เมื่อคืนวันที่ 10 ก.ค. 65 เวลา 20.30 น. ร.ต.อ.บุญส่ง หวังแอบกลาง รองสารวัตรสอบสวน สภ.หนองบุญมาก จ.นครราชสีมา ได้รับแจ้งเหตุพบ นางเอมอร อินทร์กานอน อายุ 33 ปี ชาวหมู่บ้านหนองตะไก้ หมู่ที่ 4 ต.หนองตะไก้ อ.หนองบุญมาก จ.นครราชสีมา เสียชีวิตอยู่ที่ปั๊มน้ำมันเก่า ปากทางเข้าหมู่บ้านหนองตะไก้ หมู่ที่ 4 ต.หนองตะไก้ อ.หนองบุญมาก จ.นครราชสีมา โดยจากการตรวจสอบตามร่างกายของผู้ตาย พบร่องรอยบอบช้ำบริเวณลำคอ
จากข้อมูลแจ้งว่า นายประเสริฐ เงื่อนกลาง หรือ มด อายุ 32 ปี ชาว อ.หนองบุญมาก แฟนหนุ่มของผู้ตาย หลังจากที่ลงมือก่อเหตุแล้ว เจ้าตัวได้ไปขอน้ำดื่ม ที่จุดป้อมยามโรงแป้งมัน ห่างจากจุดเกิดเหตุ 2 กิโลเมตร พร้อมยอมรับว่าได้ลงมือฆ่าหญิงสาว ทางรปภ.จึงแจ้งน้องสาวผู้ตาย แต่เนื่องจากความมืดจึงหาศพไม่พบ จนมีพลเมืองดีส่องไฟรถช่วยค้นหา ทำให้พบร่างของผู้ตายในที่สุด
หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวบสอบที่เกิดเหตุ นายประเสริฐ หรือ มด ผู้ก่อเหตุ อาชีพขับรถบรรทุก ได้เดินทางมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตั้งข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย และนำส่งไปฝากขังที่ศาลจังหวัดนครราชสีมา เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
พร้อมสารภาพว่า คบหากับผู้ตายมานานกว่า 4 ปี สาเหตุที่ลงมือก่อเหตุเกิดจากความหึงหวง เพราะในระยะหลังสังเกตเห็นว่ามีชายหนุ่มขับรถมาส่งผู้ตายบ่อยครั้ง ทำให้เกิดมีปากเสียงกันเป็นประจำ ล่าสุดได้นัดกันมาเคลียร์ใจ แต่พูดคุยกันไม่รู้เรื่อง จึงใช้กำลังบีบคอผู้ตายจนขาดใจเสียชีวิต
วัทนี่ 11 ก.ค. 65 ที่วัดใหม่ศรีสุขราษฎบำรุง สถานที่ตั้งศพบำเพ็ญกุศลร่างของผู้ตาย นางสาวนิชธาวัลย์ อินทร์กานอน อายุ 27 ปี น้องสาวของผู้ตาย บอกว่า เมื่อคืนวานนี้มีชาวบ้านบอกตนว่าผู้ก่อเหตุวิ่งไล่รถเก๋งที่มาส่งพี่สาวตน จากนั้นก็ได้มีปากเสียงกับพี่สาวของตน ซึ่งตนก็ไม่คาดคิดมาก่อนว่าจะเกิดเหตุร้าย กาะทั่งในเวลา 20.00 น. พี่สาวของตนยังไม่กลับมาบ้าน ตนจึงขับรถมาที่ปั๊มร้างพบแต่รถจักรยานยนต์ของพี่สาว แต่ไม่พบพี่สาว ตนจึงกลับมาที่บ้าน แต่ขณะที่ตนกำลังกลับบ้าน ตนก็ได้รับแจ้งว่าผู้ก่อเหตุไปสารภาพกับ รปภ.โรงแป้งมันว่าบีบคอพี่สาวของตนเสียชีวิต
