จากกรณี ผู้ใช้เฟซบุ๊ก “อรนุช เสมท่าไม้” โพสต์ภาพใบหน้าพ่อของตัวเองสภาพหน้าตาปูดบวม มีบาดแผลทั่วใบหน้าจากการถูกทำร้าย กำลังนอนรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล พร้อมระบุข้อความไว้ว่า “ทำพ่อกูลงได้ยังไง ลุงมึงแท้ๆ หลานสารเลว ทำทำร้ายชิงทรัพย์ เหยื่อคนเมายา”
ความคืบหน้าล่าสุดวันที่ 15 มิ.ย. 65 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางไปพบกับ นายอนันต์ เสมท่าไม้ หรือ จง อายุ 69 ปี ผู้บาดเจ็บ เจ้าตัวยังคงนอนพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลบ้านแพ้ว จ.สมุทรสาคร
นายอนันต์ เล่าให้ฟังว่า ช่วงบ่าย 2 วันที่ 12 มิ.ย. ที่ผ่านมา ก่อนเกิดเหตุตนเองได้ขับรถกระบะเข้าไปในหมู่บ้าน เพื่อนำเงินกองทุนหมู่บ้านที่ตนเองเก็บไว้ ไปฝากให้ญาติที่อยู่ในหมู่บ้าน ซึ่งบ้านของญาติอยู่ใกล้บ้านน้องชาย พ่อของผู้ก่อเหตุ เมื่อฝากเงินกับญาติเสร็จแล้ว ตนเองจึงยืนพูดคุยกับญาติสักพัก
จากนั้น นายสุชาติ เสมท่าไม้ หรือ ถึก อายุ 36 ปี หลานชายของตนเอง ได้ขี่รถจักรยานยนต์ฟีโน่สีฟ้าขาว มาจอดข้าง ๆ โดยพาเพื่อนซ้อนมาด้วยหนึ่งคน จากนั้นนายถึกได้ลงจากรถ ปรี่เข้ามาชกหน้าตนเองจนล้มเซลงไปในท้องนา ตอนนั้นได้ยินนายถึกพูดเพียงว่า "มึงใช่ไหมที่ทะเลาะกับแม่กู" ก่อนที่นายถึกจะขึ้นคล่อมตนเองและชกหน้าตนเองอีกหลายครั้ง ส่วนเพื่อนนายถึกที่มาด้วยถือมีขู่ชาวบ้าน ขู่ว่าอย่าให้ใครเข้ามาช่วย
ระหว่างที่ตนเองกับนายถึกต่อสู้กัน นายถึกเห็นเงินสดที่อยู่ในกระเป๋าเสื้อ และในกระเป๋าคาดเอวของตนเอง จึงได้ขโมยเงินสดไปด้วยจำนวน 8,000 บาท ส่วนเงินที่เหลืออีก 16,000 บาท ที่อยู่ในกระเป๋าคาดเอวอีกส่วน นายถึกก็พยายามจะกระชากเอาเงินไป แต่ตนเองสู้จนสุดชีวิต นายถึกจึงเอาไปไม่ได้ และชี้หน้าบอกตนเองว่า "มึงห้ามแจ้งความนะ ใครแจ้งความคนนั้นตาย" ก่อนที่จะขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไปทันที
ส่วนสาเหตุที่นายถึกมาดักทำร้ายและชิงทรัพย์ตนเองไป คาดว่าคงเป็นเพราะอาการหลอนยาและแค้นน้องชายตนเอง ซึ่งเป็นพ่อของนายถึก เรื่องที่น้องชายกำลังจะบอกขายบ้านทิ้ง แต่นายถึกไม่ยอม และต้องเงินที่ดินบ้านหลังดังกล่าว เพราะจะนำไปเสพยาบ้าได้เยอะ ๆ ซึ่งก่อนหน้าที่ตนเองถูกทำร้าย นายถึกได้เดินทางไปทำร้ายนายสุเทพ น้องชายตนเอง และหลานสาว คือน้องสาวนายถึกที่ผ่านมาก่อนหน้านี้แล้วด้วย
