กรณีผู้ใช้ Facebook "Sivakorn Boat Krupanid" ออกมาเล่าประสบการณ์สยองขวัญชวนหลอนของตนเองและเพื่อน หลังเดินทางไปล่องแพเดินป่า จ.ชุมพร พร้อมทิ้งทายพิกัดเส้นทางสุดหลอน ระบุว่าจะบอกว่าควรมีสติในการเดินทางทุก ๆ ครั้ง จนกลายเป็นไวรัล พาชาวเน็ตขนลุกไปตาม ๆ กัน แห่คอมเมนต์และแชร์กันสนั่น
ล่าสุด วันที่ 15 ก.ค. 65 นายศิวกร ครุพาณิชย์ อายุ 28 ปี ยืนยันว่าเรื่องราวที่โพสต์ เป็นเรื่องจริงที่ตนเองได้เจอมา ส่วนภาพประกอบตนไปโหลดมาจาก google เเล้วนำมาตกเเต่งเพื่อเพิ่มอรรถรส ให้คนอ่านเห็นภาพ เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 15 มิ.ย. 65 ตนเองพร้อมเพื่อนรวม 15 คน เดินทางไปเที่ยวล่องแพ เดินป่า ในพื้นที่ จ.ชุมพร โดยขาไปนำรถไปจอดไว้ที่ จ.ระนอง จอดรถไว้ในที่ว่าการอำเภอกะเปอ นั่งรถของผู้ใหญ่ที่รู้จักกันเข้าไปเที่ยว หลังเที่ยวเสร็จออกจากป่าประมาณ 4 โมงเย็น ก็เดินทางย้อนกลับไปเอารถที่ระนอง
ปรากฏว่ารถยนต์ที่จอดไว้ยางรั่ว ต้องรอช่างมาเปลี่ยนยางให้จนถึงเวลาประมาณ 1-2 ทุ่ม ฝนตกตลอดเวลา หลังจากเปลี่ยนยางเสร็จเพื่อนส่วนใหญ่ก็แยกย้ายกันกลับกรุงเทพฯ ส่วนตนกับเพื่อนรวม 4 คน เดินทางไปพักผ่อนที่โฮมสเตย์ใน จ.ชุมพร ระหว่างทางก็มีการเปิด google maps เมื่อขับไปสักพักก็มองเห็นไกล ๆ เหมือนคนยืนอยู่ข้างถนน เเต่เมื่อขับรถเข้าไปใกล้ปรากฏว่าคนที่ตนเห็น ได้กระโดดหายเข้าไปในป่า ตอนนั้นพยายามถามคนบนรถว่าเห็นอะไรกันไหม แต่ไม่มีใครเห็นเลย
พอขับไปเรื่อย ๆ google maps ก็แนะนำเส้นทางลัด ซึ่งจะช่วยย่นระยะเวลาการเดินทางได้เป็นชั่วโมง ตนเองจึงปรึกษากับคนในรถ ทุกคนเห็นพ้องกันว่าลองดู จึงตัดสินใจขับไปตามเส้นทางที่แนะนำ ปรากฏว่าเป็นเส้นทางลัดเลาะตัดผ่านภูเขา สองข้างทางมืดสนิท ไม่มีบ้านคน เมื่อขึ้นไปสูงเรื่อย ๆ เพลงที่เปิดอยู่ในรถจากแผ่น CD ก็ดับ ส่วน google maps ก็ไม่สัญญาณ บรรยากาศเหมือนกับหนังผี จนขับไปเจอกับด่านทหาร ถามว่าทางข้างหน้าเป็นอย่างไร ไปถึงตัวอำเภอไหม ทางเจ้าหน้าที่ก็บอกว่าไปได้ ถนนใช้สัญจรได้ตามปกติ ตนเองก็ขับต่อ