ตนจึงย้อนกลับไปที่ปั๊มร้าง แล้วพยายามหาพี่สาว แต่ไม่พบ เนื่องจากไม่มีไฟส่องสว่างจนได้ไฟหน้ารถกระบะช่วยส่อง จึงได้พบร่างพี่สาวที่แน่นิ่งนอนอยู่ข้างปั๊มริมกำแพง ตนได้พยายามเรียกพี่สาวตน แต่พี่สาวของตนก็ไม่ตื่น ในตอนแรกตนคิดว่าพี่สาวของตนแค่สลบ กระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจเกินทางมาตรวจสอบ พบว่าพี่สาวของตนเสียชีวิตแล้ว ปากเปลี่ยนเป็นสีม่วง ตัวซีด มีรอยมือที่บริเวณคอ และมีรอยช้ำที่บริเวณบ่า ตนเชื่อว่าผู้ก่อเหตุน่าจะกดพี่สาวของตนลงกับพื้น ใช้เข่าทับไหล่แล้วใช้มือบีบคอ จนพี่สาวของตนขาดใจตาย
จากนั้นในเวลา 21.00 น. ผู้ก่อเหตุก็ได้เดินทางไปมอบตัวที่โรงพัก อีกฝ่ายอ้างไปทั่วว่าภรรยามีชู้ ซึ่งแท้จริงแล้วไม่ได้เป็นแบบนั้น พี่สาวของตนไม่เคยมีชู้ ตนขอยืนยันว่าพี่สาวของตนทำแต่งาน ขี่รถจักรยานยนต์ไปยอดที่ปั๊มร้าง แล้วต่อรถบัสของโรงงานไปทำงานต่างอำเภอ เช่นกันกับขากลับที่พี่สาวจะนั่งรถบัสโรงงานมาลงที่ปั๊มร้าง ทั้งนี้ อาจจะมีบางวันที่พี่สาวอาจจะติดรถยนต์ของเพื่อนทั้งโรงงานเดียวกันและต่างโรงงานไปทำงานบ้าง
สาเหตุที่พี่สาวของตนทำแต่งาน เนื่องจากพี่สาวต้องหาเงินมาใช้หนี้พนันออนไลน์ให้ผู้ก่อเหตุ แต่ผู้ก่อเหตุก็มักจะหึงหวงหาว่าพี่สาวของตนไม่มีเวลาให้หรือแอบนอกใจ อีกทั้งยังต้องการให้พี่สาวของตนเป็นตุ๊กตาหน้ารถบรรทุก นั่งไปทำงานกับตัวเองทุกวัน สำหรับความสัมพันธ์ของผู้ก่อเหตุกับพี่สาวของตน ทั้งคู่คบหากันมา 4 ปี แต่ระยะหลังทั้งคู่เริ่มมีปัญหาจากการที่ฝ่ายชายติดพนันออนไลน์ จนทำให้ความสัมพันธ์เริ่มแย่ลง โดยในเดือนเมษายนที่ผ่านมา ผู้ก่อเหตุได้ล็อกคอพี่สาวของตน เพราะเถียงกันเกี่ยวกับการพนัน พี่สาวจึงคว้าไม้ตีศีรษะของผู้ก่อเหตุจนแตก สุดท้ายตนอยากให้ผู้ก่อเหตุกับครอบครัวช่วยค่าใช้จ่ายงานศพ แต่ขณะนี้ยังไม่มีใครติดต่อมา ซึ่งเมื่อวานนี้ตนไปพบกับครอบครัวฝ่ายชายที่โรงพัก ก็ไม่มีใครพูดอะไร
ทีมข่าวได้เดินทางมายังที่เกิดเหตุ นางเขียว (นามสมมติ) ผู้ดูแลปั๊มร้าง แม่ค้าใกล้ที่เกิดเหตุ บอกว่า ตนไม่รู้จักผู้ตายกับผู้ก่อเหตุเป็นการส่วนตัว แต่ผู้ตายนั้นจะขี่รถจักรยานยนต์มาจอดที่ปั๊มร้าง 6 โมงเช้า กลับมาถึง 6 โมงเย็น ซึ่งเปิดเป็นที่จอดรถ เสียค่าบริการ 10 บาท เพื่อเปลี่ยนรถ ขึ้นรถบัสไปโรงงานทุกวัน ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมาผู้ก่อเหตุได้แอบมาดักรอผู้ตายอยู่ตลอด เพื่อจะจับว่าภรรยามีคนอื่นจริงหรือไม่ จนกระทั่งเมื่อวานนี้เวลาประมาณ 18.30 น. มีรถเก๋งคันหนึ่งขับมาส่งผู้ตาย ผู้ก่อเหตุก็ได้เช้าไปมีปากเสียงกับผู้ตายในทันที พร้อมกับถือมีดพกวิ่งไล่รถเก๋ง แต่รถเก๋งได้ขับกลับออกไปก่อน จากนั้นผู้ก่อเหตุก็ได้ยืนเถียงกับผู้ตาย ตนพอจะได้ยินเสียงโวยวายอยู่บ้าง แต่จับใจความไม่ได้ อีกทั้งเมื่อพระอาทิตย์ตกก็ยิ่งทำให้ตนมองไม่เห็นอะไร เนื่องจากบริเวณปั๊มร้างไม่มีไฟส่องสว่าง
