ช็อก คลิปวินโฉดฉุดเด็กเข้าตึก แถน้องสมยอมลูบไม่ร้อง แม่ฉะเลวมีดกรีดคอเลือดโชก (คลิป)

เมื่อวันที่ 7 มิ.ย. 65 เวลา 17.00 น. พ.ต.ท.ธนาธิป ครองงาม สว.(สอบสวน) สน.คลองตัน รับแจ้งเหตุมีเด็กนักเรียนหญิงถูกคนร้ายล่อลวงไปกระทำการละเมิดทางเพศ เหตุเกิดบริเวณด้านหน้าโรงแรมพระโขนง 37 ซอยภูมิจิตร ถนนพระราม 4 แขวงพระโขนง เขตคลองเตย กรุงเทพฯ​ จึงเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่อาสามูลนิธิร่วมกตัญญู

ล่าสุด สามารถจับกุมตัวผู้ก่อเหตุได้แล้ว และอยู่ในระหว่างการสอบสวน เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานมาดำเนินคดีต่อไป เบื้องต้นให้การระบุว่า ตั้งใจอยากจะร่วมหลับนอนกับผู้เสียหาย ส่วนโทรศัพท์ของผู้เสียหาย อ้างว่าได้นำไปโยนทิ้งลงคลองใกล้กับจุดที่ถูกจับกุม

ทีมข่าวยังได้รับกล้องวงจรปิด ความยาว 3.43 นาที เป็นคลิปวิดีโอบริเวณทางเข้าโรงแรม ซึ่งจับภาพขณะแม่บ้านเข้าช่วยเหลือเด็กนักเรียนผู้เสียหาย

วันที่ 8 มิ.ย. 65 ทีมข่าวเดินทางมาที่โรงแรมม่านรูด ย่านซอยภูมิจิตร ถนนพระราม 4 แขวงพระโขนง เขตคลองเตย กรุงเทพฯ เวลาประมาณ 10.40 น. พ.ต.อ.ภพธร จิตต์หมั่น รอง ผบก.น.5 พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.คลองตัน ได้เดินทางลงพื้นที่ตรวจสอบจุดเกิดเหตุ

เวลาประมาณ 11.30 น. เจ้าหน้าที่สำนักงานเขตกรุงเทพมหานคร ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบกรณีที่เสื้อวินจักรยานยนต์ที่ผู้ก่อเหตุนั้นสวมใส่ ซึ่งเสื้อดังกล่าวเป็นของพ่อผู้ก่อเหตุ นายสมควร แจ้งสัตย์ อายุ 63 ปี พ่อของผู้ก่อเหตุ เผยว่า เมื่อวานนี้ช่วงบ่ายมีคนมาเรียกตนเลยทราบเรื่อง แต่พอไปตามตัวผู้ก่อเหตุ ก็ไม่เจอแล้ว กระทั่งผู้ก่อเหตุได้ติดต่อไปหาเพื่อนตัวเอง เพื่อนเลยเข้าไปรับพาไปหาเจ้าหน้าที่ตำรวจ วันนี้ตนได้เข้าไปเยี่ยมลูกแล้ว และได้พยายามสอบถามว่าทำไปทำไม คิดอะไรอยู่ แต่ทางผู้ก่อเหตุไม่ได้ตอบ แต่เกาะกรงมองอย่างเดียว ส่วนตัวตอนแรกตั้งใจจะไปด่า แต่เรื่องเกิดขึ้นแล้วกลัวว่าหากยิ่งไปต่อว่า อาจจะคิดสั้นแขวนคอในห้องขัง

