กรณีเมื่อเวลา 06.30 น. วันที่ 14 ก.ค. 65 ร.ต.อ.ฉัตรชัย ภาชนะวรรณ รองสารวัตรสอบสวน สภ.หนองแวงควง ได้รับแจ้งเหตุว่ามี คนพบศพชายถูกของมีคมปาดคอในโอ่งน้ำ ของบ้านในหมู่ 1 ต.หนองแวงควง อ.ศรีสมเด็จ จ.ร้อยเอ็ด
ที่เกิดเหตุพบโอ่งน้ำตั้งอยู่ข้างบ้าน ภายในโอ่งมีน้ำเต็มโอ่ง ตรวจสอบภายโอ่งพบศพชายสวมเสื้อเชิ้ตแขนสั้น สีลายส้ม-กรม นอนคว่ำหน้าอยู่ภายโอ่ง ผู้เสียชีวิตคือนายไชยยุทธ ผากาเกตุ อายุ 51 ปี เจ้าหน้าที่จึงทำการนำศพออกมา ตรวจสอบพบรอยปาดด้วยของมีคม ยาวประมาณ 10 เซนติเมตร ลึกประมาณ 5 เซนติเมตร ตัดหลอดลม บริเวณต้นคอของผู้ตาย
ตรวจสอบบริเวณโดยรอบพบมีดอีโต้ และมีดทำครัว 2 ด้าม เปื้อนเลือดวางอยู่บนเตียง ตั้งอยู่บริเวณหน้าบ้านของผู้ตาย ห่างจากจุดพบศพประมาณ 100 เมตร
ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางมายังจุดเกิดเหตุที่พบศพผู้เสียชีวิต เป็นบ้านของนางลัดดาภรณ์ สมศิลา อายุ 47 ปี ลักษณะเป็นบ้านสองชั้น ครึ่งไม้ครึ่งปูน ด้านข้างบ้านของนางลัดดาภรณ์ จะตั้งโอ่งน้ำไว้ 2 ใบ โดยโอ่งใบด้านหลัง คือใบที่พบศพผู้เสียชีวิต
ระหว่างที่ทีมข่าวลงพื้นที่พบว่าโอ่งดังกล่าว มีความกว้างประมาณ 1.4 เมตร ความลึก 1.1 เมตร มีน้ำปมเลือดของผู้ตายหลงเหลืออยู่ในโอ่ง สำหรับโอ่งน้ำจุดที่เจอศพผู้ตายนั้น อยู่ห่างจากบ้านของผู้ตาย เป็นจุดเกิดเหตุอีกจุด ประมาณ 100 เมตร เป็นบ้านที่อยู่ฝั่งตรงข้ามถนนกัน
ต่อมาทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางมายังบ้านของผู้ตาย เป็นจุดเกิดเหตุจุดที่ 2 ลักษณะบ้านของผู้เสียชีวิต เป็นบ้านสองชั้น ที่หน้าบ้านผู้ตาย มีแคร่ไม้อยู่ 1 อัน มีเปลนอนอยู่ 1 อัน ที่พื้นดินกึ่งกลางระหว่างแคร่ไม้ และเปลนอนนั้นมีกองเลือดขนาดใหญ่อยู่ 1 กอง
ทีมข่าวเดินตรวจสอบรอบบ้านของผู้เสียชีวิต พบว่า บริเวณรอบบ้านผู้ตาย ฝั่งด้านซ้าย ซึ่งติดกับบ้านของนายเอส ลูกพี่ลูกน้องของผู้ตาย จะพบหยดเลือดหยดตามพื้นเป็นหยดเล็กหยดน้อย ประมาณ 3 จุดอีกด้วย และจากการเดินตรวจสอบ พื้นที่จากบ้านผู้เสียชีวิต ไปถึงบ้านหลังที่พบศพ จากการสังเกตเบื้องต้นยังไม่เจอหยดเลือดแต่อย่างใด
