กลัวไม่ทันฤกษ์! เจ้าบ่าวไส้ติ่งแตกลาหมอแต่งเมีย กู้ภัยซึ้งตัดไส้ 10 ซม.ยังใจสู้ (คลิป)
จากกรณีผู้ใช้ติ๊กต็อกรายหนึ่ง ได้โพสต์คลิปโดยระบุข้อความว่า "แผลเจ็บแต่ใจไม่เจ็บ เมื่อเจ้าบ่าวผ่าไส้ติ่งคืนก่อนงานแต่ง" โดยในคลิปจะเป็นภาพเจ้าบ่าวมาพร้อมรถพยาบาล นอนมาในเตียงผู้ป่วย รถพยาบาลจอดหน้าเรือนนพเก้า สถานที่จัดงานแต่ง โดยมีเจ้าหน้าที่พยาบาลช่วยกันสวมชุดเจ้าบ่าวให้ภายในรถพยาบาล จากนั้นก็ได้เข็นเตียงเจ้าป่าวออกมา แล้วเข็นเตียงไปร่วมพิธี
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
โดยมีเจ้าสาวยืนรอรับและดูแลเจ้าบ่าวอยู่ตลอด เจ้าบ่าวได้ทำพิธีสงฆ์ และพิธีรับไหว้จนเสร็จ แล้วเดินกลับไปแอดมิดที่โรงพยาบาลต่อ
ล่าสุด วันที่ 11 พ.ค. 65 น.ส.นฤมล อาของเจ้าบ่าว บอกว่า เช้ามืดวันที่ 7 พ.ค. 65 เจ้าบ่าวมีอาการแน่นท้องและอาเจียน ทั้งที่ไม่มีอาการใดมาก่อน จนหมอวินิจฉัยว่าเป็นไส้ติ่ง และสั่งผ่าตัดคืนวันนั้นเลย โดยวิธีการบล็อกหลัง เพราะเจ้าบ่าวขอไว้ เนื่องจากอยากมีสติอยู่ตลอด เพื่อพรุ่งนี้เช้า วันที่ 8 พ.ค. จะมีแรงเข้าพิธีวิวาห์ได้
หลังการผ่าตัด โดยบาดแผลจากการรักษายาวถึง 10 เซนติเมตร แต่เจ้าบ่าวก็ยังมีใจสู้ที่จะกลับมาร่วมพิธีวิวาห์ที่ตั้งใจจัดไว้แล้วในวันที่ 8 พ.ค. โดยเจ้าตัวเข้าผ่าตัดในเวลา 23.00 น. และเสร็จประมาณ ตี 1 และฟื้นตัวตอนตี 5 จึงได้ขอหมอมาเข้าร่วมงานแต่ง โดยมีทีมกู้ชีพฉุกเฉินมาด้วย
ขณะเดินทางมายังสถานที่จัดงาน ตนก็บอกหลานว่าสู้ไปด้วยกัน ส่วนความรู้สึกของเจ้าบ่าวเจ้าตัวตอบว่า "รู้สึกอยากจะมาใจจะขาดครับ" เมื่อมีคนถามว่าเจ็บแผล เจ้าบ่าวก็ตอบว่า "เจ็บ แต่ใจไม่เจ็บ เจ็บแต่ตัว" ทำเอาญาติ ๆ ที่อยู่ใกล้ ๆ โห่แซวพร้อมกับซับน้ำตาให้กับความใจสู้ของเจ้าบ่าว
นอกจากญาติที่มารอรับแล้ว เจ้าสาวเองก็ได้มายืนรอพร้อมกับช่อดอกไม้ตรงท้ายรถ ในช่วงท้ายของพิธี เจ้าสาวได้กล่าวขอบคุณญาติที่มาร่วมงาน พร้อมกับพูดถึงเจ้าบ่าวว่า "ขอบคุณนะคะ คบกันมา 10 ปี จนกระทั่งถึงวันร่วมทุกข์ร่วมสุข ก็ยังสู้ไปด้วยกัน ขอบคุณค่ะ"
ตอนนี้เจ้าบ่าวกำลังพักฟื้นจากการผ่าแผลตัดใหญ่ ซึ่งหมอบอกว่าไส้ติ่งของเขายาวกว่าคนอื่น ต้องผ่าถึง 10 เซนติเมตร ทำให้เขายังไม่พร้อมจะออกมาเปิดใจ เพราะเพิ่งออกจากโรงพยาบาลเมื่อวันที่ 10 พ.ค. ที่ผ่านมา ส่วนที่เอาคลิปมาลงโซเชียลก็ไม่ได้ตั้งใจว่าจะดังขนาดนี้ แค่อยากเป็นกำลังใจให้คนอื่นและอยากให้คนอื่นที่มาดูมีความสุขไปกับคลิป เพราะครอบครัวตนผ่านมาได้แล้วมีความสุขก็อยากเอาลงเผยแผ่ให้คนอื่นดูแล้วมีความสุขไปด้วย