ทั้งนี้ ตนกับผู้ก่อเหตุอาศัยอยู่ที่ห้องแถวเดียวกัน แต่ห้องพักอยู่คนละชั้นกัน และตนไม่ค่อยได้เข้าไปพูดคุยด้วย เพราะทำงานเข้าเวรดึก สำหรับพฤติกรรมเชิงชู้สาว เป็นเรื่องปกติของผู้ชายที่จะชอบผู้หญิง แต่ไม่เคยคิดจะมาทำแบบนี้ ส่วนเสื้อวินจักรยานยนต์นั้น ผู้ก่อเหตุเป็นคนขอไปใส่ เพื่อทำงานหาเงินให้ลูกชาว 3 คนที่ยังเรียนหนังสือ ตอนแรกตนก็ตั้งใจจะพาไปโอนเสื้อเป็นชื่อของลูก แต่ติดปัญหาตรงที่ลูกยังไม่ได้สอบใบขับขี่สาธารณะ และอยู่ในระหว่างการดำเนินการ

หลังจากนี้ หากเจ้าหน้าที่ตัดสินว่าไม่สามารถใช้เสื้อแทนกันได้ ตนก็ยินดีให้ยึดเสื้อวินไป และไม่ได้เสียใจ เพราะยอมรับสภาพที่เกิดขึ้นแล้ว แต่ตนคงจะไม่ไปรับผิดแทน เพราะไม่ใช่คนทำ

ด้าน เจ้าหน้าที่สำนักงานเขต กรุงเทพมหานคร กล่าวกับทางพ่อของผู้ก่อเหตุว่าหากจะให้ทายาทขับต่อจะต้องทำหนังสือมอบอำนาจ และถ้ายังทำไม่ทำจะถือว่านำเสื้อไปขับโดยผิดกฎหมาย ซึ่งหลังจากนี้ ทางหน่วยงานจะนำเรื่องเข้าประชุมกับทางกรมขนส่ง เพื่อทำการตรวจสอบอีกครั้ง เพราะจากการสอบถามในวันนี้ ทราบว่าอยู่ในระหว่างการทำเรื่องโอนย้ายชื่อ และอยู่ในระหว่างการทำใบขับขี่สาธารณะ

เวลาประมาณ 17.30 น. ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวผู้ก่อเหตุกลับมาที่ห้องสืบสวน หลังจากที่พาตัวผู้ก่อเหตุไปชี้จุดเกิดเหตุอย่างเงียบ ๆ โดยให้ข้อมูลเพียงว่าชี้จุดทั้งหมด 3 จุด คือจุดที่ขับรถไปรับ หน้าโรงเรียน และจุดที่ก่อเหตุ หน้าห้องแถว และจุดที่ผู้เสียหายหนีออกมา ทางเข้าโรงแรม ทั้งนี้ ทีมข่าวพยายามสอบถามทางผู้ก่อเหตุ แต่ไม่ได้ตอบ ก่อนเจ้าหน้าที่ตำรวจจะนำตัวเข้าห้องไป

คลิปกล้องวงจรปิด หน้าห้องแถวของผู้ก่อเหตุ เหตุการณ์ที่ผู้ก่อเหตุบอกว่าเด็กไม่ขัดขืน ความยาว 2.46 นาที จับภาพขณะผู้ก่อเหตุ ขับรถพาผู้เสียหายมาที่ห้องแถว

ผู้ก่อเหตุพยายามดันผู้เสียหายให้เข้าไปที่ห้องแถว แต่ผู้เสียหายไม่ยินยอม จึงมีการยื้อจุดอยู่สักพักหนึ่ง จนผู้เสียหายดิ้นหลุด และวิ่งหนี จากนั้นผู้ก่อเหตุเดินหนีเข้ามาในห้องแถว และถอดเสื้อวินอยู่ที่หน้าทางเข้า ก่อนเดินเข้าห้องแถวไป ซึ่งเห็นชัดเจนว่าเด็กขัดขืนตลอดเวลา

