กู้ภัยแจงดราม่าทิ้งศพ "ซันนี่" ข้างถนนเหตุสิ้นใจหลัง CPR โต้ล้างตัวทำช็อกดับ (คลิป)

ช็อกวงการ "ญาณวรุตม์ สุทธวาส หรือ ซันนี่ ยูโฟร์" อายุ 50 ปี ศิลปินบอยแบนด์ยุค 90 และหมอดู LGBTQ+ คนดัง เสียชีวิตในคอนโดฯ หลังป่วยเรื้อรังด้วยโรคไทรอยด์เป็นพิษมานานหลายเดือนนั้น

วันที่ 19 ก.ค. 65 ที่โรงพยาบาลตำรวจ สถาบันนิติเวชวิทยา หลังจากการชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิต เวลา 11.20 น. ญาติพี่สาวและหลานชาย เป็นผู้ทำเอกสารติดต่อรับศพ ให้ข้อมูลว่าแพทย์สรุปผลการเสียชีวิตของซันนี่ เกิดจากระบบไหลเวียนโลหิตล้มเหลว

สำหรับ ซันนี่ ยูโฟร์ เป็นคนรักสันโดษ หากมีอาการป่วยมักจะไม่แจ้งญาติ เนื่องจากกลัวจะเป็นห่วง ญาติทราบเพียงว่าป่วยเป็นหลายโรค แต่ที่หนักคือป่วยเป็นไทรอยด์เรื้อรัง ส่วนโรคมะเร็งไม่ทราบ ต้องรอให้ทางแพทย์ชี้แจง สำหรับสุนัข 2 ตัว ตนขอขอบคุณ "เก๋ ชลลดา เมฆราตรี" ที่รับไปดูแล และรายละเอียดต่าง ๆ หลังจากนี้ตนจะให้ "นิค ยูโฟร์" เป็นผู้ชี้แจง

ภายหลังจะนำร่างประกอบพิธีทางศาลนา ที่วัดเลา พระราม 2 กทม. และจะทำพิธีรดน้ำศพ เวลา 16.00น. ฌาปนกิจศพในวันอาทิตย์ที่ 24 ก.ค. 65 เวลา 12.30 น. พี่สาวและหลานชายถือถุงเสื้อผ้าและของใช้ส่วนตัวของซันนี่ มายืนรอรับศพบริเวณประตูทางออก ด้านพี่สาวถือธูป 1 ดอก เข้าดูหน้าเพื่อยืนยันตัวตน ก่อนที่จะนิมนต์พระจำนวน 1 รูป ทำพิธีอัญเชิญดวงวิญญาณตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดเลา พระราม 2 เคลื่อนย้ายร่างด้วยรถตู้ มีหลานชายนั่งไปด้วย

เวลา 13.00 น. อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญได้เคลื่อนย้ายร่าง จากนิติเวชโรงพยาบาลตำรวจ มายังวัดเลาย่านพระราม 2 โดยนำร่างมาตั้งไว้ที่ศาลา 6 เพื่อรอประกอบพิธีรดน้ำศพในเวลา 16.00 น. ภายหลังบรรจุศพจะเคลื่อนร่างไปสวดอภิธรรมที่ศาลาหน้าเมรุ

เวลา 15.00 น. พี่สาวนำดอกไม้สดมาประดับขาตั้งรูป ขณะที่หลานชายนำพวงมาลัยพวงใหม่มาคล้องแขนเปลี่ยนให้ พร้อมกับตั้งจิตร่วมรดน้ำศพ โดยบรรยากาศเป็นไปอย่างโศกเศร้า

ส่วนคนวงการบันเทิงที่เดินทางมารดน้ำศพเป็นคนแรก ๆ คือ "โก้ ธีรศักดิ์" รุ่นน้องที่สนิทและเป็นสมาชิกในค่ายคีตา ทันทีที่รดน้ำเสร็จสิ้น เปิดเผยว่า ส่วนตัวรู้จักกับซันนี่ร่วม 40 ปี เพราะเขาเป็นรุ่นพี่ที่โรงเรียนเก่า ตั้งแต่สมัยประถม และเติบโตมาด้วยกันจนก้าวเข้าสู่วงการบันเทิง ได้มาอยู่ค่ายเดียวกันที่คีตา เคยร่วมงานด้วยกัน ถูกโกงด้วยกัน ผ่านมาด้วยกันหมดทุกอย่าง หลังจากที่มีคนติดต่อมาถามหาพิกัดที่อยู่ของเขา แจ้งข่าวว่าเสียชีวิตแล้ว ตนใจหายและตกใจมาก เพราะไม่มีวี่แววว่าเขาจะเสียชีวิต

