ตะลึงอาถรรพ์ฆ่ายายนิด เจอหัว-ขาโผล่น้ำ หมวดโยซ่อนศพใต้สวะ ลูกโฮบัตร-แว่นโผล่ป่า (คลิป)

จากกรณีการหายตัวไปอย่างเป็นปริศนาของ นางนิด สังวรณ์ อายุ 60 ปี หญิงชาวจังหวัดลพบุรี ที่ถูกร้อยโทพิพัฒพงษ์ เงินลา หรือหมวดโย อายุ 36 ปี ทหารหนุ่มสังกัดกองพันทหารปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยานที่ 3 ลพบุรี อุ้มหายออกจากบ้าน ไปตั้งแต่วันที่ 11 เมษายน 2565 ก่อนที่หมวดโยจะก่อเหตุรมควันฆ่าตัวตายในรถ ในวันที่ 12 เมษายน 2565 เพื่อหนีความผิด

จนกระทั่งค่ำวันที่ 10 มิ.ย. 65 ได้รับแจ้งจากทางญาติว่ามีคนหาปลาเจอกระดูกในบ่อน้ำติดกับถนนเลียบคลองชลประทาน ใกล้กับรีสอร์ตร้าง ที่คาดว่าจะเป็นกระดูกของนางนิด เนื่องจากในจุดที่พบกระดูดดังกล่าว มีเศษผ้าคล้ายกับชุดที่ใส่ในวันที่หายตัวออกไปจากบ้าน

ล่าสุด วันที่ 11 มิ.ย. 65 ตั้งแต่เวลา 08.00 น. ญาติของนางนิด และเจ้าหน้าที่กู้ภัย ได้มีการค้นหาชิ้นส่วนกระดูกของมนุษย์เพิ่มเติม จนกระทั่งเวลา 09.00 น. พบชิ้นส่วนกระดูกของมนุษย์ ช่วงแขนยาวจากข้อมือถึงบริเวณไหล่ กระดูกช่วงขาถึงเท้าข้างซ้าย ที่ยังมีเนื้อของมนุษย์ติดอยู่ ที่สำคัญกระดูกที่พบตรงช่วงเท้ามีเชือกสีขาวเส้นเล็กคล้ายกับสายสิญจน์มัดติดอยู่ ส่วนกระดูกส่วนอื่น เป็น กระดูกซี่โครงชิ้นเล็กจำนวน 12 ชิ้น และชิ้นส่วนบริเวณหน้าอกอีก 1 ชิ้น

ซึ่งกระดูกดังกล่าวที่พบในช่วงเช้าของวันนี้ มีซี่โครงที่พบอยู่ในน้ำใต้หอผักตบชวา ส่วนแขนและขาเจอบนฝั่งที่อยู่ห่างจากจุดเดิมประมาณ 20 เมตร

ตามรายงานของทางเจ้าหน้าที่ ชิ้นส่วนที่พบเมื่อวานนี้ มีทั้งหมด 9 ชิ้นคือ 1.ซี่โครง 2.สะบักหลัง 3.ก้นกบ 4.สะโพก 5.ขาส่วนบนด้านขวา 6.หัวกระโหลก 7.ฟัน 8.กระดูกส่วนคอ และ 9.กระดูกสันหลัง

จากนั้น เวลา 14.30 น. ทหารเริ่มการค้นหา โดยการเดินเท้าไปตามขอบบ่อน้ำในระยะเดียวกันกับจุดที่เจอชิ้นส่วนต่าง ๆ เมื่อวานนี้ จนกระทั่งการค้นหาผ่านไปประมาณ 20 นาที พบบัตรประชาชนของนางนิด ก่อนจะถึงจุดพบชิ้นส่วนดังกล่าวที่เจอเมื่อวานนี้ ประมาณ 30 เมตร ทันทีที่ลูกสาวคนโตคือ น.ส.ดรุณี สังวรณ์ เห็นบัตรประชาชนของแม่ ก็ร้องไห้ขึ้นมาทันที เนื่องจากลูกสาวคนโตมั่นใจว่าชิ้นส่วนทั้งหมดที่พบเป็นชิ้นส่วนของแม่ตัวเอง จนทางญาติต้องคอยปลอบใจ

ต่อมาเวลา 13.50 น. ร.ต.นพรัตน์ สังวรณ์ สามีของป้านิด ได้มีการจุดธูป จำนวน 1 ดอก บอกกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์และนางนิด ว่าขอให้เปิดทางให้เจ้าหน้าที่ในการค้นหา ขอให้สิ่งที่เจอเป็นชิ้นส่วนของแม่น้องก้อยจะได้พากลับบ้านไปประกอบพิธีทางศาสนา