นายเตียงทอง โกนกะโทก อายุ 51 ปี รปภ.ที่พบกับผู้ก่อเหตุ บอกว่า เมื่อคืนวานนี้ เวลาประมาณ 19.00 น. ผู้ก่อเหตุได้ขี่รถจักรยานยนต์มาที่โรงงาน ในสภาพเท้าเปล่า และมีท่าทีเหนื่อยหอบ ผู้ก่อเหตุได้พูดว่า "ขอน้ำกินหน่อยครับพี่" ด้วยความคุ้นเคย เนื่องจากผู้ก่อเหตุเคยรับจ้างขับรถส่งของที่โรงงานมาก่อน ตนจึงพูดหยอกล้ออีกฝ่ายว่า "ไปหิวน้ำมาจากไหน" อีกฝ่ายจึงบอกกับตนว่า "ผมฆ่าคนตายมา"
ตนรู้สึกตกใจ จึงได้ถามไปว่า "ไปฆ่าใคร" ผู้ก่อเหตุตอบว่า "ผมฆ่าเมียผมครับ เมียโกหกผม เมียผมมีคนอื่น" ตนทำอะไรไม่ถูก จึงได้ชี้มือไปที่กระติกน้ำข้ามป้อมยาม เพื่อให้อีกฝ่ายไปตักน้ำดื่ม โดยเมื่อผู้ก่อเหตุดื่มน้ำเสร็จ ก็ได้ขี่รถจักรยานยนต์ขับออกไป พร้อมพูดกับตนว่า "เดี๋ยวตำรวจก็มาจับผมแล้ว คงไม่ได้เจอกันอีกหลายปี"
หลังจากนั้น ตนก็ได้รีบโทรหาคนรู้จัก เพื่อให้ช่วยประสานครอบครัวของผู้ตาย เพื่อที่จะได้ตรวจสอบว่าจริงหรือไม่ ทั้งนี้ ตนไม่ได้สนิทสนมกับผู้ก่อเหตุ เพียงรู้จักกันผิวเผินเท่านั้น และไม่รู้ที่มาที่ไปของสาเหตุของการก่อเหตุ อย่างไรก็ตาม ตนก็รู้สึกเวทนาในตัวของผู้ก่อเหตุและผู้ตาย เนื่องจากทั้งคู่เป็นสามีภรรยากัน ก็ควรใจเย็น ๆ แล้วพูดจากันดี ๆ
นางแจ๋ว เงื่อนกลาง อายุ 55 ปี แม่ของผู้ก่อเหตุ บอกว่า ตนไม่ทราบเหตุที่เกิดขึ้นจนลูกชายเข้ามอบตัว เนื่องจากตนอาศัยอยู่คนละหมู่บ้านกับลูกชาย ผู้ก่อเหตุแยกไปอยู่กับผู้ตาย โดยตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ลูกชายไม่เคยเล่าปัญหาอะไรให้ตนฟัง อีกทั้งตนก็ไม่ค่อยอยู่บ้าน เพราะตนนั่งรถไปทำงานกับสามี ซึ่งขับรถบรรทุกส่งของ
ตนรู้สึกตกใจและทำอะไรไม่ถูก ลูกชายพูดขณะมอบตัวว่า "ฆ่าเมียตาย" ซึ่งเหตุที่เกิดขึ้นเกิดจากอารมณ์ชั่ววูบ ลูกชายของตนไม่ได้ตั้งใจ เพราะพื้นฐานลูกชายไม่ใช่คนโมโหร้าย ส่วนการประกันตัว ทางครอบครัวคงไม่ได้ประกันตัว เพราะไม่มีเงิน ตนต้องขอโทษแทนลูกชายในสิ่งที่ลูกชายทำลงไป การช่วยเหลืองานศพตนจะต้องรอปรึกษากับสามีและครอบครัวอีกครั้งว่าจะสามารถช่วยเหลืออะไรได้บ้าง
ทีมข่าวได้เข้าไปดูเฟซบุ๊กของผู้ตาย พบว่า ในวันที่ 1 ก.ค. ที่ผ่านมา ผู้ตายได้โพสต์ประชดผู้ก่อเหตุว่า "ที่มึงไปบอกคนอื่นว่ากูไม่ดี บางทีกูอาจจะไม่ดีกับสึงคนเดียวก็ได้" และวันที่ 10 ก.ค. ช่วงก่อนเกิดเหตุ ผู้ตายได้โพสต์ประชดผู้ก่อเหตุอีกครั้งว่า "หน้าแบบกู เป็นคนดีให้ใครไม่ได้หรอก เป็นได้แค่คนไม่ดีแหละ"
Advertisement