Logo site Amarintv 34HD
Logo LiveSearch
Search
Logo Live
Logo site Amarintv 34HD
ช่องทางติดตาม AMARINTV
  • facebook AMARIN TV 34 HD
  • x AMARIN TV 34 HD
  • line AMARIN TV 34 HD
  • youtube AMARIN TV 34 HD
  • instagram AMARIN TV 34 HD
  • tiktok AMARIN TV 34 HD
  • RSS Feed AMARIN TV 34 HD
สุดเหี้ยม! ยิงผู้ใหญ่สาวหน้าพรุน "เบิ้ม" หวิดซวย มือปืนตัวจริงโผล่รับแค้นสั่งเลิกยา (คลิป)

สุดเหี้ยม! ยิงผู้ใหญ่สาวหน้าพรุน "เบิ้ม" หวิดซวย มือปืนตัวจริงโผล่รับแค้นสั่งเลิกยา (คลิป)

15 พ.ค. 65
18:24 น.
แชร์

จากกรณีเมื่อวันที่ 14 พ.ค. 65 เวลา 14.00 น. บริเวณหน้าที่ทำการผู้ใหญ่บ้านหมู่ 1 บ้านดอนชัย ต.สะเอียบ อ.สอง จ.แพร่ เกิดเหตุมีผู้ถูกยิงด้วยปืนแก๊ป ทราบชื่อ นางสุดารัตน์ ชัยมงคล หรือ ผู้ใหญ่อ้อ อายุ 49 ปี เป็นผู้ใหญ่บ้าน และเป็นเจ้าของบ้านที่เกิดเหตุ สภาพใบหน้าเต็มไปด้วยเลือด และมีกระสุนลูกปรายกระจายฝังในเต็มใบหน้า

908027817573

เจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลสอง แต่เนื่องจากอาการสาหัส จึงถูกส่งต่อไปที่โรงพยาบาลแพร่ แต่ก่อนที่จะนำส่งโรงพยาบาล ผู้บาดเจ็บได้รวบรวมสติ และเขียนชื่อผู้ต้องสงสัยคนหนึ่งลงในกระดาษ แล้วยื่นให้กับพยาบาล โดยชื่อที่เขียนคือ "เบิ้ม"

968514

ตำรวจจึงเชิญตัว นายเหรียญ หรือ เบิ้ม อายุ 53 ปี มีบ้านอยู่ฝั่งตรงข้ามกับบ้านที่เกิดเหตุ และเป็นผู้ต้องสงสัยที่ผู้บาดเจ็บเขียนชื่อให้เจ้าหน้าที่ในตอนแรก และเป็นผู้ป่วยโควิด-19 ซึ่งก่อนเกิดเหตุ ผู้บาดเจ็บเคยตักเตือนไม่ให้ออกมาเดินเพ่นพ่าน อาจทำให้ไม่พอใจหรือไม่ จึงต้องทำการตรวจคราบเขม่าปืนที่มือและสอบสวน เบื้องต้นเจ้าตัวปฎิเสธไม่รู้เห็นทั้งนั้น เจ้าหน้าที่จึงปล่อยตัวกลับบ้าน เนื่องจากไม่มีหลักฐานมัดตัว และไม่มีพฤติกรรมหลบหนี ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่เป็นอย่างดีในการสอบสวน

451832

ในขณะเดียวกันเมื่อคืนนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับรายงานเพิ่มเติมว่า ผู้ใหญ่อ้อ ผู้บาดเจ็บ เคยมีปัญหาทะเลาะกับญาติคนหนึ่ง ชื่อว่า นายเสก หรือ นายเสกสรร ปัญญาพล อายุ 52 ปี ซึ่งอยู่คนละหมู่บ้าน แต่ไม่ไกลกันมาก แล้วมีชาวบ้านซึ่งไม่ประสงค์ออกนามบอกกับเจ้าหน้าที่ว่าช่วงเช้าก่อนเกิดเหตุ เห็นนายเสกขี่รถ จยย. ถือปืนแก๊ปมาในหมู่บ้าน แต่ด้านของนายเสกบอกว่าไม่รู้ไม่เห็นกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ก็ยังไม่ปักใจเชื่อ จึงคุมตัวสอบปากคำต่อที่โรงพักตั้งแต่เวลา 21.00 น. คืนที่ผ่านมา จนกระทั่งยอมรับสารภาพในที่สุด

