รู้จักกลุ่มเพื่อนของเขาที่อยู่ด้วยกัน แต่เคยเห็นว่ามีแวะเวียนมาหาน้องเขาบ้าง

ถามว่าน้องเองเคยมีปัญหาหรือมีเรื่องทะเลาะกับทางคนตายหรือไม่ ส่วนนี้ตนไม่ทราบ แต่เคยมีเรื่องทะเลาะวิวาทมานานกว่า 4-5 เดือนก่อน ตอนนั้นมีรอยฟกช้ำที่ตา แต่ตนไม่ทราบว่าทะเลาะกับใคร เรื่องอาวุธปืนยืนยันว่าไม่เคยเห็นน้องเล่นอาวุธปืน มีแค่พวกมีดตอนนั้นเห็นเขาเอามาใส่กระเป๋า ตนเองก็ได้ตักเตือนไปแล้ว พฤติกรรมของเด็กเป็นคนนิ่ง พูดอะไรก็เชื่อฟัง แต่ช่วงหลังเขามักจะไม่ค่อยกลับมานอนวัด ติดเพื่อนมากกว่า ตนไม่ทราบเลยว่าเขาขาดเรียนมาแล้วกว่า 1 สัปดาห์ ถามว่าสาเหตุที่รับเลี้ยงนั้น เพราะตนเองจะมีลูกศิษย์วัดหลายคน ลูกหลานคนแถวนี้จะนำมาฝาก และตนก็พร้อมข่วยเหลือในฐานะพระ เช่นเดียวกับทางเด็กคนนี้ที่พอดีว่าแม่ของเขาสามีตาย และไม่มีเงิน เลยเอาลูกมาให้ตนดูแล ตนเองก็ดูแลเขามาตั้งแต่ตอน 8-9 ขวบ

"ตนเตือนตลอดเวลาว่าอย่าเอาพวกอาวุธมาพกไว้ เพราะเคยเจอเขามีมีด ตนก็ขู่ว่าเดียวตำรวจจะจับเอา เขาก็ฟัง ซึ่งต้องบอกว่าต่อหน้าเขาฟัง ลับหลังเขาอาจจะมีเกเรหรือดื้อบ้าง ลักษณะคล้ายเป็นคนดื้อเงียบ"

พระคำนึง พาทีมข่าวเข้าไปตรวจสอบในห้องนอนของน้องเอที่อยู่ภายในกุฏิ ปกติจะนอนอยู่ห้องเดียวกับทางหลวงพี่ มีตู้เสื้อผ้า 1 ตู้ ไว้ใส่ข้าวของเครื่องใช้ส่วนตัว ภายในที่ทีมข่าวตรวจสอบมีในส่วนของชุดนักเรียน ชุดพละ กางเกง และเสื้อผ้าสำหรับไว้ใส่เล่นบางส่วน ตลอดจนยังมีหนังสือเรียนอยู่ด้านบน ไม่พบพวกอาวุธ หรืออุปกรณ์ลักษณะคล้ายอาวุธ ด้านหน้าจะมีรองเท้าจำนวน 3 คู่ ที่ผ่านมาเขาเองก็ช่วยงานวัดเป็นปนะจำ เพิ่งจะมาหายไป ๆ มา ๆ ช่วง 3-4 เดือนที่ติดเพื่อนกลุ่มใหม่

ทีมข่าวเดินทางไปที่บ้านในหมู่บ้านพฤกษา 14 พบนางยลดา งามสุด อายุ 59 ปี เป็นผู้เลี้ยง ดู ด.ช.นพศิลป์ หรือ น้องโชค เล่าว่า ปกติน้องโชคจะนอนอยู่ในห้องกับยายทุกวัน เนื่องจากว่าแม่จะต้องไปทำงานที่ จ.ปทุมธานี ก่อนหน้านี้ไม่มีลางบอกเหตุอะไรเลยเพราะถ้ามี ตนจะไม่ยอมให้หลานไปโรงเรียนโดยเด็ดขาด

แม่ผู้ตาย กล่าวต่อว่าตนก็อยากให้ลูกได้รับความยุติธรรม เพราะตนรู้ว่าลูกของตนเป็นคนยังไง เพื่อน ๆ เขาก็รู้ว่าโชคเป็นคนยังไง ทำไมลูกของตนต้องมาเจออะไรแบบนี้ แล้วอะไรที่บิดเบือนไปก็ขอให้ออกมาชี้แจงด้วย เพราะทุกอย่างมีพยานหลักฐานชัดเจนหมดแล้ว

ตนแยกทางกับพ่อของน้องตั้งแต่ตั้งครรภ์แล้ว และเลี้ยงลูกมาคนเดียว ลูกของตนยังมีอนาคต แต่ก่อนหน้านี้ก็เล่นเกมบ้างติดโทรศัพท์ วัน ๆ อยู่บ้านกับยาย ไม่ว่าจะทำอะไรก็จะขออนุญาตก่อน

จะกินอะไรก็ต้องบอก เป็นเด็กที่พูดจาดี และต้องมาเจอแบบนี้ทั้งที่เขาเคยบอกว่าถ้าเขาเรียนจบ ม.3 เขาจะไปสมัครเรียนต่อโรงเรียนทหาร ทุกอย่างมันพังหมดเลย แล้วตนก็มีลูกเพียงคนเดียว ก็อยากจะถามเด็กคนที่ยิงว่าทำลูกของตน ทำไมแค่ต่อยลูกของตนก็ไม่สู้แล้ว มีเหตุผลอะไรที่ต้องถึงขนาดต้องฆ่ากันเลย มันรุนแรงเกินไป

น่าเสียใจตรงที่ครูบอกตนว่าคีย์บอร์ดระเบิด แล้วเด็กคนที่ก่อเหตุตนก็ไม่ค่อยเห็นในกลุ่มไลน์ของโรงเรียน เพราะเขาไม่ค่อยมาเรียน แล้วลูกของตนจะไปมีปัญหากับเขาได้อย่างไร