กรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.คูคต จ.ปทุมธานี รับแจ้ง มีคนร้ายบุกยิงเจ้าของร้านแซ่บในสวนน้องปืน พร้อมภรรยา และลูกชายเสียชีวิต 3 ศพ เหตุเกิดที่บ้าน ม.11 ซอยนางสำเภา ต.ลาดสวาย อ.ลาดสวาย จ.ปทุมธานี โดยผู้ก่อเหตุทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวเอาไว้ได้ ภายหลังเจ้าหน้าที่เข้าทำการตรวจสอบ พบว่าเป็นบ้านไม้ยกสูง ซึ่งเป็นบ้านชั้นเดียว
บริเวณหน้าบ้านพบร่าง นางสาวกรวิภา ศรีคร้าม หรือ น้ำ ภรรยาย ถูกยิงเข้าที่ด้านหลัง 3 นัด บริเวณขาและเอวอย่างละ 1 นัด ถัดเข้าไปบริเวณประตูหน้าบ้าน ซึ่งอยู่บริเวณประตูกระจก พบร่างของเด็กชายปืน อายุ 5 ขวบ ลูกชาย ถูกยิงเข้าที่บริเวณหน้าอก 5 นัด ส่วนบริเวณในบ้านซึ่งอยู่ทางเข้าห้องนอน พบร่างของนายศราวุฒิ เทียมรักษ์ หรือ เบล อายุ 27 ปี สามีนอนเสียชีวิต ถูกยิงเข้าที่บริเวณหน้าอก 5 นัด คนก่อเหตุคือ นายอำพล บุญช่วย หรือ แก่ หรือชื่อเดิม มิ้น อายุ 29 ปี เพื่อนของผู้ตาย
วันที่ 5 พ.ค. 65 หลังจากเกิดเหตุพบว่าบ้านหลังดังกล่าวได้มีการปิดเงียบ ญาติได้นำของคาวหวานและเครื่องเซ่นไหว้ ตั้งโต๊ะเป็นสำรับอาหาร มีการจุดธูปเพื่อบอกกล่าวดวงวิญญาณ ส่วนร้านอาหารซึ่งเป็นร้านของนายศราวุธ คนตาย หลังเกิดเหตุก็ได้มีการขึ้นป้ายปิดร้าน ญาติบางส่วนก็ได้เดินทางไปจัดเตรียมงานศพที่วัดหนองใหญ่ เป็นสถานที่ตั้งบำเพ็ญกุศลศพของทั้ง 3 ราย
บริเวณด้านหน้าบ้านมีบ่อเลี้ยงปลา มีเต่าญี่ปุ่นมากกว่า 10 ตัว ที่น้องปืน 5 ขวบ เป็นคนชื่นชอบเต่า ได้ซื้อมาเลี้ยงเอาไว้ ญาติให้ข้อมูลกับทีมข่าวว่าเป็นสิ่งแทนใจและมองต่างหน้า โดยเป็นของที่น้องปืนชื่นชอบ
ทีมข่าวจึงได้มีการตรวจสอบกล้องวงจรปิดเพิ่มเติม ของบริษัทเอกชนภายในซอยเดียวกันกับที่เกิดเหตุ ห่างจากบ้านที่เกิดเหตุประมาณ 100 เมตร จับภาพรถแท็กซี่สีชมพู ที่นายอำพลเดินทางมาพร้อมน้องหมาสีขาว พันธุ์ปอม เดินทางมาที่บ้านของนายศราวุธ แต่ปรากฏว่าเจ้าตัวไม่อยู่ ออกไปซื้อกับข้า เห็นรถแท็กซี่ผ่านเข้าซอยในช่วงเวลาในกล้อง 12.48 น. แท็กซี่ที่ขับเข้าไปส่งนายอำพลในซอย ก่อนที่จะขับกลับออกมาเวลาประมาณ 12.50 น.