เมื่อขับไปเรื่อย ๆ ก็ผ่านโค้งอีกหลายโค้ง แต่สะดุดตาอยู่โค้ง มีศาลพระภูมิทิ้งตลอดข้างทาง ก็ไม่คิดอะไร พอไฟหน้ารถสาดไปที่หัวโค้ง ปรากฏว่าเห็นผู้ชายหน้าเหลี่ยม ๆ ตัวดำ ๆ ผมยาว ยืนแลบลิ้นอยู่ตรงสุดทางโค้งฝั่งซ้ายมือของรถ ตอนนั้นคิดว่าใช่แน่นอน จึงเอามือปิดตาเพื่อนชื่อเฟิน ที่นั่งข้างคนขับ เพราะเฟินกลัวผี พยายามขับรถต่ออย่างมีสติ ตอนนั้นคนในรถหลับทั้งหมด ตนก็ปลุกให้ช่วยกันดูว่าถนนเส้นนี้ชื่อถนนอะไร
ระหว่างทางก่อนถึงแยกไฟแดง ขับอยู่ดี ๆ ก็มีผู้ชายวิ่งเข้ามาใส่หน้ารถ เห็นเป็นผู้ชายผิวดำ ตัวสูงใส่เสื้อสีขาว มีแถบสีแดงใส่กางเกงยีนส์ ตนเองตกใจจึงหักหลบและจอดรถ พอเปิดกระจกไปมอง ทุกอย่างกับว่างเปล่ามีแค่เพียงความมืด ครั้งนี้ตนไม่ได้เห็นคนเดียว เพื่อนชื่อเฟินซึ่งนั่งข้าง ๆ ก็เห็นด้วยเหมือนกัน เมื่อไปถึงโฮมสเตย์จึงเล่าเหตุการณ์ให้ป้าเจ้าของฟัง ทางป้าก็บอกว่าถนนเส้นนี้ดึก ๆ ไม่มีใครขับกันแล้ว คนเจอกันเยอะมาก มีคนเกิดอุบัติเหตุหลายครั้งเพราะเจอคนตัดหน้าแบบนี้เลย คนส่วนใหญ่ที่เจอเป็นคนนอกพื้นที่ ตนเองก็มาคิดชั่งใจดูว่าสรุปสิ่งที่เห็นเป็นผีหรือคน หากเป็นผีก็เชื่อว่ามาไม่ดีแน่นอน หรืออาจต้องการตัวตายตัวแทนหรือไม่
นายศิวกร บอกอีกว่า ตนเองได้บอกกับผีเหล่านั้นว่าถ้าแน่จริงมาให้หวยสิ ถ้าถูกหวยจะทำบุญไปให้ หลังจากนั้นปรากฏว่าถูกหวย 2 งวดติดกัน งวดเเรกซื้อเลขทะเบียนรถเก๋งคันที่ขับในวันเกิดเหตุ ถูกเลขท้าย 2 ตัว เลข 92 ได้เงิน 6,000 บาท งวดต่อมาก็ซื้อเลขทะเบียนรถยนต์อีกคัน คราวนี้ถูกเลขท้าย 3 ตัว 542 ได้เงินอีก 9,000 บาท รวม 2 งวด 15,000 บาท หลังจากถูกหวยจึงตัดสินใจทำบุญอุทิศส่วนกุศลไปให้
หลังจากเวลาผ่านมา 1 เดือน จึงนำเรื่องราวดังกล่าวมาโพสต์ลงในเฟซบุ๊ก เป็นอุทาหรณ์กับคนที่ขับรถให้มีสติตลอดเวลา ส่วนตัวเชื่อว่าผีมีจริง ส่วนคนทั่วไปจะเชื่อในสิ่งที่ตนเล่าหรือไม่ ก็อยู่ที่วิจารณญาณของแต่ละคน
ทีมข่าวได้เดินทางมายังจุดที่ผู้โพสต์อ้างว่าได้เจอสิ่งลี้ลับกระโดดตัดหน้ารถ ถนนทางหลวงหมายเลข 4011 หลักกิโลเมตรที่ 55 ต.นาสัก อ.สวี จ.ชุมพร เป็นเนินและโค้งยาวกว่า 1 กม. พบว่าเป็นถนนปรับปรุงใหม่ เส้นจราจรชัดเจน และไม่พบร่อยรอยการเกิดอุบัติเหตุมาก่อน ส่วนสภาพแวดล้อมทั้งสองข้างทางฝั่งซ้ายเป็นสวนยางไม่มีบ้านพักอาศัย ส่วนฝั่งขวาเป็นสวนทุเรียนมีบ้านพักอาศัยอยู่หลายหลัง