770306

ล่าสุด วันที่ 15 พ.ค. 65 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางลงพื้นที่ไปยังบ้านที่เกิดเหตุ พบว่าตรงบริเวณที่ผู้ใหญ่อ้อโดนยิงเป็นพื้นปูนหน้าบ้าน ซึ่งเป็นจุดสำหรับบรรจุขวดแก้วใส่กระสอบ พบรอยถลอกตรงผนังปูน 2 จุด พบคราบเขม่าดินปืนที่บริเวณขวดแก้วที่วางอยู่ใกล้ ๆ พบคราบเลือดของผู้บาดเจ็บกระจายเต็มพื้น

เวลา 16.30 น. หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจเค้นสอบปากคำนายเสก เจ้าตัวก็ยอมรับว่าเป็นคนยิง เนื่องจากไม่พอใจใน 4 ประเด็นคือ

1.ที่ดินบริเวณที่พักของนายเสกจำนวน 2 ไร่กว่า ซึ่งเดิมทีเป็นชื่อของพ่อของผู้ใหญ่อ้อแล้วได้ทำการโอนให้กับผู้ใหญ่อ้อ เมื่อ 30 ปีที่แล้ว จากนั้นผู้ใหญ่อ้อก็แบ่งพื้นที่ส่วนหนึ่งให้เพื่อสร้างบ้านพักให้นายเสก แต่ไม่ได้ยกให้ เพราะเห็นว่าเขาเลิกกับภรรยาและตัวคนเดียว แต่เหมือนว่าทางนายเสกอยากจะขอที่ดินส่วนนั้นเป็นชื่อของเขาเลย เนื่องจากมองว่าเป็นญาติกันน่าจะแบ่งกันได้ แต่ผู้ใหญ่อ้อ ไม่ยอมให้

2.ด้วยความที่นายเสกมีพฤติกรรมเสพยาเสพติด แล้วด้านของผู้ใหญ่อ้อชอบมาว่ากล่าวตักเตือนเรื่องที่ตนเสพยาเสพติดบ่อย ๆ จึงรู้สึกไม่พอใจ

3.นอกจากผู้ใหญ่อ้อจะว่ากล่าวตักเตือนแล้ว ยังเคยพาตนไปรักษาที่โรงพยาบาลเฉพาะทางเกี่ยวกับจิตเวชถึง 2 ครั้ง มองว่าเหมือนเป็นการกล่าวหาว่าตนเป็นบ้า มีภาวะทางจิต ทั้งที่ไม่ใช่

4.จากการเข้าพบแพทย์ทั้ง 2 ครั้ง จะมีการเปลี่ยนยาไปเรื่อย ๆ และแรงขึ้น ทำให้เมื่อทานเข้าไปแล้ว รู้สึกหลอนกระวนกระวาย จึงหยุดทานยาไป ทำให้มีอาการภาพหลอน คิดอยากจะฆ่าผู้ใหญ่อ้อ

684198

จากนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจก็คุมตัวนายเสกไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ โดยใช้กระบอกไม้ไผ่เป็นแทนอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุ บ้านพักของนายเสกซึ่งเป็นสถานที่ที่เจ้าตัวเตรียมปืนแก๊ปกระบอกที่ใช้ก่อเหตุ ด้วยการทำความสะอาดและบรรจุกระสุน 2 นัดเพื่อทดลองยิงที่หน้าบ้านพักก่อน จากนั้นก็บรรจุกระสุนอีก 1 นัด แล้วก็เดินไปขับรถ จยย. มุ่งหน้าไปยังบ้านผู้ใหญ่ โดยมือขวาถือปืนในแนวดิ่งและมือซ้ายขับรถ

213330

ทีมข่าวได้รับกล้องวงจรปิดจากบริเวณหน้าบ้านของผู้ใหญ่อ้อ โดยในเวลาประมาณ 13.35 น. จะได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 1 นัด และเสียงขวดล้มกระแทกพื้น ซึ่งช่วงที่ผู้ใหญ่โดนยิง จากนั้นเวลา 13.38 น. ลูกชายของผู้ใหญ่เดินไปดูบริเวณหน้าบ้าน แต่คาดว่าคงไม่เห็นว่าแม่ถูกยิง จึงเดินกลับเข้าไปในบ้าน และในเวลา 13.40 น. ด้านของผู้ใหญ่ส่งเสียงร้องไห้ออกมา ทำให้ลูกชายวิ่งกลับไปดูอีกรอบ จึงพบว่าแม่โดนยิงแล้ว