นายต่าย (นามสมมติ) เพื่อนของผู้ก่อเหตุ เผยว่า เมื่อวานนี้ หลังจากเกิดเหตุ นายสมศักดิ์ ผู้ก่อเหตุได้หายตัวไป และไม่มีใครติดต่อได้ ส่วนตัวพยายามโทรหาจนนายสมศักดิ์ยอมรับสาย และเล่าให้ฟังว่าตัวเองไม่ได้ตั้งใจทำ และเห็นว่าน้องผู้เสียหายเล่นด้วย เลยคิดว่ายินยอม ทั้งยังขอให้ตนช่วยเหลือ และให้โทรหาผู้ใหญ่ให้ ส่วนตัวเลยโทรหาตำรวจที่รู้จัก จนสามารถเกลี้ยกล่อมให้เข้าไปหาได้ ก่อนจะเจอตัว และพามามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยขณะที่ไปเจอนั้น ตนไม่ทราบว่าผู้ก่อเหตุมีอาการเมาหรือเปล่า แต่ก็เป็นไปได้ว่าก่อนที่ก่อเหตุอาจจะเมา เลยขาดสติยับยั้งช่างใจ

 

ทั้งนี้ ผู้ก่อเหตุไม่เคยมีพฤติกรรมเช่นนี้มาก่อน และไม่เคยคิดว่าจะมาก่อเหตุ ซึ่งจากคำกล่าวอ้างของผู้ก่อเหตุ ตนมองว่าไม่สมเหตุสมผล และคิดว่าไม่น่าจะทำเช่นนี้ เพราะทางน้องผู้เสียหายก็อุตส่าห์ไว้ใจ เห็นว่ารู้จักกับเพื่อนแม่จิงยอมนั่งวินด้วย ทั้งนี้ หากพ้นโทษออกมา ตนมองว่าคนภายในซอยคงจะไม่ยอมรับ และไม่ให้กลับเข้ามาแล้ว

ทีมข่าวได้รับคลิปวิดีโอที่อัดเสียงขณะเพื่อนของผู้ก่อเหตุโทรพูดคุยกับผู้ก่อเหตุทางเฟซบุ๊ก โดยเนื้อหาผู้ก่อเหตุพยายามปฏิเสธว่าไม่ได้ตั้งใจ และพยายามเล่าเหตุการณ์อ้างว่า "น้องไม่ได้ขัดขืน เลยไม่คิดว่าจะเกิดเรื่อง" ทั้งที่ในคลิปก็เห็นอยู่ว่าน้องขัดขืนชัดเจนแบบชัด ๆ

นางสาวอาย (นามสมมติ) อายุ 34 ปี แม่ของเด็กหญิง บอกว่า ตั้งแต่เกิดเหตุตนพาลูกไปพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล เพิ่งจะพาตัวกลับมาบ้าน เมื่อช่วงค่ำที่ผ่านมา โดยยังคงมีแผลฟกช้ำตามร่างกาย และหัวเข่าถลอก ซึ่งคืนนี้ตนได้อนุญาตให้เพื่อน ๆ ของลูกสาวมาค้างที่บ้าน เพื่อที่ลูกสาวจะได้สบายใจและผ่อนคลายขึ้น

ส่วนด้านคดีเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้รายงานความคืบหน้าให้ตนทราบ แม้แต่การจับกุมตัวคนร้ายได้ ตนก็ไม่ได้ทราบจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่ทราบจากสื่อและชาวบ้าน แต่ล่าสุดตนได้พูดคุยกับเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว ทราบว่าผู้ก่อเหตุไม่มีเงินประกันตัวในชั้นพนักงานสอบสวน และคาดว่าก็คงไม่มีเงินประกันตัวในชั้นศาลเช่นกัน ตนขอดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุให้ถึงที่สุด อยากให้ชั้นศาลเพิ่มข้อหาเกี่ยวกับการทำร้ายร่างกาย และการหวังที่จะล่วงละเมิดทางเพศ เนื่องจากชั้นพนักงานสอบสวนไม่ได้แจ้งข้อหาเอาไว้