ภาพจากกล้องวงจรปิด ซึ่งเป็นภาพภายในบ้านของนายจักรกฤษ เพื่อนบ้านของคนตาย มีเสียงปืนจะดังรัว 14-15 นัด หลังจากนั้น โดยเจ้าตัวได้ลุกขึ้นจากที่นอนในบ้าน ไปยืนที่หน้าต่างหลังบ้าน เพื่อพูดคุยกับนางสาวกรวิภา คนตาย แล้วมีการพูดคุยทำนองว่า "สงสัยสามีซ้อมยิงปืน แต่ปืนขัดลำก้อง จึงยิงทิ้งเลยน้ำ"
จากนั้นช่วงเวลาประมาณ 13.49 น. ได้ยินเสียงปืนดังรัวขึ้น รวมทั้งสิ้น 15 ครั้ง ทิ้งห่างอีกประมาณเกือบ 1 ชั่วโมง เวลาประมาณ 14.54 น. เห็นว่ารถตำรวจสายตรวจจากโรงพัก สภ.คูคต คันแรกเดินทางมาถึงบ้านที่เกิดเหตุ
เวลา 12.00 น. บรรยากาศที่อาคารกองพยาธิกรรม โรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดช กรมแพทย์ทหารอากาศ แขวงสายไหม เขตสายไหม กรุงเทพฯ เป็นไปด้วยความโศกเศร้า ครอบครัวของนายศราวุฒิ และนางสาวกรวิภา ติดต่อรอรับศพ
นายเชาว์ ศรีคร้าม อายุ 59 ปี พ่อของนางสาวกรวิภา เปิดใจว่า ความรู้สึกตอนนี้บอกไม่ถูกว่ารู้สึกอย่างไร เพราะมันสูญเสียไปหมดทุกอย่าง เรื่องความบาดหมางของผู้ก่อเหตุกับลูกเขยตนเองไม่ทราบ รวมถึงลูกสาวไม่เคยมาปรึกษาปัญหาความเครียดหรือบอกอะไรเป็นลางเลย ทุกอย่างปกติทั้งหมด และส่วนตัวไม่รู้จักกับคนก่อเหตุมาก่อน
คนก่อเหตุทำเกินไปมาก ไม่ควรจะทำกับเด็กอายุ 5 ขวบแบบนี้ ยิงไปถึง 5 นัด ตนเองมีลูกทั้งหมด 3 คน และลูกสาวคนนี้เป็นลูกคนเดียวที่มีหลาน ถ้าหากจะมีปัญหาก็ไม่ควรมาลงกับเด็กด้วย ตอนนี้ไม่เหลือหลานเป็นตัวแทนความคิดถึงให้ดูแทนลูกเลย ตนเองไม่ต้องการจะเห็นหน้าผู้ก่อเหตุ ไม่ต้องการให้มาขอขมาศพ
สำหรับ น้องปืน หลานชายเป็นเด็กที่หัวไว มีพัฒนาการที่ไวกว่าเด็กคนอื่นในวัยเดียวกัน และน้องปืนยังชอบเลี้ยงสัตว์ ปู่ของหลานชายทำบ่อเต่าไว้ให้ตั้งแต่ 1 ขวบ ตอนนั้นหลานซื้อเต่าญี่ปุ่นมาหลายตัว ตั้งแต่ยังตัวเล็ก จนตอนนี้โตกันหมดแล้ว ที่ผ่านมาเคยบอกว่าหลานว่าจะขอให้นำเต่าไปปล่อย และจะเลี้ยงปลาดุกแทน แต่หลานไม่ยอม จึงช่วยหลานดูแลจนถึงปัจจุบัน น้องปืนยังเคยขอเลี้ยงสุนัขด้วย แต่ตนเองไม่ชอบ จึงยังไม่ได้เลี้ยง
เวลา 17.20 น. หลังการผ่าชันสูตรและนำกระสุนออกจาก ทั้ง 3 ศพเสร็จสิ้น นายเชาว์ จุดธูปไหว้พระด้านในห้องรับศพเพื่อเปิดให้เจ้าที่เจ้าทางนำ 3 ร่างไปบำเพ็ญกุศลที่วัดหนองใหญ่ เขตสายไหม กรุงเทพฯ
มีการเคลื่อนร่างผู้เสียชีวิตออกมาใส่โลงศพ โดยนำนางสาวกรวิภาออกมาเป็นศพแรก ต่อมาคือศพเด็กชายเด็กชายปวีณวัช และศพสุดท้ายคือ ศพนายศราวุฒิ โดยนำร่างขึ้นบนรถแยกกันคนละคัน บรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้า น้องสาวนายศราวุฒิ และนายเชาว์ พ่อของนางสาวกรวิภาร้องไห้อย่างหนัก