ร.ต.นพรัตน์ บอกว่า ถ้าเป็นจุดที่หมวดโยนำศพภรรยามาทิ้งจริง ก็ต้องเจอกระเป๋าและเอกสารของภรรยา ที่พกติดตัวมาบ้าง ที่ต้องจุดธูปบอกกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์และภรรยาก็เพราะว่าอยากจะให้เจอชิ้นส่วนทั้งหมดในวันนี้ ดีใจที่มีทั้งนักข่าวและเจ้าหน้าที่อาสามาช่วยค้นหาร่างของภรรยา ที่สำคัญที่สุดต้องขอขอบคุณทางช่องอมรินทร์ทีวี โดยเฉพาะคุณพุทธ และน้องริท นักข่าวที่ช่วยตนเองเดินออกตามหาเบาะแส ลุยไปทุกที่จนมีข่าวดีในวันนี้

ส่วนเมื่อวานนี้ที่ไม่ได้มาดูในจุดพบกระดูก ก็เพราะว่าป่วยความดันขึ้น จากการอดหลับอดนอนตามหาภรรยามากว่า 2 เดือน สำหรับการตรวจ DNA ทางตำรวจนัดให้ไปตรวจวันจันทร์ ที่ 13 มิถุนายน และต้องรอผลประมาณ 1 เดือน ทำให้การทำพิธี ต้องล่าช้าออกไป แต่ไม่เป็นไร หากเป็นชิ้นส่วนของภรรยาจริงก็รอได้ เพราะที่ผ่านมาก็รอมา 2 เดือนแล้ว

ตนยอมรับว่าก่อนหน้านี้ ตนเองเคยเดินมาหาร่างของภรรยาใกล้กับจุดที่เจอชิ้นส่วนดังกล่าว 2-3 ครั้ง แต่ไม่เคยได้กลิ่นหรือพบอะไรผิดปกติ เชื่อว่าการพบชิ้นส่วนดังกล่าวเป็นเรื่องบังเอิญ ไม่เกี่ยวกับที่ตนเองเคยพูดว่าจะอโหสิกรรมให้กับหมวดโย

นายวิเชษฐ์ เนตรสกุล เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู บอกว่า ชิ้นส่วนแรกที่พบวันนี้คือกระดูกซี่โครงที่กระจัดกระจายอยู่ในคลองที่อยู่ใต้กอ ผักตบชวา และชิ้นส่วนขาซ้ายที่มีเนื้อติดอยู่เจอบริเวณริมตลิ่ง เชื่อว่าน่าจะถูกสัตว์กัดแทะ อุปสรรคในการค้นหาในวันนี้คือผักตบชวา และใต้น้ำเป็นดินขี้เลน ทำให้ต้องค่อย ๆ เดินค้นหา

ซึ่งบ่ายวันนี้ได้ประสานเจ้าหน้าที่ทหารมาทำการช่วยเหลือคนย้ายผักตบชวาออกจากลำคลอง เพื่อให้ชุดค้นหาของมูลนิธิร่วมกตัญอยู่ปูพรมงมหาชิ้นส่วนกระดูกที่เหลือ ส่วนตัวยังไม่แน่ใจว่าจะเจอชิ้นส่วนที่เหลือทั้งหมดหรือไม่ แต่ยืนยันว่าจะทำหน้าที่การค้นหาให้สุดความสามารถ หากสิ้นสุดการค้นหา ทางเจ้าหน้าที่ก็จะมอบหลักฐานให้ทางตำรวจไปดำเนินการต่อไป

หลังจากพบ บัตรประชาชนของนางนิด สามีมีการโชว์บัตรดังกล่าวให้กับสื่อดู พร้อมกับบอกว่า ถึงตอนนี้มั่นใจแล้วว่าชิ้นส่วนที่พบ เป็นชิ้นส่วนของภรรยาตัวเอง แต่การค้นหาต่อไปนี้ยังคงต้องค้นหากระเป๋าสตางค์ และกระเป๋าเป้ รวมไปถึงเสื้อในและเสื้อเชิ้ตที่ภรรยา ใส่ออกจากบ้านในวันที่หายตัวไป ซึ่งวันนี้ส่วนตัวเชื่อว่าการค้นหาที่พบบัตรของภรรยาและชิ้นส่วนต่าง ๆ ในวันนี้เป็นเพราะได้จุดธูปบอกกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์และภรรยา พร้อมกับทางอมรินทร์ทีวี

กู้ภัยรวมถึงทหารที่มาร่วมการค้นหา ยกเลิกการค้นหาในเวลา 16.30 น. และได้นัดหมายกันว่าจะมาค้นหาต่อในวันพรุ่งนี้ ในเวลา 09.00 น. เนื่องจากวันนี้สภาพอากาศร้อนอบอ้าวตลอดทั้งวัน รวมระยะเวลาการค้นค้าในวันนี้คือ 8 ชั่วโมง 30 นาที

โดยก่อนที่ทางญาติของนางนิดจะเดินทางกลับ น.ส.ธิดารัตน์ สังวรณ์ ลูกสาวคนเล็กของนางนิด ยกมือไหว้บอกกับแม่ว่า "กลับบ้านนะ คนที่บ้านรออยู่ หนูมารับกลับบ้านแล้วนะ กลับบ้านด้วยกันเถอะ"

