กรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ จับกุมนายสมศักดิ์ ลากระโทก อายุ 35 ปี ที่ก่อเหตุใช้มีดปลายแหลมแทงนายมานะ ดวงกระโทก อายุ 35 ปี เพื่อนที่นั่งดื่มเหล้าด้วยกันเสียชีวิต เมื่อคืนที่ 10 ส.ค. 65
โดย น.ส.บังอร ภรรยา และเพื่อนที่นั่งดื่มเหล้าด้วยกัน ยืนยันว่านายสมศักดิ์ก่อเหตุเพราะหึงหวง ไม่พอใจที่ผู้ตายไปจับเอวภรรยาหลายครั้ง ทำให้เข้าใจว่าพยายามจะลวนลามภรรยา
กล้องวงจรปิดหน้าบ้านหลังหนึ่ง ห่างจุดเกิดเหตุประมาณ 200 เมตร จับภาพช่วงเวลาในกล้อง 17.40 น. น.ส.บังอร ขับซาเลง โดยมีนายมานะ ผู้ตายนอนในรถ และนายสมปองนั่งข้างผู้ตาย หลังจากนั้นประมาณ 10 นาที น.ส.บังอร กับนายสมปองขับซาเล้งกลับมาทางเดิม เพื่อกลับบ้านที่เกิดเหตุ
ขณะที่กล้องวงจรปิดฝั่งตรงข้ามบ้านที่เกิดเหตุ เวลา 17.00 น. นายมานะ ผู้ตาย เดินวนอยู่หน้าบ้านก่อนกลับไปนั่งที่วงเหล้า เวลา 17.32 น. นายสมศักดิ์ ผู้ก่อเหตุ กับนางสาวบังอร เดินวนอยู่หน้าบ้าน คาดว่าเกิดเหตุแล้ว
เวลา 17.37 น. น.ส.บังอร เข็นรถซาเล้งมาหน้าบ้าน คาดว่าเป็นช่วงยกนายมานะ ผู้ตายขึ้นรถ เวลา 17.41 น. น.ส.บังอร ขับรถออกจากบ้าน พร้อมนายสมปองเพื่อนำผู้ตายไปโรงพยาบาล โดยมีนายสมศักดิ์เดินอยู่ด้วย
ล่าสุด วันที่ 11 ส.ค. 65 นายสมศักดิ์ ลากระโทก ผู้ต้องหา เปิดเผยช่วงที่เจ้าหน้าที่ตำรวจคุมตัวขึ้นรถเพื่อนำไปฝากขังที่ศาล จ.บุรีรัมย์ กล่าวว่า นายมานะ ผู้ตายจับนมและจับก้นภรรยาของตน ตนหันไปเห็นพอดี ด้วยความโมโหตนจึงหยิบมีดมาจ้วงแทงนายมานะ 2 ครั้ง จนอีกฝ่ายล้มลงไป ที่ผ่านมาไม่เคยมีปัญหากับนายมานะมาก่อน ทำไปเพราะความหึงหวงเท่านั้น
เบื้องต้น พนักงานสอบสวน สภ.ลำปลายมาศ แจ้งข้อหาทำร้ายผู้อื่นเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย พร้อมนำตัวส่งศาลฝากขังต่อไป
น.ส.บังอร พิมพ์เชื้อ อายุ 38 ปี ภรรยาผู้ก่อเหตุ เล่าว่า เมื่อวานนี้นั่งกินเหล้ากับนายเกรียงศักดิ์ พี่ชาย, นายสมศักดิ์ สามี, นายมานะ ผู้ตาย และนายสมปอง เพื่อนอีกคน ตั้งแต่เวลา 10.00-17.00 น.
ตนเดินออกมาจากบ้านเพื่อจะไปซื้อเหล้า จู่ ๆ นายมานะเดินมาจับเอวตน 2 ครั้ง ซึ่งตนก็ไม่สนใจ รีบขับรถจักรยานยนต์ออกจากบ้านไปซื้อเหล้า เมื่อกลับมาถึงบ้านปรากฏว่านายมานะถูกแทงนอนอยู่หน้าบ้านแล้ว ส่วนสามีก็ยืนอยู่ใกล้กัน ตนจึงรีบเอาตัวนายมานะขึ้นรถซาเล้ง และนำไปส่งโรงพยาบาล พร้อมนายสมปอง
เมื่อไปถึงโรงพยาบาลตนบอกกับพยาบาลว่านายมานะถูกต้นไม้ล้มทับ เพราะกลัวว่าสามีจะมีความผิด จากนั้นก็รีบกลับบ้านมาดูสามีทันที ส่วนตัวก็เสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น อยากขอโทษครอบครัวผู้ตายในสิ่งที่สามีทำลงไป
นางบาง ผูกทำ อายุ 72 ปี แม่ผู้ตาย เล่าว่า ลูกชายเป็นผู้พิการขาข้างขวาใช้การไม่ได้ เมื่อวานนี้ช่วงเช้าลูกชายไปรับเงินสวัสดิการผู้พิการจำนวน 800 บาท โดยแบ่งให้ตน 500 บาท ไว้จ่ายค่าน้ำค่าไฟ จากนั้นลูกก็ออกจากบ้านในเวลา 10.00 น. คาดว่าน่าจะไปกินเหล้ากับเพื่อน
จนช่วงเย็นเจ้าหน้าที่ตำรวจโทรศัพท์มาแจ้งว่าลูกชายถูกแทง รักษาตัวอยู่โรงพยาบาล ตนก็รีบไปดูทันที ขณะนั้นลูกชายนอนอยู่ในห้องฉุกเฉิน มีแผลที่ช่วงท้อง 2 จุด จากนั้นลูกค่อย ๆ ผ่อนลมและเสียชีวิตในที่สุด
สอบถามพยาบาลทราบว่ามีเพื่อนขับซาเล้งมาส่งลูกชาย และอ้างว่าลูกถูกต้นไม้ทับ เมื่อเอาลูกตนลงจากรถก็รีบขับรถออกไปจากโรงพยาบาลทันที คาดว่าน่าจะกลัวความผิด แต่หมอเห็นแผลแล้วไม่เชื่อว่าถูกต้นไม้ทับ เพราะเป็นแผลถูกแทง จึงแจ้งตำรวจให้ดำเนินการต่อ ส่วนตัวเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นอย่างมาก การที่มือแทงอ้างว่าลูกตนไปจับเอวหรือลวนลามเมียเขา ตนคิดว่าไม่เป็นความจริง คนตายไปแล้วอีกฝ่ายจะพูดอะไรก็ได้ อยากถามว่าทำไมต้องทำกันขนาดนี้ ตนยืนยันว่าจะเอาเรื่องคนก่อเหตุให้ถึงที่สุด
Advertisement