ก่อนโควิดก็จะได้ขึ้นเล่นคอนเสิร์ตคีตาคู่กัน แต่ดันมีโควิดก่อน แต่ก็ได้คุยกันทางกลุ่มไลน์ถามสารทุกข์สุขดิบกันตลอด ในช่วงเดือนไพรด์มันต์ ก็มีโอกาสนัดเจอกัน แต่ซันนี่เงียบหายไปเลย เพื่อนก็คิดว่าเขาไม่ว่าง ส่วนลางบอกเหตุอาทิตย์ที่ผ่านมามีแต่คนถามตนว่าซันนี่เป็นไงบ้าง ตนก็บอกว่าไม่รู้เพราะเขาเป็นคนที่จะเอาอะไรก็จะทำเลย และตอนที่เขาบอกอาการป่วยก็พูดติดตลก ไม่ได้มีการพูดให้น่าสงสาร จึงคิดว่าเขาคงหายแล้ว แต่หลัง ๆ มาเหมือนเขามีภาวะซึมเศร้า น่าจะเป็นเพราะเหตุนี้หรือไม่ ที่เขาไม่อยากบอกอะไรใคร เมื่อเพื่อน ๆ ไม่รู้จึงพลาดโอกาศในการช่วยเหลือ ถือว่าเป็นอุทาหรณ์ให้กับคนอื่น ๆ ในเรื่องสุขภาพจิต หากป่วยต้องบอกเพื่อขอความช่วยเหลือ แต่เขาไม่อยากเป็นภาระให้ใคร ตนจึงรู้สึกเสียดายคนสู้ชีวิตแบบเขา เขาลำบากมาตั้งแต่เด็ก ครอบครัวก็ไม่ได้อยู่ด้วยกัน

สำหรับอาการป่วยมะเร็งตนไม่ทราบ แต่พักหลังมานี้เหมือนเขาดีขึ้นแล้ว ตนก็เชื่อว่ามะเร็งรักษาได้ แต่ที่สำคัญมันอยู่ที่จิตใจ ถ้าจิตใจไม่ไหวก็จะพาส่วนอื่นแย่ไปด้วย และในวันนี้ตนได้บอกซันนี่ว่า "พี่หลับสบายแล้วนะ ได้ไปสวรรค์ก่อนใคร ไม่ต้องเหนื่อยแล้ว ไม่ต้องห่วงอะไรแล้ว หลับให้สบาย ให้เขาไปอยู่ในภพภูมิที่ดี ที่ที่มีแค่คนรักเขา สำหรับภาพจำเขาเป็นพี่ที่ดี นิสัยดี ซัพพอร์ตและกำลังใจ"

ขณะที่ "นิค ยูโฟร์" เพื่อนร่วมวง เดินทางตามมารดน้ำศพ พร้อมเปิดเผยว่า ที่ตนเดินทางไปคอนโดของซันนี่เมื่อวานนี้ เนื่องจากไปติดต่อประสานเจ้าหน้าระหว่างที่รอญาติมา และบ้านของตนก็อยู่แถวนั้นด้วย และตอนนี้คนก็ได้แจ้งข่าวให้พี่น้องในวงการทราบรายละเอียดเรียบร้อยแล้ว หลังจากนี้ก็จะทยอยกันมาร่วมอาลัย

ตนเป็นเพื่อนร่วมวงกับซันนี่ มีความสนิทกันอยู่แล้ว แต่เจอเขาล่าสุด 2 ปีที่แล้วก่อนที่จะมีคอนเสิร์ตคีตา แต่ต้องเลื่อนออกไปเนื่องจากโควิด จากนั้นก็คุยกันในกลุ่มไลน์คีตา แต่หลัง ๆ มานี้เขาหายไป เพื่อนก็เริ่มเอะใจว่าเขาหายไปไหน ต่อมาก็มีคนแจ้งข่าวเสียชีวิต ตนก็คิดว่าเป็นการอำกันเล่น ส่วนเบอร์สุดท้ายมีการติดต่อของซันนี่คือ มัม ลาโคนิค เพื่อขอเบอร์กุ้ง และกุ้งก็แจ้งข่าวกับตนจึงโพสต์ลงเฟซทันที แต่โดยปกติแล้วซันนี่มักจะไม่บอกใคร

สำหรับลางบอกเหตุตนไม่มีเลย เมื่อทราบว่าเสียชีวิตตนก็ช็อกทันที สำหรับโปรเจกต์ที่จะทำเพื่อซันนี่ต่อจากนี้ยังไม่ได้คุยกันกับเพื่อน ๆ เบื้องต้นมีแค่คอนเสิร์ตคีตา รู้สึกว่าแอบเสียดายที่ซ้อมคอนเสิร์ตกันมาแต่มีโควิดก่อน รอดูว่าสถานการณ์ดีขึ้นจะมีการจัดคอนเสิร์ตคีตาอีกครั้งหรือไม่