นายสุเทพ เสมท่าไม้ อายุ 62 ปี พ่อของนายถึก ผู้ก่อเหตุ บอกว่า ก่อนที่ลูกชายจะไปก่อเหตุทำร้ายนายอนันต์ พี่ชายของตนเองนั้น เมื่อช่วง 8 โมงเช้า วันที่ 12 มิ.ย. ลูกชายได้นั่งรถกระบะมากับเพื่อนหนึ่งคน เข้ามาที่บ้านของตนเอง และทุบทำลายข้าวของภายในบ้านจนพังเสียหาย รวมถึงเอาศาลพระภูมิยกตั้งกลับหัว เอาตะปูตอกประตูบ้านไม่ให้ตนเองเข้าบ้าน เพราะโมโหว่าตนเองต้องการจะบอกขายบ้านทิ้งไปอยู่ที่อื่น
เหตุผลเพราะตนเองทนไม่ไหวแล้ว เนื่องจากที่ผ่านมา นายถึกเสพยาเสพติดหนักมาก และชอบรีดไถเงินตนเองไปซื้อยาบ้าเสพ วันละ 500-1,000 บาท ตนเองจึงอยากจะหนีไปอยู่ที่อื่น แต่ลูกชายนั้นพอทราบข่าวก็ไม่ยอม อ้างว่าที่ดินเป็นของแม่ และแม่ได้เสียชีวิตไปแล้ว ที่ดินก็ต้องเป็นสมบัติของลูกชายเพียงคนเดียว ประกอบลูกชายหลอนยาหนัก
จากนั้นลูกชายได้เข้าไปขนเก้าอี้ไม้ 2 ตัว ตู้เย็น 1 ตู้ ใส่ท้ายรถกระบะเพื่อน ซึ่งคาดว่าจะเอาไปขายเพื่อซื้อยาบ้าเสพตามเคย โดยลูกสาวของตนเองที่อยู่ด้วยเห็นเข้าจึงอัดคลิปเอาไว้เป็นหลักฐาน ในคลิปจะเห็นว่านายถึกด่าทอทั้งน้องสาวตัวเอง และตนเอง พร้อมกับ ถือมีดปรี่เข้ามาจะทำร้ายลูกสาว และตนเองอีกด้วย ตนอยากให้ตำรวจจับลูกชายเข้าคุกไปเร็ว ๆ เพราะหากยังไม่จับก็ไปทำร้ายชาวบ้านหรือญาติคนอื่นอีก ล่าสุดก็ไปต่อยพี่ชายตนเอง ตนเองยอมไม่ได้ และหมดความอดทนแล้ว
นายสุเทพ พาทีมข่าวไปดูสภาพบ้านของตนเองที่ถูกลูกชายทุบทำลาย ทั้งโอ่งน้ำ กระจกบานเกล็ด ศาลพระภูมิกลับหัว ข้าวของเครื่องใช้พังเสียหาย ตะปูที่ลูกชายตอกติดไว้กับประตู เพื่อไม่ให้ตนเองเข้าบ้านได้ รวมถึงข้อความที่เขียนไว้บนฝาผนังบ้านว่า "ใครขายบ้าน ใครซื้อ ต้องตายกันไปข้าง 1 มีบ้านก็มีสุข ไม่มีกิจห้ามเข้า"
หลังเกิดเหตุ นายถึก ลูกชายยังส่งข้อความมาหานางสาวตา ลูกสาวของตนเอง ด่าพวกตนเองอีกด้วย บอกว่า "อีตา มึงกับพ่อ ไม่ใช่พี่น้องกู พ่อมึงมันหน้า* ทำชีวิตของลูกได้ลงคอ กูเจอมึงกับมันตรงไหน มึงต้องตายตรงนั้นนับตั้งแต่วันนี้ ดูไอ้จงเป็นตัวอย่าง"
พันตำรวจเอกกมลาสน์ อรุณภาคมงคล ผู้กำกับ สภ.บ้านแพ้ว ให้ข้อมูลว่า ตนเองรับทราบเรื่องแล้ว และตนเองได้สั่งการเร่งรัดให้ตำรวจชุดสืบสวนลงพื้นที่ตามจับตัวนายสุชาติอยู่ ยืนยันว่าไม่ได้ล่าช้า และไม่จำเป็นต้องรอหมายจับในคดีชิงทรัพย์ หากตำรวจได้ตัวเเล้ว ตรวจพบว่าคนร้ายนำเงินไปซื้อยาเสพติด และตรวจพบว่าเสพยาบ้าจริง สามารถจับกุมเอาตัวมาก่อนได้เลย ไม่ต้องรอหมาย และให้สัญญาว่าไม่เกินวันพรุ่งนี้ จะให้ชุดสืบสวนตามจับกุมตัวนายสุชาติมาได้แน่นอน
Advertisement