นางทัศนี ศรีสินธุ์ ผู้ใหญ่บ้านไทยพัฒนา หมู่ 7 ต.น่าสัก อ.สวี จ.ชุมพร บ้านอยู่ใกล้กับทางโค้งว เล่าว่า ถนนเส้นนี้มีโค้งเล็กโค้งน้อยเยอะจริง ๆ อดีตเป็นถนนลูกรังก่อนมีการพัฒนาปรับปรุงโดยกรมทางหลวง จนเป็นถนนอย่างที่เห็น จึงทำให้ปัจจุบันเป็นเส้นทางคมนาคมหลักอีก 1 เส้น ที่เชื่อมต่อไปยัง จ.ระนอง และไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด
ขณะเดียวกันจุดดังกล่าวก็ไม่ได้เรียกว่าโค้งร้อยศพ เพราะไม่เคยมีอุบัติเหตุถึงขั้นเสียชีวิต แต่ยอมรับว่า 30 ปี ก่อนยุคที่ จ.ชุมพรรุ่งเรือง ในเรื่องของการปลูกกาแฟ หลังจากชาวสวนนำกาแฟไปขาย กว่าจะกลับเข้ามาในหมู่บ้านก็มืดค่ำ ชาวสวนบางคนก็มักจะพกเงินจำนวนหลายบาท ทำให้มีการดักปล้นกัน มีการดักปล้นบริเวณโค้งดังกล่าว มีผู้เสียชีวิตถึง 3 ศพ เป็นชาย 2 หญิง 1 คน จำไม่ได้ว่าจับคนร้ายได้หรือไม่ เพราะตนเด็กมาก ๆ เป็นเหตุการณ์เดียวที่สร้างความหวาดกลัวให้ชาวบ้านย่านนี้ แต่ปัจจุบันมีการพัฒนาขึ้นก็ไม่มีเหตุ อุกฉกรรจ์หรืออุบัติเหตุร้ายแรง
ส่วนเหตุการณ์ที่ผู้โพสต์มีการระบุว่าพบชายลี้ลับตัดหน้ารถและกระโดดเข้าป่าไปนั้น ส่วนตัวไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นสิ่งลี้ลับหรือไม่ เพราะตนอยู่มา 40 กว่าปีก็ไม่เคยเจออะไร หรือหากเป็นคนจริง ๆ ก็อาจจะเป็นไปได้ เพราะในหมู่บ้านนี้ชายสติไม่ดีชอบกินเหล้าเมายาเดินไปเดินมาอยู่เป็นประจำ ตนจึงไม่แน่ใจว่าเป็นชายคนเดียวกันหรือไม่ ดังนั้นเหตุการณ์ที่นักท่องเที่ยวได้บอกเล่าก็ไม่ได้ทำให้ตนเองหวาดกลัว รวมถึงกลุ่มชาวบ้านไมมีใครพูดถึงเรื่องดังกล่าวด้วยเช่นกัน
ทีมข่าวเดินทางต่อไปอีก 5.2 กม. ก็พบทางโค้งจุดที่ทิ้งศาลพระภูมิ ศาลตาศาลยาย เรียงรายยาวกว่า 20 เมตร คาดว่าเป็นเดียวกันกับที่ผู้โพสต์เจอ จากการสำรวจพบเป็นทางโค้งหักศอก ค่อนข้างอันตราย พบว่ารถที่สัญจรไปมาส่วนใหญ่จะบีบแตร 1 ครั้ง หรือบีบแตรยาว จึงไม่ชัดว่าเป็นการบีบส่งสัญญาณแจ้งรถสวนทางโค้ง หรือบีบให้ซากศาลพระภูมิตามความเชื่อ
Advertisement