นางจิรภัทร สมพลวัฒนา เจ้าของเรือนนพเก้า พระราม 5 ที่เป็นผู้จัดงานแต่งงานของบ่าวสาว บอกว่า บ่าวสาวทั้งคู่ก็ติดต่อกับทางเราเพื่อจัดงานแต่งงาน ปกติเหมือนคู่อื่นทั่วไป ก่อนวันงานแต่ง 1 วันเจ้าสาวก็แจ้งมาช่วง 21.00 น. บอกว่าเจ้าบ่าวต้องผ่าตัดกะทันหัน ตอนนั้นเราก็ตกใจ คิดว่างานจะไม่ได้ไปต่อ แต่เจ้าสาวยืนยันว่าจัดงานแต่งงานได้ เจ้าบ่าวมาตามกำหนดไม่มีปัญหาก็เลยคิดว่าคงผ่าเล็ก
พอตอนเช้ามา พิธีทุกอย่างก็เริ่มตามกำหนด มีรถพยาบาลมาจอดหน้าประตูทางเข้างาน และเข็นเจ้าบ่าวมาทั้งเตียงผู้ป่วย วินาทีนั้นรู้สึกประทับใจมาก เพราะเจ้าบ่าวป่วยหนัก แผลผ่าตัด 10 เซนติเมตร ไม่ใช่การผ่าตัดเล็กเลย แผลยังอักเสบก็ยังอุตส่าห์ร่วมพิธีจนจบ
หลังจากนั้นก็กลับไปแอดมิตต่อ ทำงานแต่งงานในวันนั้นไม่ได้ติดขัดอะไรเลย เราเคยเห็นข่าวในข่าว เจ้าบ่าวเทเจ้าสาว แต่นี้อดทนเดินทางมาทั้งที่เพิ่งผ่าตัดเสร็จ ล่าสุดก็ได้ติดตามถามอาการเจ้าบ่าวกับทางเจ้าสาวก็บอกว่าเพิ่งออกจากโรงพยาบาลเมื่อวานนี้เอง ตอนนี้ยังต้องพักฟื้น
นางสาวสุภาวี หอมหวาน และนายภัทรวินท์ พรหมอินทร์ เจ้าหน้าที่รถพยาบาล ที่เป็นคนพาผู้ป่วยไปงานแต่ง บอกว่าตอนแรกที่ได้รับแจ้งก็คิดว่าเป็นเคสผู้ป่วยติดเตียง ผู้ป่วยเรื้อรัง อยากจะไปงานบุญ แต่พอไปรับถึงห้องผู้ป่วย ผู้ป่วยก็บอกว่า "ผมจะไปงานแต่ง เป็นเจ้าบ่าว" ตนยอมรับว่าอึ้ง เพราะเจ้าบ่าวเพิ่งผ่าตัดเสร็จไม่นาน
ทีมพยาบาลกังวลเรื่องความปลอดภัยของผู้ป่วย แต่ก็เข้าใจว่าเป็นวันสำคัญของผู้ป่วย และมีแค่วันเดียว ซึ่งตัวเจ้าบ่าวเองใจสู้มาก ๆ เราเป็นเจ้าหน้าที่ก็ต้องสู้ด้วย ระหว่างเดินทางก็สอบถามพูดคุยกับผู้ป่วยตลอดให้รู้สึกผ่อนคลาย จริง ๆ ทราบว่าเจ้าสาวไม่อยากให้เจ้าบ่าวต้องเดินทางไป แต่เจ้าบ่าวเป็นคนขอออกไปเอง เพราะเขาไม่อยากให้เจ้าสาวแต่งงานคนเดียว เราก็รู้สึกประทับใจว่าใจเขาสู้มาก
เมื่อไปถึงสถานที่จัดงาน ก่อนเข้างานก็ช่วยเจ้าบ่าวเปลี่ยนชุด แปลงร่างจากผู้ป่วยเป็นเจ้าบ่าว จนพาเจ้าบ่าวนั่งเตียงแบบปรับได้ ดูแลไม่ให้แผลผ่าตัดฉีก และดูแลเจ้าบ่าวทุกขั้นตอนของพิธีงานแต่ง เขาแต่งงานอย่างเรียบง่าย ก็ไม่ได้ยากสำหรับทีมพยาบาล จนจบงานก็เปลี่ยนเป็นชุดโรงพยาบาลให้เจ้าบ่าวและกลับไปส่งที่โรงพยาบาล เพื่อพักฟื้นต่อ นี่ถือเป็นเคสแแรกของทีมงานที่รู้สึกประทับใจ และมีความสุข ได้ช่วยให้ผู้ป่วยมีความสุขที่สุดในวันสำคัญที่สุด
Advertisement