ทั้งนี้ ตนยังเป็นห่วงสภาะจิตใจของลูกสาว เนื่องจากลูกสาวแม้จะดีใจที่จับตัวคนร้ายได้ แต่ยังคงจำเหตุการณ์ได้ดี และร้องไห้ออกมาเมื่อเห็นข่าว โดยได้มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดต่อเข้ามาเพื่อจะเข้ามาฟื้นฟูสภาพจิตใจให้ลูกสาวของตนแล้ว จากนี้ ตนจะพยายามดูแลลูกสาวอย่างใกล้ชิด คงไม่ถึงขั้นที่จะห้ามลูกสาวนั่งรถจักรยานยนต์รับจ้าง เพราะอนาคตลูกสาวก็ต้องโตเป็นผู้ใหญ่ โดยทั้งตนและลูกสาวจะต้องก้าวข้ามความหวาดระแวงจากเหตุที่เกิดขึ้นไปให้ได้

ทีมข่าวเดินทางมาที่โรงแรมบริเวณทางเข้าซอยที่เกิดเหตุ ห่างจากห้องแถวของผู้ก่อเหตุประมาณ 50 เมตร นางสาวเพชร (นามสมมติ) แม่บ้านโรงแรมที่เข้าช่วยเหลือน้องผู้เสียหาย เปิดใจว่า เมื่อวานนี้ตนกำลังทำงานอยู่ ขณะนั้นตนได้ยินเสียงผู้หญิงร้องขอความช่วยเหลือเลยออกไปดู เจอกับผู้ก่อเหตุที่กำลังฉุดกระชากลากถูน้องผู้เสียหาย ตนพยายามสอบถามว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ผู้ก่อเหตุอ้างว่าสามีภรรยาทะเลาะกันไม่ต้องยุ่ง ทั้งที่เด็กใส่ชุกนักเรียน

จนผู้เสียหายดิ้นหนีออกมาหลบข้างหลังตน ผู้ก่อเหตุก็ยังพูดกับผู้เสียหายในทำนองว่าไปเก็บของออกจากห้องเลย พูดเพื่อให้เราตายใจ แต่ตนมองว่าค่อนข้างจะรุนแรง เลยบอกว่าหากมีอะไรให้เข้ามาคุยกันในโรงแรม เพราะในนี้มีเจ้าหน้าที่คอยดูแล เมื่อผู้ก่อเหตุได้ยินว่ามีเจ้าหน้าที่ก็ตกใจและเดินกลับไป

ต่อมาตนได้พาน้องผู้เสียหายเข้ามานั่งพักที่สำนักของโรงแรม และบอกให้น้องโทรหาผู้ปกครอง เมื่อผู้ปกครองทราบก็เข้ามาทันทีส่วนตัวไม่เคยรู้จักทั้งผู้เสียหาย และผู้ก่อเหตุ อีกทั้งผู้ก่อเหตุก็ไม่เคยมาใช้บริการที่นี่ อีกทั้งผู้ก่อเหตุก็ไม่ได้พาผู้เสียหายเข้ามาในโรงแรมนี้ตามที่เป็นข่าว แต่จะพาไปห้องตัวเอง แล้วตนช่วยมาได้ก่อนต่างหาก ทั้งนี้ เวลาที่โรงแรมจะรับลูกค้านั้นจะไม่รับนักเรียกนักศึกษา หากเป็นเด็กก็จะขอดูบัตรทันที

จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนอยากจะฝากเป็นอุทาหรณ์ถึงทุกคน หากเจอเหตุการณ์เช่นนี้อยากจะให้ยื่นมือเข้าไปช่วย ถ้าไม่กล้าเข้าไป อย่างน้อยก็ควรจะส่งเสียงร้องขอความช่วยเหลือ ซึ่งส่วนตัวมองว่าสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นรุนแรงมาก ต่อให้เป็นเรื่องภายในครอบครัวก็ไปควรจะทำร้ายร่างกายกัน