นางลัดดาภรณ์ สมศิลา เจ้าของบ้านที่เจอศพ เล่าว่า วันนี้เวลา 05.00 น. ตัวเองได้ตื่นนอนขึ้นมาเพื่อจะนึ่งข้าวเหนียว ระหว่างเปิดน้ำที่โอ้งใบด้านหลังใส่หม้อนึ่งนั้น ตัวเองสังเกตว่าน้ำที่ตัวเองนำมาใส่หม้อ มีสีแดงจาง ๆ คิดว่าเป็นสนิม แล้วเอามาเททิ้ง จากนั้นตัวเองจึงได้เอาหม้อนึ่งใบใหม่ ไปเปิดน้ำจากโอ่งอีกใบ แล้วก็ทำการนึ่งข้าวเหนียวจนเสร็จ พอข้าวสุกตัวเองก็ไปใส่บาตรพระ ซึ่งตอนนั้นยังไม่ทันได้เอะใจ
หลังใส่บาตรพระเสร็จ ตัวเองได้กลับไปที่โอ่งที่เจอศพอีกครั้ง แล้วเจอรองเท้าของผู้ตาย 1 คู่ วางไว้ติดกับโอ่งใบดังกล่าว ตอนนั้นตัวเองจึงเริ่มรู้สึกเอะใจ แล้วไปเรียกญาติที่อยู่บ้านฝั่งตรงข้าม ให้พาไปบ้านของนายไชยยุทธ ผู้เสียชีวิต กระทั่งตัวเองและญาติได้ไปที่บ้านของผู้เสียชีวิต ก็เจอมีด 2 เล่ม มีดทำครัว และมีดอีโต้วางอยู่บนแคร่ไม้หน้าบ้านผู้ตาย พร้อมกับเจอกองเลือดอยู่ที่พื้นดิน ติดกับเปลนอนของผู้ตายอีกด้วย จากนั้นตัวเองจึงเริ่มรู้สึกใจคอไม่ดี แล้วพากันเดินมาดูที่โอ่งน้ำใบดังกล่าว
ตัวเองได้เรียกนายโย สามีตัวเอง และชาวบ้านที่อยู่แถวนั้น พากันไปดูโอ่งใบดังกล่าวก็มีชาวบ้านเป็นชายคนหนึ่งเอาไม้เขี่ยในโอ่ง และรู้สึกว่าเหมือนไม้ไปสัมผัสกับอะไรบางอย่าง จึงรีบพากันไปแจ้งตำรวจ ก่อนพบศพในโอ่ง
เวลา 13.00 น. พ.ต.ท. เนติวุธ สุดหนองบัว สว.สภ.หนองแวงควง ลงพื้นที่มาดูจุดเกิดเหตุที่พบศพบริเวณบ้านของนางลัดดาภรณ์ และจุดที่เจอกองเลือดที่บ้านผู้ตาย มีเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนนายหนึ่ง นำเสื้อผ้าใส่ถุงออกมาจากบ้านหลังหนึ่งที่อยู่ติดกับบ้านผู้ตาย บ้านที่ติดกับบ้านผู้ตาย ฝั่งที่เจอหยดเลือด ทีมข่าวจึงสอบถามเจ้าหน้าที่ว่าในถุงคืออะไร เจ้าหน้าที่ก็ตอบว่าเป็นเสื้อผ้าของผู้ต้องสงสัย
ทีมข่าวจึงเดินเข้าไปที่บ้านหลังที่เจ้าหน้าที่ได้ไปเก็บเสื้อผ้าบุคคลในบ้านออกมาตรวจสอบ พบกับนางพั้ว เฉลยพจน์ อายุ 77 ปี ป้าคนตาย และแม่ของนายเอส เล่าว่า เมื่อเวลาประมาณ 12.50 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้มาพาตัวนายเอส ลูกชายตัวเองไปสอบปากคำที่โรงพัก และเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้มาเก็บเสื้อผ้าของนายเอส ลูกชายตัวเองไปประมาณ 10 ตัว แต่ก็ไม่รู้ว่าเจ้าหน้าที่เอาไปทำอะไร
สำหรับนายเอส ลูกชายตัวเอง เป็นลูกพี่ลูกน้องกับคนตาย และตัวเองเป็นป้าของคนตาย ที่ผ่านมา นายเอส ลูกชายตัวเองก็ไม่เคยไปมีเรื่องกับผู้ตายแต่อย่างใด ทั้ง 2 คนเขารักกันดี
