กรณีวันที่ 3 ก.ค. 65 ร.ต.อ.ชาญชัย ภูล้นแก้ว รอง สว.(สอบสวน) สภ.ป่งไฮ จ.บึงกาฬ ได้รับแจ้งมีคนฆาตกรรม ที่ร้านขายของชำ พื้นที่หมู่ 1 บ้านป่งไฮ ต.ป่งไฮ อ.เซกา จ.บึงกาฬ ที่เกิดเหตุเป็นบ้าน 2 ชั้น ครึ่งปูนครึ่งไม้ ด้านล่างเปิดเป็นร้านขายของชำ ตั้งอยู่กลางชุมชน
ที่ด้านหลังแผงวางสินค้าติดทางขึ้นบันไดชั้น 2 พบศพนางอนัญญา บุญปากดี หรือ เจ๊แดง อายุ 47 ปี เจ้าของบ้าน และเจ้าของร้านชำ ถูกคนร้ายใช้ของมีคมปาดคอเป็นแผลเหวอะหวิดขาด นอนหงายจมกองเลือดอยู่บนเตียงนอนโซฟา เสื้อยืดถูกถลกขึ้นมาถึงใต้ราวนม
วันที่ 10 ก.ค. 65 ช่วงเย็นที่ผ่านมา มีลูกสาวและลูกชายของเจ๊แดง เดินทางมายื่นหนังสือให้กับ พ.ต.ท.ภาคภูมิ ปลูกปลื้ม สารวัตรใหญ่ ที่เป็นหัวหน้าสถานีตำรวจภูธรป่งไฮ ถึงผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบึงกาฬ เพื่อขอความเป็นธรรมทางคดี โดยหนังสือดังกล่าวเป็นหนังสือที่ทางญาติทำขึ้นเพื่อขอให้ ทางผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบึงกาฬ ย้ายดาบโจ้ ออกไปจากพื้นที่จนกว่าคดีจะสิ้นสุด
บรรยากาศที่โรงพักในช่วงเย็นวันนี้ มีความเคลื่อนไหวที่หน้าสนใจคือมีตำรวจหญิงจากกองบังคับการตำรวจภูธรภาค 4 มาลงพื้นที่ในวันนี้เป็นวันแรก และยังมีรายงานว่า พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.ยรรยง เวชโอสถ ผบช.ภ.4 จะเดินทางมาคลี่คลายคดีในสัปดาห์นี้
นางการละคร บุญปากดี แม่ของเจ๊แดง กล่าวว่า ลูกสาวตัวเองถูกพบเป็นศพเมื่อวันที่ 3 ก.ค. กระทั่งวันที่ 4 ก.ค. ขณะที่ตั้งโลงศพลูกสาวไว้ในบ้าน ดาบโจ้ได้มาไหว้ศพลูกสาว แต่เขาไม่ได้จุดธุปไหว้โลงศพที่หน้าโลงปกติ ดาบโจ้กำธูป 1 กำ ประมาณ 16 ดอก ไปจุดที่หลังบ้านของเจ๊แดง พร้อมกับอธิษฐานบางอย่าง สงสัยว่าทำไมดาบโจ้ต้องกำธุปไปจุดที่หลังบ้านด้วย
วันที่ 4 ก.ค. 65 ทางครอบครัวตัวเองได้ไปหาต้นบอนจากชาวบ้านมา เพื่อมาทาปากศพเจ๊แดง เนื่องจากตามความเชื่อของชาวอีกสาน หากถูกฆ่าตายแล้วตำรวจยังจับคนร้ายไม่ได้ ชาวบ้านจะนำเอาต้นบอนมาทาปากศพ ทำให้ผีคันปากแล้วพูดออกมาว่าใครเป็นคนร้าย แต่ดาบโจ้ได้มาแย่งเอาบอนดังกล่าวไปก่อน บอกว่าจะเป็นคนเอาบอนไปทาปากเจ๊แดงเอง แต่เขาก็ไม่เอาต้นบอนไปทาปากเจ๊แดง กระทั่งครอบครัวได้มาเอาต้นบอนทาปากเจ๊แดงเมื่อวันก่อน
มีอยู่วันหนึ่งที่ดาบตำรวจเขามาไหว้ศพลูกสาว ระหว่างจุดธูปไหว้ศพลูกสาว ร้องตะโกนขึ้นมาว่า "อู้ววววว" ตัวเองจึงถามเขาว่าเป็นอะไร เขาก็ตอบว่า จู่ ๆ รูปเจ๊แดงก็ไปขึ้นหน้าจอโทรศัพท์เขา
นายแบน อายุ 26 ปี ชาวบ้านที่เป็นบุคคลนั่งดื่มเบียร์กับนางสาวน้อยหน่าในวันเกิดเหตุ เล่าว่า ตัวเองขอยืนยันว่าเมื่อเวลาประมาณ 3 ทุ่มกว่า นางสาวน้อยหน่าได้ขับรถมอเตอร์ไซค์ของเจ๊แดงมาที่บ้านตัวเองจริง พร้อมกับเอาเบียร์มาให้ตัวเองด้วย 3 ขวด
จากนั้นน้อยหน่าก็จอดรถมอเตอร์ไซค์ที่หน้าบ้านของตัวเอง นั่งดื่มเบียร์กับตัวเองในวงดื่มกินกันนั้น มีทั้งหมด 4 คน คือ 1.นางสาวน้อยหน่า นั่งหัวโต๊ะ 2.ตัวเองนั่งข้างน้อยหน้าฝั่งขวา 3.นางสาวฟ้า แฟนของตัวเองนั่งข้างตัวเอง 4.นางหนิง แม่ของตัวเอง นั่งฝั่งซ้ายของน้อยหน่า
จากนั้นน้อยหน่าก็นั่งดื่มกินกับพวกตัวเองประมาณ 10 นาที ขับรถของเจ๊แดงกลับบ้านเจ๊แดง เพื่อไปดื่มกินกับเพื่อนที่อยู่ตรงนั้น โดยตอนที่น้อยหน่านั่งดื่มเบียร์กับตัวเองรอบแรกนั้นเขาก็มีสีหน้าปกติ ไม่ได้พูดถึงเจ๊แดงแต่อย่างใด ซึ่งน้อยหน่าขับรถกลับไปบ้านเจ๊แดงประมาณ 30 นาที
จากนั้นเขาก็ขับรถเจ๊แดงมาที่บ้านตัวเองอีกครั้งเป็นรอบที่ 2 ดื่มเบียร์ที่บ้านตัวเอง พร้อมกับตัวเอง นางสาวฟ้าแฟนตัวเอง และนางหนิงแม่ตัวเอง อีกประมาณ 20 นาที ก่อนที่น้อยหน่าจะขับรถกลับไปบ้านเจ๊แดงช่วงประมาณ 4 ทุ่ม เพื่อเอารถไปส่งเจ๊แดงที่บ้าน และหลังจากนั้น น้อยหน่าก็ไม่ได้มาหาตัวเองอีกเลย
ความเคลื่อนไหวที่ สภ.ป่งไฮ ทางชุดสืบได้นำเสื้อผ้าของผู้ต้องสงสัย นายเบ้า ใส่ถุงมาตรวจสอบเพิ่มเติม ก่อนที่จะไปคุมตัวผู้ต้องสงสัยเพิ่มอีกราย เป็นรายที่ 26 คือ นายวัชระ หรือ นายน้ำ ที่อยู่ใกล้กับบ้านของนายเบ้า ไปสอบปากคำที่เซฟเฮาส์
Advertisement