หลัง ๆ มานี้ ซันนี่ก็มักจะดูดวง แต่เขาไม่เคยมาดูให้เพื่อนเลย ไม่รู้เหมือนกันว่าเพราะอะไร สำหรับความประทับใจมีเยอะมาก แต่ที่จำได้คือตอนที่ร่วมวงกันครั้งแรก ตนไม่รู้ว่าเขาเป็นกะเทย ช่วงนั้นตนไม่ชอบกะเทยเลย แต่เมื่อรู้ว่าเป็นกะเทยก็รีบเรียกประชุมวงทันทีว่าอย่าคิดอะไรกันในวงนะ เขาเป็นคนที่มีความสม่ำเสมอกับเพื่อนมาก สุดท้ายหากซันนี่รับรู้ ขอให้เขาไปอยู่ในภพภูมิที่ดี ไม่ต้องห่วงคุณแม่และสุนัข ขอให้เพื่อนไปเป็นนางฟ้าบนสวรรค์ และได้ไปเป็นผู้หญิงตามที่อยากจะเป็นแต่สิ่งที่ตนยังติดใจอยู่ตอนนี้ เขาน่าจะบอกปัญหาเพื่อน ๆ จะได้รีบช่วยทัน

สำหรับเรื่องที่สังคมสงสัยเกี่ยวกับการวางร่างของคุณซันนี่ ไว้ที่ริมถนนนั้น ด้าน "ไทด์-เอกพัน บรรลือฤทธิ์" เผยว่า ทางศูนย์เอราวัณ ซึ่งเป็นศูนย์ที่ได้รับแจ้งขอความช่วยเหลือว่ามีชายหมดสติอยู่บนห้อง ทางศูนย์เอราวัณจึงส่งรถและเจ้าหน้าที่เข้ามาช่วยเหลือ พอเปิดห้องเข้าไปก็มีสภาพอย่างที่หลายคนได้เห็นภาพข่าวกัน มีอึสุนัขอยู่เต็มพื้น ทำให้ไม่สามารถเข้าไปช่วยเหลือในห้องนั้นได้ เนื่องจากอากาศไม่พอ ไม่โปร่ง รวมถึงมีกลิ่นของอึสุนัข ทางน้องเจ้าหน้าที่จึงอุ้มคุณซันนี่มาที่ห้องน้ำเพื่อล้างตัว เพราะตามตัวของคุณซันนี่มีแต่อึ และสิ่งปฏิกูลเลอะอยู่เต็มตัว

จากนั้นทางเจ้าหน้าที่ก็ได้พาตัวคุณซันนี่ลงมาข้างล่างเพื่อมาทำ CPR และในเวลานั้นคุณซันนี่ยังมีสติ อยู่ในสภาพเปลือย แล้วนำผ้าเช็ดตัวคลุมไว้ แต่พอทำ CPR ไปแล้ว จู่  คุณซันนี่ก็น็อกหมดสติไป ทำ CPR แล้วไม่ขึ้น จนกระทั่งเสียชีวิต

จากนั้น หน่วยงานที่ 2 ที่เข้าไปช่วยเหลือคืออาสามูลนิธิร่วมกตัญญู ที่ได้รับแจ้งว่าคุณซันนี่เสียชีวิตแล้ว จึงเข้ามาเก็บศพตามขั้นตอน ซึ่งการที่ร่างอยู่ที่บริเวณนั้นเนื่องได้ทำการ CPR บริเวณนั้น พอเสียชีวิตแล้วก็ต้องปล่อยร่างไว้ตรงนั้นรอให้เจ้าหน้าที่มาเก็บศพ จากนั้นก็เป็นหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญูที่นำร่างของคุณซันนี่มาส่งที่นิติเวช

ส่วนเรื่องที่บางคนบอกว่าการเช็ดตัวหรืออาบน้ำ มีผลต่อการเสียชีวิตหรือไม่นั้น ตนก็ไม่สามารถตอบได้ แต่ทางแพทย์ก็บอกว่าคุณซันนี่เสียชีวิตจากการที่โลหิตไม่ไหลเวียนตามร่างกาย คาดว่าเรื่องน้ำที่เช็ดตัวไม่น่ามีส่วนเกี่ยวข้อง เพราะผู้ที่ป่วยเป็นไทรอยด์ระบบเกี่ยวกับการเต้นหัวใจก็จะผิดปกติอยู่แล้ว