ทีมข่าวเดินทางมายัง สภ.หนองแวงควง พูดคุยกับนายอภิไท หรือ เอส อายุ 43 ปี ลูกพี่ลูกน้องกับผู้เสียชีวิต เป็นเพื่อนบ้านที่มีบ้านอยู่ติดกัน เล่าว่า เมื่อคืนนี้ตัวเองนอนดูโทรทัศน์ตั้งแต่เวลา 19.00 น. ซึ่งก็ไม่ได้ยินเสียงอะไรผิดปกติ และเวลา 23.00 น. ตัวเองก็เข้านอนบนห้องนอนบ้านชั้น 2 และนอนหลับ กระทั่งมาทราบข่าวว่านายไชยยุทธเสียชีวิตช่วงเช้า
ส่วนตัวแล้วตัวเองก็มองว่านายไชยยุทธน่าจะฆ่าตัวตาย 50 เปอร์เซนต์ และน่าจะถูกฆาตกรรม 50 เปอร์เซนต์ ทีมข่าวสอบถามนายอภิไท ว่าที่ผ่านมานายไชยยุทธเคยมีปากเสียงกับใครหรือไม่ นายไชยยุทธบอกว่า เท่าที่ทราบมาตัวเองเห็นว่าเมื่อประมาณ 2 สัปดาห์ที่แล้ว นายไชยยุทธได้นั่งดื่มเหล่ากับนายเจี๊ยบ แล้วมีปากเสียงกัน แล้วผู้ตายก็ไล่นายเจี้ยบกลับบ้าน ส่วนตัวเองขอยืนยันว่า ตัวเองไม่เคยมีเรื่องหรือมีปัญหากับผู้ตายแต่อย่างใด เพราะก็เป็นลูกพี่ลูกน้องกันด้วย ตัวเองไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการตายของนายไชยยุทธแต่อย่างใดอีกด้วย
เวลา 15.00 น. ชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 4 ได้ลงพื้นที่จุดเกิดเหตุที่บ้านของผู้เสียชีวิต เดินสำรวจรอบบ้านของผู้ตาย เพื่อหาหลักฐาน และรอยเลือดเพิ่มเติม ไปยังจุดพบศพผู้ตาย ได้นำเสื้อผ้าของนายโย เจ้าของบ้านไปตรวจสอบอีกด้วย
นายโดโด้ อายุ 20 ปี ลูกชายของนายโย และนางลัดดาภรณ์ เล่าว่า ครอบครัวตัวเองอยู่กับทั้งหมด 4 คน เมื่อคืนนี้พวกตัวเองทั้ง 4 คน นอนอยู่บนชั้น 2 ของบ้าน เวลาประมาณเกือบตี 1 นายโย พ่อตัวเองได้ลงมาจากบ้าน พาน้องขายมาฉี่ แล้วก็ขึ้นไปบนบ้าน และเวลาประมาณตี 1 ตัวเองก็ได้ลงมาฉี่ แล้วก็ขึ้นไปนอนบนบ้าน ซึ่งก็ไม่ได้ยินเสียงผิดปกติ หรือมีพิรุธแต่อย่างใด และไม่ได้ยินเสียงคนทะเลาะกัน มาจากบ้านของนายไชยยุทธผู้เสียชีวิตอีกด้วย
สำหรับตัวเอง เมื่อวานนี้เวลาประมาณ 16.00 น. ได้มีเหตุการณ์แปลก คือนายไชยยุทธ ผู้ตาย มีศักดิ์เป็นอาของตัวเอง เขาได้เดินมาบ้านตัวเอง แล้วเอาโทรศัพท์มือถือ กระเป๋าเงิน กุญแจบ้าน บัตรเอทีเอ็ม และบัตรประจำตัวประชาชนมาฝากตัวเอง แต่เขาก็ไม่ได้พูดคุยอะไรกับตัวเอง แล้วก็หันหลังเดินกลับบ้าน สำหรับตัวเองก็มีความสงสัยเหมือนกันว่าถ้าหากนายไชยยุทธจะฆ่าตัวตายจากจุดที่เจอเลือด ที่บ้านของเขาแล้วเดินมาลงโอ่งน่ำที่บ้านตัวเอง ทำไมระหว่างบ้านผู้ตายมาบ้านตัวเองถึงไม่มีหยดเลือด เพราะแผลที่คอผู้ตาย ก็ค่อนข้างใหญ่
