จากกรณีตำรวจสอบสวนกลางได้ทำการจับกุม นายฐานิสสร พวงระย้า อายุ 44 ปี ตามหมายจับศาลจังหวัดเพชรบุรีที่ 108/2564 ลง 9 เมษายน 2564 ข้อหา “พรากผู้เยาว์อายุกว่าสิบห้าปีแต่ไม่เกินสิบแปดไปเสียจากบิดา มารดา ผู้ปกครอง หรือผู้ดูแล โดยปราศจากเหตุสมควรเพื่อการอนาจาร และกระทำอนาจารแก่บุคคลอายุกว่าสิบห้าปีโดยขู่เข็ญด้วยประการใดๆ โดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยบุคคลนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืน” โดยจับกุมได้หน้าสนามโกคาร์ทแห่งหนึ่งใน ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี
สิบเนื่องจากตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2564 นายฐานิสสร ผู้ต้องหา มีศักดิ์เป็นลุงได้ก่อเหตุบังคับข่มขืนผู้เสียหาย อายุ 16 ปี ซึ่งเป็นหลานสาวของตนเอง พร้อมทั้งข่มขู่ห้ามนำเรื่องไปบอกใคร ไม่เช่นนั้นจะทำร้ายร่างกาย อาศัยช่วงเวลาที่แม่ของผู้เสียหายออกไปทำงาน
ต่อมาแม่ของผู้เสียหายสังเกตเห็นลูกสาวมีอาการผิดปกติ ไม่พูดไม่จา และเซื่องซึม จึงสอบถามจนทราบความจริง จากนั้นได้พาเข้าแจ้งความที่ สภ.เมืองเพชรบุรี เมื่อผู้ต้องหาทราบว่าตนเองถูกออกหมายจับก็ได้หลบหนีออกจากพื้นที่ กระทั่งเจ้าหน้าที่สืบทราบว่าผู้ต้องหามากบดานใน จ.ชลบุรี จึงติดตามจับกุมตัวได้ดังกล่าว
ล่าสุด วันที่ 24 มิ.ย. 65 ทีมข่าวลงพื้นที่ไปยังบ้านที่เกิดเหตุ อ.เมือง จ.เพชรบุรี พบกับผู้เสียหายน้องเอ (นามสมมติ) เปิดใจว่า น้องพบรักกับลุงตั้งแต่เดือนมกราคม ลุงคอยดูแลเอาใจใส่ตนดีมาตลอด จนเดือนกุมภาพันธุ์เริ่มรู้สึกมากกว่าลุงกับหลาน ลุงขอมีอะไรด้วย ยอมรับว่าสมยอม เพราะรักลุงจริง ๆ จึงแอบมีอะไรกัน
จนยายจับได้ในวันที่ 24 กุมภาพันธุ์ ในวันนั้นแม่ตนทราบเรื่องจึงอาละวาด ตนพยายามอธิบายให้แม่ฟังว่ารักลุงจริง ๆ แต่แม่กลับแจ้งตำรวจ ตนจึงหนีออกจากบ้านไปอยู่บ้านตาใน จ.เพชรบุรี และลุงก็เป็นคนมาตามและอยู่บ้านตาได้ 10 วัน จากนั้นเดือนมีนาคม จึงพากันหนีไปอยู่ที่พัทยา จ.ชลบุรี โดยลุงมีลูกติดมาด้วย ตนก็เป็นคนเลี้ยงให้ ระหว่างนั้นแม่ก็ตามหาโทรติดต่อตนได้ตลอด แต่ตนโกหกแม่ว่าอยู่กับแฟนคนใหม่ที่ไม่ใช่ลุง
ตอนที่อยู่กับลุงที่พัทยาอยู่กันเป็นครอบครัว มีตนกับลูกติดลุง เด็กพิการอายุ 4 ปี ละลุงซึ่งเป็นสามีของตน อายุ 44 ปี โดยลุงทำอาชีพคนสวนรายได้วันละ 600 บาท จนมาเดือนกันยายนปี 64 ตนได้ตั้งท้องโดยความตั้งใจอยากจะมีลูกกับลุง เพราะอยากให้ครอบครัวรับได้ จะได้กลับมาอยู่ที่บ้าน และคลอดลูกในวันที่ 16 พฤษภาคม 65 โดยตั้งใจไว้ว่าถ้าลูกอายุได้ 2 เดือน จะพากลับมาหาแม่ที่บ้าน เผื่อแม่จะยอมใจถอนแจ้งความลุง แต่สุดท้ายลุงมาถูกจับได้เสียก่อน
ตอนที่ลุงถูกจับ หัวใจตนแทบสลาย เพราะลุงถือเป็นสามีตนแล้ว ที่ผ่านมาลุงดูแลตนเป็นอย่างดีมาตลอด ไม่เคยกินเหล้าไม่เคยไปเที่ยวเตร่ ทำแต่งาน รักครอบครัว ตอนนี้ยอมรับว่าเป็นห่วงสามีมาก เพราะแม่และยายไม่ยอมให้ออกไปเยี่ยมลุงที่ สภ.เมืองเพชรบุรีเลย เมื่อคืนก็ทะเลาะเถียงกันกับแม่ เรื่องนี้จนตนอยากจะฆ่าตัวตาย อยากให้แม่และยายถอนแจ้งความ อยากให้ไม่เอาเรื่องลุง เพราะถ้าลุงติดคุกถูกดำเนินคดี ก็ไม่มีใครช่วยตนดูแลลูก แล้วจะหาเงินจากที่ไหน แล้วลูกหนูจะมีพ่อที่ติดคุกหรือ
นางจิต (นามสมมติ) ยายของเด็ก อายุ 65 ปี บอกว่า ตนมีลูกชาย 1 คนก็คือผู้ก่อเหตุอายุ 44 ปี และมีลูกสาว 1 คนอายุ 40 ปี คือแม่ของน้องผู้เสียหาย ตนจับได้ว่าลูกชายและหลานสาวมีความสัมพันธ์กันตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ปีที่แล้ว พบยาคุมกำเนิดของหลาน และพบพฤติกรรมของทั้ง 2 คน จนตนจับได้ลูกชายได้มาขอโทษ แล้วบอกว่าจะไม่ทำอีก แต่สุดท้ายก็พากันหนี ทำให้ครอบครัวเจ็บปวดใจหนักมาก
ตนยืนยันไม่ว่าอย่างไรก็ไม่ให้อภัยลูกชายอย่างแน่นอน และขอตัดความสัมพันธ์ ตัดแม่ตัดลูก เพราะลูกชายได้ก่อเหตุมีอะไรกับหลานสาวตัวเอง ทั้งที่เลี้ยงดูกันมาตั้งแต่เด็ก รู้สึกเสียใจมากกับเรื่องที่เกิดขึ้น เจ็บปวดมาก คนก่อเหตุก็เป็นลูกของตัวเอง และผู้เสียหายก็เป็นหลานสาวของตัวเอง ไม่มีทางที่จะถอนแจ้งความอ ยากให้ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมายในข้อหาหนักที่สุด จะไม่มีการประกันตัวหรือช่วยเหลือใด ๆ ทั้งสิ้น
Advertisement