830574

นายมณีศักดิ์ ชัยมงคล อายุ 60 ปี สามีของผู้ใหญ่อ้อ เล่าว่าตอนที่เกิดเหตุประมาณ 13.00 น. ขณะที่ตนกำลังนอนพักอยู่หลังบ้าน ส่วนภรรยากำลังนั่งเก็บขาดแก้วใส่กระสอบอยู่หน้าบ้าน ก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 1 นัด ก่อนจะได้ยินเสียงกรีดร้องของภรรยาตามมา ตนก็เลยรีบวิ่งมาดู พบว่าที่บริเวณใบหน้าของภรรยาเต็มไปด้วยเลือด มีรูกระสุนบริเวณใบหน้า คอ และไหล่ขวา รวมประมาณ 4-5 จุด ไม่เห็นว่าใครเป็นคนยิง ตนจึงรีบโทรแจ้งเจ้าหน้าที่กู้ภัยทันที

แต่ก่อนที่ภรรยาจะไปโรงพยาบาลก็มีการเขียนชื่อเบิ้ม ใส่กระดาษแล้วยื่นให้กับพยาบาล เพื่อฝากมาให้ตนมอบแก่เจ้าหน้าที่ตำรวจ เพราะหลังจากโดนยิง ภรรยาเหลือบไปเห็นนายเบิ้ม ซึ่งเป็นเพื่อนบ้านฝั่งตรงข้ามยืนอยู่ที่รั้วบ้านของเขา และตะโกนให้ชาวบ้านช่วยกันเรียกรถพยาบาล แต่ภรรยาไม่ได้อธิบายเพิ่มเติมว่านายเบิ้มคือผู้ก่อเหตุหรือผู้เห็นเหตุการณ์ เพราะตอนนี้ภรรยาอยู่ในห้องไอซียู แต่พ้นขีดอันตรายแล้ว แต่พบว่าติดเชื้อโควิด-19 และสามารถตอบสนองด้วยการเขียนได้ แต่ไม่สามารถพูดได้ เนื่องจากยังต้องใส่เครื่องช่วยหายใจ รอเข้ารับการผ่าตัดนำกระสุนออก ยังไม่มีกำหนดการออกมาจากโรงพยาบาล

ส่วนนายเสกที่เป็นผู้ก่อเหตุนั้น ถือเป็นลูกพี่ลูกน้องของภรรยาตน จากที่เมื่อวานยังให้การปฏิเสธ ล่าสุดวันนี้ 07.00 น. ก็ต้องยอมจำนนต่อหลักฐาน เนื่องจากเจ้าหน้าที่ไปพบอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุ เป็นปืนแก๊ป หรือปืนไทยประดิษฐ์ วางอยู่ที่กองไม้หน้าริมถนน ถัดจากบ้านที่เกิดเหตุประมาณ 30 เมตร

ตนยอมรับว่าจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นยังทำใจไม่ได้ เพราะภรรยาตนอุตส่าห์แบ่งที่ดินส่วนหนึ่งและสร้างบ้านพักให้กับนายเสก โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใด ๆ แถมยังเลี้ยงดูเป็นอย่างดี มีอะไรก็แบ่งตลอด ใจลึก ๆ ก็โกรธ ที่ผ่านมาคอยตักเตือนด้วยความหวังดีเสมอ ไม่อยากจะเชื่อว่าวันหนึ่งเขาจะทำแบบนี้ อย่างไรก็ตาม ในเมื่อนายเสกได้ทำผิดไปแล้ว ก็ขอให้ยอมรับผิดตามกฎหมาย ไม่ประกันตัวและยังไม่ขอตอบตอนนี้ว่าสามารถให้อภัยได้ไหม

Advertisement

แชร์
สุดเหี้ยม! ยิงผู้ใหญ่สาวหน้าพรุน "เบิ้ม" หวิดซวย มือปืนตัวจริงโผล่รับแค้นสั่งเลิกยา (คลิป)