ด้าน "โบ๊ท วิบูลย์นันท์" อาสาสมัครกู้ภัยร่วมกตัญญู บอกว่า ตนได้รับแจ้งจากรุ่นน้องอาสาสมัครเหมือนกัน เวลาประมาณ 15.40 น. ซึ่งแจ้งว่าคุณซันนี่เสียชีวิต ตนก็ได้เข้าไปดู เมื่อถึงที่เกิดเหตุก็ได้เจอกับน้องพนักงานแผนกนิติเวช และสายตรวจ สน.วังทองหลาง ร่วมถึงนิติบุคคลด้วย เมื่อไปถึงก็เห็นเป็นศพคลุมผ้าดิบเอาไว้ มารู้ที่หลังอีกทีว่าเป็นศพเปลือยกาย ส่วนตัวไม่ได้รู้ต้นสายปลายเหตุเป็นยังไง ตอนแรกยังไม่รู้เลยว่าคือคุณซันนี่ มารู้ทีหลัง

พอไปถึงก็ได้ขออนุญาตตำรวจ และให้ตำรวจเป็นสักขีพยานในการขยับร่างผู้เสียชีวิต สืบทราบมาว่ามีนิติบุคคลคอยดูแลคุณซันนี่มานานแล้ว นิติบุคลได้รับแจ้งว่าห้องได้ส่งกลิ่นรบกวน พอเข้าไปก็เจอคุณซันนี่นอนอยู่บนเตียง และร่างกายเลอะปัสสาวะของตัวเอง และยังมีสติสัมปชัญญะครบถ้วน ตอนพบคือคุณซันนี่สวมเสื้อนอนเป็นสายเดี่ยว และสวมกางเกงชั้นใน พอได้รับแจ้งหน่วยของตนก็ได้ไปพร้อมกับรถกู้ชีพหน่วยเอราวัณ สิ่งที่เข้าไปทำคือเข้าไปเป็นผู้ช่วยของทางทีมเอราวัณ ทางนิติบุคคลและเพื่อนบ้านก็ไม่ได้แจ้งว่าเป็นคุณซันนี่ เพราะต้องการความเป็นส่วนตัว พอทีมไปถึงก็ทำการเคลื่อนย้ายร่างลงมาชำระล้างทำความสะอาดร่างกายด้านล่าง เตรียมเคลื่อนย้ายไปโรงพยาบาลต่อไป

ส่วนประเด็นที่มีคนสงสัยเรื่องการนำคุณซันนี่มาล้างตัวด้วยน้ำเย็น อาจจะทำให้เกิดอาการช็อกได้หรือไม่ ตนไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ แต่มองว่าทางทีมที่ช่วยต้องรู้อยู่แล้วว่าต้องทำอย่างไร อาจจะยังไม่ถึงขั้นล้าง แต่เป็นแค่การเช็ดตัว ในส่วนประเด็นว่าทำไมถึงวางร่างผู้เสียชีวิตไว้ที่พื้น ก็ต้องรอให้ทีมเอราวัณศูนย์สั่งการเป็นคนตอบ ตนตอบแทนให้ไม่ได้ ยืนยันทางร่วมกตัญญูไม่ได้เป็นคนวางไว้ ขอตอบแทนทีมงานไว้ตรงนี้ด้วย ทางทีมตนตระหนักและให้เกียรติตรงนี้อยู่แล้ว

ในส่วนของการซีพีอาร์น่าจะใช้เวลาขณะนั้นอยู่ประมาณ 10-15 นาที ส่วนที่คนมองว่าการช่วยไปด้วยเคลื่อนรถไปด้วย ส่วนตัวมองว่าเป็นเรื่องเฉพาะทาง เชื่อว่าคงไม่มีใครอยากให้เกิดการเสียชีวิตอยู่แล้ว คงพยายามทำเต็มที่แล้ว แต่ด้วยผู้เสียชีวิตป่วยค่อนข้างที่จะหลายโรค สุดท้ายเราก็คาดเดาไม่ได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น

ซึ่งอาการป่วยของคุณซันนี่ที่ได้ทราบกันมาก็จะมีด้วยกัน 3 โรค ได้แก่ โรคไทรอยด์เป็นพิษ มะเร็งในช่องท้อง และโรคเบาหวาน ซึ่งอาการก็ค่อนข้างรุนแรงพอสมควร สุดท้ายขอตอบแทนพี่น้องอาสาสมัครทุกท่าน เชื่อว่าใครก็ตามที่ทำหน้าที่ตรงนี้ทำด้วยใจ สุดความสามารถของทุกเรื่อง เหรียญมีสองด้าน ขอให้สังคมเปิดใจรับฟังหลายด้าน ปัจจุบันการทำงานต้องเป็นระบบ วอนสังคมมองหลายด้าน