เวลา 18.10 น. ร่างทั้ง 3 เคลื่อนมาถึงวัดหนองใหญ่ โดยบรรยกาศมีผู้มาร่วมงานจำนวนมาก โดยญาติเตรียมสถานที่เพื่อที่จะนำทั้ง 3 ศพ บำเพ็ญกุศลในศาลาเดียวกัน โดยรูปหน้าศพเป็นรูปที่ถ่ายด้วยกันพร้อมหน้าพร้อมตาทั้ง 3 คน เสียงร้องไห้ระงมไปทั่วศาลา
ทีมข่าวเดินทางย้อนกลับไปที่ตลาดมารวย พบว่าครอบครัวของนายศราวุธ คนตาย เดินทางไปพร้อมกับภรรยาและลูก โดยเดินทางไปเพื่อซื้อกุ้งและปลา เพื่อที่จะย้อนกลับมาทำกับข้าวเลี้ยงนายอำพล คนก่อเหตุ โดยครอบครัวได้มีการนัดหมายให้มือยิงเดินทางมาร่วมงานสังสรรค์ในช่วงค่ำ
กล้องวงจรปิดภายในตลาดมารวย วินาทีที่ครอบครัวพากันซื้อกุ้งและปลา เวลาประมาณ 12.00-12.04 น. หลังจากที่ครอบครัวของนายศราวุธเดินทางมาถึงที่ตลาด พากันเดินจุงมือไปซื้อกุ้ง ซื้อปลา แล้วออกตลาดสด จากนั้นก็ขับรถออกจากตลาด ก่อนที่จะกลับไปที่บ้าน
นางวันเพ็ญ (นามสมมติ) เพื่อนบ้านมือยิง เปิดเผยว่า ปัจจุบันหลังจากที่แม่ของนายอำพลถูกจับรวมตอนนี้ติดคุกไปแล้ว 7 ปี ซึ่งศาลมีคำพิพากษาตัดสินจำคุก 25 ปี ในตอนนั้นก็จำได้ว่าตำรวจมีการพบยาเสพติดใต้ถุนบ้านของแม่นายอำพล เพราะแม่ทำอาชีพขายของชำ ส่วนใหญ่ให้บริการกับพวกที่ขับแท็กซี่ แต่หลังจากที่ตำรวจมีการพบของกลางใต้ถุนบ้าน จึงถูกจับดำเนินคดี แล้วตอนนั้นทุกคนในซอยก็รู้กันดีว่าตัวของแม่นายอำพลมีส่วนเกี่ยวข้องกับยาเสพติด
ภายหลังที่แม่ของนายอำพลถูกจับ ตัวของนายอำพลก็ยังไปมาหาสู่และคบค้าสมาคมกับนายศราวุธตามปกติ เพราะทั้งคู่ก็โตกันมาในชุมชนตั้งแต่เด็ก หลังจากที่แม่ของนายอำพลถูกจับดำเนินคดีไม่นาน ตัวของนายศราวุธก็ได้ย้ายออกไปอยู่ข้างนอก เพราะเนื่องจากตอนนั้นเริ่มตั้งท้องน้องปืน แต่การที่นายศราวุธย้ายออกไปอยู่ข้างนอก แล้วก็ยังแวะเวียนเข้ามาเยี่ยม และมาเที่ยวหานายอำพลเหมือนเดิม ทั้งคู่ก็ไม่ได้ดูว่ามีอะไรขัดแย้งกัน
อย่างไรก็ตาม วันนั้นตนเองจำได้ว่าตัวของนายอำพลมีลักษณะคล้ายอุ้มหมาออกไปด้วย แต่หน้าตาค่อนข้างเครียด ไม่ยิ้มแย้มแจ่มใส เพราะโดยปกติเจ้าตัวจะยิ้มทักทาย และยกมือไหว้ตนเองก่อนออกจากซอยทุกครั้ง ตนเองในฐานะคนที่เลี้ยงทั้งคู่มาตั้งแต่เด็ก ก็รู้สึกเสียใจเช่นกัน ที่เกิดเหตุการณ์สลดแบบนี้เกิดขึ้น และตนเองก็รู้สึกสงสารน้องปืน ซึ่งเป็นเด็กที่ยังไม่รู้เรื่องอะไรต้องมาตายกับเหตุการณ์แบบนี้
Advertisement