ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ได้รับการร้องเรียน ว่ามีชายถูกทำร้ายร่างกายบาดเจ็บสาหัส เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นช่วงกลางดึกของวันที่ 7 ก.ค. 65 บริเวณปากซอย เอกชัย 66/3 เขตบางบอน กทม.
ผู้บาดเจ็บ 2 ราย คือนายสมจิตร กาญจนชลาลัย อายุ 34 ปี ได้รับบาดเจ็บสาหัส ใบหน้าบวมช้ำ ศีรษะแตก เส้นเลือดฝอยในตาแตก สมองได้รับการกระทบกระเทือน, นายธวัชชัย นาคพี่น้อง อายุ 37 ปี ได้รับบาดเจ็บ คิ้วซ้ายเเตก เย็บ 7 เข็ม เส้นเลือดฝอยในตาแตก
ส่วนผู้ก่อเหตุทราบชื่อคือ นายต้องตา ชัยพรม หรือ ต๋อง อายุ 44 ปี หลังก่อเหตุได้หลบหนีไป พร้อมกับนำโทรศัพท์มือถือของผู้บาดเจ็บทั้ง 2 รายไปด้วย จากการตรวจสอบประวัติพบว่าเมื่อ 10 ปีที่แล้วเคยติดคุกคดีฆาตกรรมหญิงตั้งครรภ์
ล่าสุดวันที่ 10 ก.ค.65 ทีมข่าวลงพื้นที่ไปยังจุดเกิดเหตุ ลักษณะเป็นร้านยาดอง กล้องวงจรปิดพบว่าก่อนเกิดเหตุ เวลา 00.57 น. นายสมจิตร ผู้บาดเจ็บกำลังนั่งเล่นโทรศัพท์อยู่ด้วยกัน จากนั้นจะเห็นผู้ก่อเหตุย่องมาด้านหลัง ใช้เท้าเตะนายธวัชชัยก่อน เเล้วเตะเสยหน้านายสมจิตรจนหมดสติ ลงมานอนกองอยู่พื้นด้านล่าง
ก่อนจะหันกลับไปทำร้ายนายธวัชชัย โดยการเตะต่อยหลายครั้ง จังหวะนั้นนายธวัชชัยได้พยายามบอกว่าไม่รู้เรื่องด้วย ได้วิ่งหนีไปจากนั้นผู้ก่อเหตุได้ทำร้ายร่างกายนายสมจิตรที่กำลังนอนหมดสติ โดยการเตะ ตบ ใช้เท้ากระทืบบริเวณศีรษะหลายครั้งจนเเน่นิ่ง
จากนั้นเวลา 01.39 น. มีตำรวจสายตรวจผ่านมา นายต๋อง ผู้ก่อเหตุ ก็ไม่มีอาการสะทกสะท้าน ตีเนียนว่าเป็นพลเมืองดี พยายามเข้าไปพยุงผู้บาดเจ็บ ตำรวจถามว่าโดนใครทำร้ายมา ทางผู้ก่อเหตุก็ตอบว่า "ไม่ทราบ ผมมาถึงก็เห็นเขาอยู่สภาพนี้เเล้วครับ"
นายธวัชชัย นาคพี่น้อง อายุ 37 ปี ผู้บาดเจ็บ เผยว่า ตนเองกับเพื่อน คือ นายสมจิตร เคยมีเรื่องบาดหมางกับนายต๋อง ผู้ก่อเหตุ เมื่อ 1 ปีที่เเล้ว โดยมีเรื่องชกต่อยกันในร้านยาดอง เนื่องจากนายต๋องเมาเเล้วปากเสีย พูดจาหาเรื่อง เเต่หลังจากชกต่อยกันเสร็จ ก็เคลียร์กันจบไปเเล้ว ไม่มีปัญหากันอีก
