มือถือแตงโมอยู่ที่ใคร แม่พูดเอง อยู่ที่เดชา (คลิป)

มือถือแตงโมอยู่ที่ใคร แม่พูดเอง อยู่ที่เดชา (คลิป) แม่แตงโมเข้ารับเอกสารเตรียมรับศพลูกสาวทำพิธีเผาพรุ่งนี้ ยันมือถือส่งให้ทนายเดชาแล้ว

 

กรณีข่าวการเสียชีวิตของแตงโม ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์ นักแสดงชื่อดัง ซึ่งล่าสุดมีภาพส่วนตัวในมือถือถูกกล่อยออกมาอย่างต่อเนื่อง วันที่ 23 พ.ค. 65 เวลา 17.30 น. ที่สภ.เมืองนนทบุรี นางภนิดา ศิระยุทธโยธิน แม่ของแตงโม เดินทางมารับเอกสารรับศพของแตงโม โดยนางภนิดา ไม่ขอให้สัมภาษณ์ระบุว่า ขอพักเพื่อเตรียมงานฌาปนกิจของลูกสาวในวันพรุ่งนี้

 

 

มือถือแตงโมอยู่ที่ใคร? นางภนิดา ให้ข้อมูลว่าโทรศัพท์ของแตงโมไม่ได้อยู่ที่ตัวเองแล้ว โดยได้ส่งให้ทนายเดชา ตั้งแต่ 3-4 วันแล้ว หลังจากที่มีภาพส่วนตัวของแตงโมหลุดออกมา ตัวเองก็กลัว จึงไม่ได้เก็บเอาไว้เอง ซึ่งจนถึงตอนนี้ก็ไม่รู้ว่ารูปหลุดออกมาได้อย่างไร เชื่อว่าน่าจะมีการแฮกข้อมูลจากโทรศัพท์มากกว่า

 

 

ทั้งนี้ ยอมรับว่าได้พูดคุยกับบังแจ็คจริง โดยมีคนกลางซึ่งเป็นผู้หวังดี เป็นคนประสานมา และบางครั้งก็คุยผ่านคนกลาง ไม่ได้คุยกับบังแจ็คโดยตรง โดยไม่ขอตอบว่าผู้หวังดีคือใคร แต่ไม่ใช่นายอัจฉริยะแน่นอน เพราะไม่เคยคุยกัน และภาพที่หลุดออกมาก็ไม่ใช่ฝีมือบังแจ็ค

 

 

นางภนิดา กล่าวต่อว่า ความสัมพันธ์กับทนายเดชายังรักกันดี ยังไม่มีความคิดเรื่องการเปลี่ยนทนาย ส่วนเรื่องคดียังไม่ขอตอบต้องดูพยานหลักฐานให้รอบด้าน ทั้งนี้อยากจะทำพิธีเผาแตงโมให้เร็วที่สุด เพื่อจะได้ส่งลูกสาวไปอยู่ในอ้อมกอดของพระเจ้าสักที

 

 

หลังจากเฟซบุ๊ก Happy Melon official มีการเคลื่อนไหวปริศนา ทั้งมีการโพสต์ภาพต่าง ๆ บนเรือซึ่งเป็นภาพที่หลายคนไม่เคยเห็นมาก่อน ทั้งยังมีการโพสต์ภาพรอยช้ำที่ตา รอยแผลที่หลังแตงโมและรอยช้ำที่ขา ซึ่งสร้างความสงสัยให้กับสังคมว่าโดนทำร้ายหรือเป็นภาพเก่าหรือไม่

 

 

"ฮิปโป ฉันท์ชนะ ยิ้มสาย" เพื่อนสนิทและหนึ่งในทีมผู้จัดการดูแลของแตงโม กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า รูปรอยแผลต่าง ๆ ของแตงโม ซึ่งรูปแรกเป็นรูปรอยแดงช้ำบริเวณเบ้าตา ซึ่งส่วนในนี้ตนไม่เคยภาพดังกล่าวมาก่อน และไม่ทราบว่ารอยแผลในภาพดังกล่าวนี้เกิดจากอะไร จากที่ตนมองจากรูปโดยผิวเผินหากไม่มีเรื่องของคดีมาเกี่ยวข้องนั้น อาจจะเป็นอาการแพ้อาหารก็ได้ ส่วนตัวแล้วไม่แน่ใจและไม่ทราบว่าแพ้อะไร ดูจากแผลแล้วไม่น่าจะเกิดจากการชก และก็ไม่น่าจะมีใครไปชกหน้าดาราในตอนนั้น