หลังจากนั้น ประมาณ 10 นาที ทหารที่เดินผ่านไปผ่านเดินมาเหยียบแว่นตาสีดำ ที่ญาติยืนยันว่าเป็นแว่นตาของนางนิด แว่นดังกล่าว ตรงกันกับที่นางนิดเคยถ่ายภาพเอาไว้ก่อนที่จะหายตัวไปจากบ้าน แว่นดังกล่าวตกอยู่บริเวณจุดพักของทางกู้ภัย บนบกเหนือจุดที่พบบัตรประชาชน ซึ่งจุดดังกล่าวเป็นเรื่องแปลกตรงที่ว่าทางกู้ภัยรวมถึงสื่อและตำรวจเดินผ่านไปผ่านมาตั้งแต่เมื่อวานนี้ แต่ไม่มีใครเจอ เป็นทหารที่เจอในวันนี้

จากนั้นไม่ถึง 1 ชั่วโมง ทางกู้ภัยก็ได้ไปเจอชิ้นส่วนซี่โครง เพิ่มอีก 1 ชิ้น และยังเจอท่อนขาส่วนบนเพิ่มอีก 1 ชิ้นด้วย

ข้อมูลตำรวจ ระบุว่าคนหาปลาที่เป็นคนพบกระดูกเป็นคนแรก มีคลิปที่ทางผู้กำกับส่งมาให้กับทีมข่าว เป็นคลิปของตำรวจที่ถ่ายคนหาปลาเอาไว้ ขณะที่เจอกระดูก โดยบอกในคลิปว่าตัวเองลงไปปักเบ็ดหาปลาแล้วไปเจอกระดูก จึงไปแจ้งกับทางผู้ใหญ่บ้าน จากนั้นอีกคลิปก็จะเป็นคลิปตอนตำรวจไปถึงและร่วมกันถ่ายคลิปเอาไว้ว่าเจอกระโหลก

นายไพศาล ลือชา อายุ 54 ปี เปิดใจว่า เมื่อวานนี้ตอนประมาณ 14.30 น. ตนเองเอาเบ็ดออกจากบ้านไปหาปลาจำนวน 90 คัน พอไปถึงบ่อน้ำที่อยู่ใกล้กับรีสอร์ตร้าง ก็ได้มีการเดินไปปักเบ็ดเอาไว้ระยะทางประมาณ 100 เมตร ปักไปทั้งหมด 70 คันเบ็ด จากนั้นพอจะเริ่มปักเบ็ด 20 คันสุดท้าย ดันเดินไปเจอกระดูกมนุษย์ส่วนขาที่มีเนื้อติดอยู่ ด้วยความตกใจก็เลยเดินย้อนกลับไปทางเดิม แล้วก็ไปเจอหัวกะโหลก ตรงพื้นที่หันหน้าไปทางทิศตะวันออก จึงมั่นใจว่าที่เจอนั้นเป็นศพคนแน่ ๆ ก็เลยยกมือไหว้แล้วก็พูดว่า "ป้าเดี๋ยวผมจะตามคนมาช่วย"

หลังจากนั้นตนเองเดินกลับมาที่รถ เพื่อจะไปบอกคนที่บ้านว่าเจอศพคน ไปเจอลุงคนหนึ่งเข็นรถจักรยานยนต์มา บอกว่าน้ำมันหมด ด้วยความสงสารก็เลยขี่รถไปซื้อน้ำมันให้ลุงคนดังกล่าว แล้วก็ขี่รถกลับไปบอกคนที่บ้านว่าจะไปแจ้งกับใครดีว่าตัวเองเจอศพ กระทั่งคนที่บ้านแนะนำให้ไปแจ้งกับอดีตผู้ใหญ่บ้านหมู่ 7 ซึ่งมีลูกชายเป็นกู้ภัยตอนประมาณ 17.00 น. จนมีเจ้าหน้าที่เข้ามาในจุดที่ตัวเองพบกระดูก

จากนั้น พอเห็นว่าเจ้าหน้าที่มาเยอะแล้วจึงเดินทางกลับมาที่บ้าน แล้วก็จุดธูป 1 ดอก บอกว่า "ป้า ผมหาคนมาช่วยป้าแล้วนะ" กระทั่งอาบน้ำเข้านอน หมาที่ไม่เคยหอนมาก่อน ดันหอนไม่หยุด ทำให้คิดว่าน่าจะเป็นวิญญาณของนางนิดตามมาขอบคุณถึงบ้าน ยอมรับว่าที่ผ่านมา เคยไปหาปลาตรงจุดดังกล่าวอยู่เป็นประจำ แต่ไม่ได้ไปมา 3 เดือนแล้ว เมื่อวานที่ไปเพราะเห็นว่าน้ำมันลดแล้วปลาน่าจะเยอะ ซึ่งถามว่าทำไมตัวเองถึงคิดว่าศพที่เจอเป็นศพนางนิด เป็นเพราะว่าที่ผ่านมาตนเองติดตามข่าวมาโดยตลอด