จนกระทั่งวันเกิดเหตุ ตนเองกำลังนั่งเล่นเกมส์โทรศัพท์กับเพื่อน เเต่เเล้วจู่ ๆ นายต๋องก็บุกมาทำร้าย โดยไม่ทราบสาเหตุ ตอนนั้นพยายามตั้งหลัก เเละวิ่งไปขอความช่วยเหลือจากชาวบ้าน ให้โทรเเจ้งเจ้าหน้าที่มาช่วยเหลือ โดยหลังเกิดเหตุตนเองเข้าเเจ้งความที่ สน.บางขุนเทียน อยากให้ตำรวจตามจับตัวให้ได้ เพราะนอกจากจะได้รับบาดเจ็บทางร่างกายเเล้ว ตนเองยังไม่สามารถทำงานได้ เพราะตนทำงานรับจ้างส่งของ โดยรับออร์เดอร์ผ่านเเอปพลิเคชัน เเต่โทรศัพท์เครื่องดังกล่าวถูกผู้ก่อเหตุเอาไป จึงไม่มีรายได้มา 3 วันเเล้ว
ทีมข่าวได้พูดคุยกับชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในซอยเดียวกันกับนายต๋อง บอกว่า หลังจากเกิดเรื่องก็ไม่เห็นนายต๋องกลับเข้ามาในซอยอีกเลย พร้อมได้ได้เเฉวีรกรรมนายต๋อง ว่าเป็นคนชอบเเทงสนุกเกอร์ โดยในอดีตเมื่อ 10 ปีที่เเล้วมีผู้หญิงตั้งครรภ์ เดินทางกำลังจะไปตามสามีที่โต๊ะสนุกเเห่งหนึ่ง ระหว่างทางบังเอิญเจอกับนายต๋อง นายต๋องเกิดอาการคลั่ง เอาขวดมาทุบให้เเตกเป็นปากฉลาม เเล้วเเทงหญิงคนดังกล่าวจนเสียชีวิต หลังจากนั้นนายต๋องถูกตำรวจจับศาลพิพากษาประหารชีวิต เเต่ติดคุกไม่กี่ปีก็พ้นโทษออกมาให้ฆ่าคนอื่นต่อไปได้อีก
พฤติกรรมของนายต๋องก็ไม่เคยเปลี่ยนเเปลง หลังจากฆ่าคนแล้วได้มีชีวิตใหม่ในสังคม ก็ชอบส่งเสียงโวยวายกลางดึก คล้ายคนหลอนยา เมื่อเดือนก่อนเพิ่งไปทุบศาลพระภูมิของหมู่บ้านจนพังมาเเล้ว กระทั่งครั้งนี้มาก่อเหตุทำร้ายร่างกายคนปางตายอีก ซึ่งจากพฤติกรรมดังกล่าว ชาวบ้านในพื้นที่หวาดผวา มองว่าเป็นภัยสังคม จึงอยากให้ตำรวจช่วยตามตัวมาดำเนินคดี หากปล่อยไว้ก็อาจไปทำร้ายคนอื่นอีก ให้ดำเนินคดีตามกฎหมายไทยที่แข็งแรง
ทีมข่าวได้พูดคุยกับพี่สาวของนายต๋อง ผู้ก่อเหตุ คือ นางสุภาสินี ชัยพรม อายุ 49 ปี เผยว่า พื้นเพครอบครัวเป็นคน จ.ศรีสะเกษ ย้ายเข้ามาอยู่กรุงเทพฯ หลายปีเเล้ว โดยนิสัยของน้องชายเป็นคนนิ่ง ๆ ไม่ค่อยวุ่นวายกับใคร เเต่ยอมรับว่าเมื่อ 10 ปีที่เเล้ว น้องชายเคยติดคุกคดีฆ่าคนตายจริง ส่วนเรื่องยาเสพติดตนเองไม่ทราบ เพราะที่ผ่านมาไม่เคยเห็นน้องชายเสพ ตอนอยู่กับตนก็ไม่เคยคลั่ง เเต่ตอนไปอยู่ที่อื่นจะเป็นอย่างไรตนก็ไม่ทราบ เพราะอยู่กันคนละที่ น้องชายจะเเวะเวียนมาหาบ้างเป็นบางครั้ง
หลังจากไปก่อเหตุทำร้ายร่างกาย ก็ไม่กลับมาอีกเลย มีตำรวจมาหาที่บ้านให้ช่วยติดต่อน้องชายให้ เเต่ก็ติดต่อไม่ได้ ซึ่งในส่วนของคดีความ ตนเองไม่ขอรับรู้ถือว่าเป็นเรื่องส่วนตัว ในเมื่อน้องชายเป็นคนก่อเหตุก็ให้จัดการปัญหาของตัวเองไป ตนเองไม่ขอยุ่งเกี่ยวด้วย
Advertisement