 

 

ซึ่งตั้งแต่ตอนที่ตนมาดูแลแตงโมช่วงเดือนธันวาคมที่ผ่านมา เขาก็เคยบอกเล่น ๆ กับตนว่าอยากไปศัลยกรรมแก้จมูก แต่ตนก่อนห้ามไว้ว่าอย่าเพิ่งทำ โดยตั้งแต่ตอนนั้นจนถึงตอนนี้ก็น่าจะไม่มีการทำศัลยกรรมอะไร ส่วนตัวไม่แน่ใจว่าเป็นอาหารแพ้อาหารทะเลหรือไม่

 

 

ส่วนภาพรอยแผลที่บริเวณด้านหลังช่วงไหล่ของแตงโม เขาเคยเปิดให้ตนดูเอง ซึ่งเป็นรอยแผลจากอูฐกัด เป็นเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อช่วงประมาณต้นปี ช่วงปีใหม่วันนั้นแตงโมพาลูกไปเที่ยวสวนสัตว์ แล้วน้องเอาหญ้าให้อูฐกิน แล้วตอนยื่นหญ้าไปอยู่ใกล้ไหล่ของ แตงโมพอดี อูฐก็เลยงับโดนไหล่

 

 

ส่วนภาพที่ 3 รอยช้ำที่ขานั้นสำหรับภาพนี้ตนไม่เคบเห็นมาก่อน ซึ่งส่วนตัวมองว่าอาจจะเกิดจากการที่แตงโมเดินชนโต๊ะหรืออะไรก็ได้ ซึ่งในส่วนนี้ตนม่แน่ใจ และไม่ทราบว่าเกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อไร แต่จากที่ตนเห็นถ้าเป็นรอยแผลช้ำที่ตนพอจะจำได้คือตรงศีรษะ จากเหตุการณ์ขณะที่ขับรถไปส่งที่กองถ่าย และระหว่างนั้นแตงโมแต่งหน้าบนรถ แล้วศีรษะไปโขกกับกระจกที่เปิดลงมา 3 รอบ โดยที่ผ่านมาแตงโมค่อนข้างเป็นคนซุ่มซ่าม เดินชนโต๊ะบ้าง แต่ก็ไม่ถึงกับมีมีรอยแผลอยู่ตามตัว

 

นอกจากนี้ มุมมองส่วนตัวในฐานะเพื่อนและประชาชนที่ติดตามข่าว หลังจากที่มีคนนำภาพเหล่านี้ของแตงโมมาโพสต ว่าส่วนหนึ่งก็ดีที่มีภาพบ้างอย่างที่เราไม่เคยเห็นมาก่อนออกมา อาจจะเป็นอีกรูปหนึ่งที่เราสามารถนำมาใช้วิเคราะห์หรือตั้งข้อสังเกตในคดีนี้ได้ แต่ส่วนหนึ่งที่ตนขอย้ำเรื่องนี้และไม่โอเค คือการสวมรอยเป็นแตงโม ใช้แอคเคาต์ต่าง ๆ ของแตงโมและกล่าวอ้างว่ายังไม่เสียชีวิต เหมือนการก้างล่วงความเป็นส่วนเกินไป อยากให้ลองนึกถึงจิตใจของคนที่สูญเสียคนรักไป

 

ส่วนกระแสที่คากเดากันว่าอาจจะเป็นทางคุณแม่ส่งต่อให้บางคนหรือบุคคลที่ 3 นั้น ในส่วนนี้ตนมองว่าในเมื่อเราไม่ได้รู้เรื่องของความจริงทั้งหมดที่เกิดขึ้น ตอนนี้ที่เราพูดคุยกันอยู่มันคือการตั้งข้อสังเกต ข้อวิเคราะห์ทั้งหมด จึงไม่สามารถไปพูดฟันธงได้ว่าใครเป็นคนทำ