เวลา 17.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้พาตัวชาวบ้าน 6 คน ประกอบด้วย นายเอส นายเจี้ยบ เพื่อนที่ชอบดื่มเหล้ากับคนตาย นายหน่อย นายโย เจ้าของบ้านที่พบศพ และเพื่อนคนตายอีก 2 คน ขึ้นรถไปตรวจร่างกาย และเก็บตัวอย่างดีเอ็นเอ เนื่องจากเป็นบุคคลที่ใกล้ชิดกับผู้ตาย
นายเจี๊ยบ เพื่อนของผู้เสียชีวิต เล่าว่า ปกติตัวเองและผู้ตายจะมาดื่มเหล้าด้วยกันค่อนข้างบ่อย เพราะตัวเองอยู่บ้านติดกับฝั่งด้านหลังบ้านคนตาย จึงสนิทกับ ช่วงกลางวันเมื่อวานนี้ ตัวเองเห็นนายไชยยุทธนั่งอยู่หน้าบ้าน และได้เรียกเขากินข้าว แต่เขาไม่ได้มากิน
ส่วนเมื่อคืนนี้ ตัวเองนอนอยู่บ้านตลอด ไม่ได้ยินเสียงอะไร และไม่ได้มาเจอกับผู้ตายเพราะเมื่อวานบ้านผู้ตาย ไม่ได้มีการตั้งวงเหล้า กระทั่งช่วงเข้าวันนี้ ตัวเองถึงมาทราบว่านายไชยยุทธ เสียชีวิต
ตัวเองยอมรับว่าที่ผ่านมาเวลาตั้วนั่งดื่มเหล้ากับผู้ตายแล้วจะชอบทะเลาะกัน จนผู้ตายนั่งไล่กลับบ้าน แต่ก็ไม่ได้ทะเลาะกันรุนแรงแต่อย่างใด เพราะนิสัยผู้ตายเขาจะชอบไล่เพื่อนในวงเหล้ากลับบ้านอยู่แล้ว เวลาที่เพื่อนเมาหนัก เหตุที่เกิดขึ้นตัวเองคิดว่านายไชยยุทธ น่าจะฆ่าตัวตายมากกว่าถูกฆาตกรรม
ด้านนางค้ำ ผากาเกตุ อายุ 74 ปี แม่ของผู้เสียชีวิต เล่าว่า ตัวเองออกจากบ้านไปจำศีลที่วัดตั้งแต่วันที่ 12 ก.ค.65 จึงไม่ได้อยู่กับลูกชาย ปกติจะอยู่บ้านกันสองคนกับลูกชายมาตลอด กระทั่งช่วงเช้าวันนี้ มีหลานไปเรัยกตัวเอง บอกว่าลูกชายถูกพบศพในโอ่งน้ำ แม่ผู้เสียชีวิตเล่าต่อว่าจากสภาพจุดที่พบศพลูกชาย และจุดที่มีกองเลือด หน้าบ้านของตัวเอง ค่อนข้างที่จะมีระยะไกลกัน ตัวเองก็สงสัยว่าถ้าลูกชายฆ่าตัวตายด้วยการใช้มีดปาดคอ ทำไมแผลถึงใหญ่และลึกขนาดนั้น และอีกอย่างลูกชายจะเดินสวมรองเท้า มาลงโอ่งน้ำได้ ตัวเองได้แค่สงสัย แต่ที่เหลือก็ให้ตำรวจเป็นคนเป็นคนดำเนินการเรื่องคดี
ยอมรับว่าลูกชายเป็นคนชอบดื่มเหล้าเป็นประจำ แต่ก็ไม่เคยเห็นมีเรื่องกับใครมาก่อน เมื่อคืนนี้เวลาประมาณ 01.00 น. ขณะตัวเองนั่งจำศีลอยู่ที่วัด ตัวเองได้ยินเสียงลูกชายเรียกตัวเองข้าง ๆ หูว่า "แม่ แม่ แม่" พอตัวเองชะโงกหน้าหาลูกชาย ตัวเองก็ไม่เจอตัวลูกชายแต่อย่างใด เหตุครั้งนี้ ถ้าลูกชายถูกคนร้ายก่อเหตุฆ่าตายจริง ตัวเองก็ให้คนร้ายถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย
Advertisement